NKT เปิดเทรดครั้งแรกทรุดหนัก 23% จากราคาขายไอพีโอที่ 7.80 บาท ฟากโบรกฯให้เป้าปี 68 ที่ 12.20 บาท
ความเคลื่อนราคาหุ้น NKT หรือ บริษัท โรงพยาบาลนครธน จำกัด (มหาชน) ซึ่งเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเป็นครั้งแรกวันนี้ (20 ธ.ค.67) โดยเปิดตลาดราคาหุ้นอยู่ที่ระดับ 5.95 บาทต่อหุ้น ลดลงกว่า 23.72% จากราคาเสนอขายหุ้นไอพีโอที่เปิดให้กับนักลงทุนจองซื้อที่ 7.80 บาทต่อหุ้น
ทั้งนี้จากการสำรวจข้อมูลเบื้องต้นพบว่า บริษัท โรงพยาบาลวิภาวดี จำกัด (มหาชน) หรือ VIBHA ได้รับการจัดสรรหุ้นไอพีโอในครั้งนี้ จำนวน 6 ล้านหุ้น
โดย NKT ประกอบกิจการสถานพยาบาลขนาด 150 เตียง ภายใต้ชื่อ “โรงพยาบาลนครธน” มากว่า 28 ปี ให้บริการรักษาระดับตติยภูมิ ด้วยเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ทันสมัย และบุคลากรทางการแพทย์ที่เชี่ยวชาญทั้งสาขาอายุรศาสตร์ และสาขาเฉพาะทางต่างๆ
โดยมีศูนย์การแพทย์เฉพาะทาง 20 ศูนย์ เช่น ศูนย์สมองและระบบประสาท ศูนย์หัวใจ ศูนย์มะเร็ง เป็นต้น นอกจากนี้ ยังมีการให้บริการร่วมกับพันธมิตรที่เป็นบริษัทในเครือโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ให้บริการกรุงเทพฯ ฝั่งตะวันตก (ย่านพระราม 2) จึงสามารถตอบสนองความต้องการในการรักษาพยาบาลและได้รับความไว้วางใจจากผู้ใช้บริการด้วยดีเสมอมา
ขณะที่ดร. วิศาล สายเพ็ชร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. โรงพยาบาลนครธน เปิดเผยว่า โรงพยาบาลนครธนเป็นหนึ่งในโรงพยาบาลชั้นนำที่ให้บริการแบบครบวงจร (One Stop Service) ในทำเลที่มีศักยภาพการเติบโตที่จะเป็นเขตเมืองใหม่ในอนาคต
สำหรับการระดมทุนและเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในครั้งนี้ จะช่วยเสริมสร้างการเติบโตให้แก่บริษัทที่มีแผนจะเพิ่มจำนวนเตียงเพื่อรองรับการให้บริการของโรงพยาบาล และมีโครงการลงทุนเพื่อรองรับผู้ป่วยประกันสังคม และศูนย์ดูแลผู้สูงอายุและผู้มีภาวะพึ่งพิงแบบองค์รวม อันจะเป็นการขยายการให้บริการที่หลากหลายและครอบคลุมความต้องการของผู้ใช้บริการได้มากยิ่งขึ้น เพื่อมุ่งสู่การเป็นโรงพยาบาลชั้นนำระดับประเทศ
ด้านบริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด ประเมินมูลค่าหุ้น NKT สิ้นปี 2568 ที่ 12.20 บาท SOTP จากวิธี DCF อิง WACC ที่ร้อยละ 8.80 สําหรับการดําเนินงานของโรงพยาบาลนครธน 1 ที่ 11.00 บาท เทียบเท่า ForwardP/E Ratio ปี 2568 ที่ 20.60 เท่า
และจากโครงการในอนาคต ได้แก่ โรงพยาบาล 2 และโครงการ Nakornthon Long Life Center ที่ 1.20 บาท จากการอิง P/BV ที่ 2.50 เท่า ส่งผลให้ได้มูลค่าหุ้น NKT ที่12.20 บาท เทียบเท่า Forward P/E Ratio ปี 2568 ที่ 22.85 เท่า ซึ่งใกล้ค่าเฉลี่ยของหุ้นในกลุ่มที่ประกอบธุรกิจใกล้เคียงกันในประเทศ
สําหรับกําไรในปี 2567-2569 ฝ่ายวิเคราะห์ฯ ประเมินไว้ ที่ 270 ล้านบาท 286 ล้านบาท และ 317 ล้านบาท ตามลําดับ คิดเป็นอัตราการเติบโตเฉลี่ย (CAGR) ประมาณร้อยละ 6.46 ตามรายได้ที่เพิ่มขึ้น
โดยการเติบโตระยะยาวจะมาจากการเพิ่มจํานวนเตียง IPD จาก 150 เตียงเป็น 496 เตียงภายในปี 2570 เติบโตกว่าร้อยละ 230.67 และการรับคนไข้กลุ่มประกันสังคมที่จะเพิ่มฐานคนให้ครอบคลุมยิ่งขึ้น ทั้งนี้ การเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ หนุน Demand ของโครงการ NakornthonLong Life Center ที่คาดว่าจะเปิดให้บริการในปี 2569