รายงานพิเศษ : SMD100 ปรับกลยุทธ์ครั้งสำคัญ มุ่งเน้นธุรกิจที่สร้างรายได้แบบต่อเนื่อง หวังพัฒนาฐานการเติบโตได้อย่างยั่งยืน
แนวทางการสร้างแหล่งรายได้ประจำเป็นสิ่งที่สำคัญในทุกธุรกิจ เพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับนักลงทุน ซึ่ง บมจ.เซนต์เมด หรือ SMD100 ได้มีการปรับกลยุทธ์โดยเน้นหารายได้จากธุรกิจเทรดดิ้ง การให้เช่าเครื่องมือแพทย์ หวังสร้างรายได้ที่ยั่งยืน
โดยดร.วิโรจน์ วสุศุทธิกุลกานต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เซนต์เมด หรือ SMD100 ระบุว่า บริษัทได้ปรับกลยุทธ์ครั้งใหญ่ เปลี่ยนนโยบายจากมุ่งเน้นหารายได้จากธุรกิจเทรดดิ้งเป็นมุ่งเน้นหารายได้จากธุรกิจที่สร้างรายได้ที่ต่อเนื่อง ในรูปแบบให้เช่าใช้เครื่องมือ เช่าซื้อเครื่องมือแพทย์ และหรือเก็บส่วนแบ่งรายได้จากคู่ค้าแทนการขายขาด โดยร่วมมือกับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องต่างๆ เพื่อสร้างโอกาสให้ผู้ที่จำเป็นต้องใช้เครื่องมืออุปกรณ์ทางการแพทย์ สามารถเข้าถือเครื่องมือทางการแพทย์ได้อย่างทั่วถึง
ซึ่งบริษัทได้ขยายธุรกิจเครื่องมือแพทย์เฉพาะด้านเวลเนส เพื่อตอบโจทย์เทรนด์การท่องเที่ยวทางการแพทย์ ( Medical Tourism) และการดูแลสุขภาพเชิงป้องกันมากขึ้น รวมถึงลงนามสัญญาเป็นตัวแทนจำหน่ายระบบAI ตรวจจับมะเร็งปอด(Lung CA) จากภาพ CT ทุกแบรนด์แต่เพียงผู้เดียว
นอกจากนี้ คณะกรรมการบริษัทยังอนุมัติให้บริษัทเข้าเสนอโครงการจัดตั้งศูนย์ฉายแสงรักษามะเร็งด้วยเครื่อง CT/Linc โดยร่วมลงทุนกับโรงพยาบาลรัฐต่างๆในรูป PPP และ Revenue Sharing เป็นโครงการขนาดใหญ่ 3 โครงการ ซึ่งจะได้รับการสนับสนุนเงินทุนจากธนาคาร รวมกับเงินทุนของบริษัทเอง
“ในอนาคตเราไม่ต้องการเป็นบริษัทเครื่องมือชั้นนำในประเทศ แต่เรากำลังขับเคลื่อนระบบการให้บริการสุขภาพไปสู่มิติใหม่ โดยบริษัท SMD Rise จะเกิดขึ้นหากผุ้ถือหุ้นให้ความเห็นชอบ ซึ่งธุรกิจของบริษัทจะประกอบด้วย 4 ธุรกิจ ได้แก่ 1.SMDX 2. SMDI 3. SMD Genesis ซึ่งเป็นธุรกิจเดิมด้านตัวแทนจำหน่ายเครื่องมือแพทย์ และ 4. DaaS Business Unit”
ทั้งนี้ในไตรมาส 3/67 บริษัทได้เปลี่ยนชื่อหลักทรัพย์จาก SMD เป็น SMD100 ซึ่งได้ผ่านการอนุมัติจากคณะกรรมการบริษัทเมื่อวันที่ 13 พ.ย. 67 นอกจากนี้บริษัทยังมีแผนที่จะเปลี่ยนชื่อจาก เซนต์เมด เป็น SMD rise โดยผ่านการพิจารณาเห็นชอบจากคณะกรรมาการบริษัทเรียบร้อย และในการประชุมผู้ถือหุ้นก็เตรียมขออนุมัติ
สำหรับผลประกอบการไตรมาส 3/67 บริษัทมีรายได้จากการขายและบริการรวม 252.27 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 37.91% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน 182.93 ล้านบาท เนื่องจากยอดขายสินค้าที่เพิ่มขึ้นจากการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณภาครัฐประจำปี 2567 และมีกำไรสุทธิ 29.08 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 137.58% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน 12.24 ล้านบาท
ขณะที่ผลการดำเนินงาน 9 เดือนแรกของปี 67 มีรายได้จากการขายและบริการรวม 571.27 ล้านบาท ลดลง 1.71% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน 581.23 ล้านบาท จากการเพิ่มขึ้นของคู่แข่งทำให้เกิดการแข่งขันที่รุนแรงด้านราคา และมีกำไรสุทธิ 2391 ล้านบาท ลดลง 51.09% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน 48.88 ล้านบาท
นอกจากนี้บริษัทมีรายได้อื่นที่ส่วนใหญ่ประกอบด้วย ดอกเบี้ยรับ ดอกเบี้ยจากการให้เช่าทรัพย์สินเพิ่มขึ้นในไตรมาส 3/67 มีรายได้อื่น 1.28 ล้านบาท ลดลง 4.48% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน 1.34 ล้านบาท ขณะงวด 9 เดือนแรกของปีก67 มีรายได้อื่น 5.10 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.35% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน4.46 ล้านบาท