จับประเด็นหุ้นเด่น

รายงานพิเศษ : HFT ผู้นำตลาด “ยางมอเตอร์ไซค์-จักรยาน” ครึ่งปีหลังไฮซีซั่นธุรกิจรับออเดอร์ฝั่งยุโรป ชูเป็นหุ้นปันผลสูง แถมราคายังต่ำบุ๊ค


21 ธันวาคม 2567

ยอดขายรถจักรยานยนต์และรถจักรยาน ยังคงเติบโตต่อเนื่อง โดยเฉพาะรถจักรยานที่ได้รับความนิยมจากการลดภาวะโลกร้อน และการดูแลสุขภาพ  ขณะที่รถมอเตอร์ไซค์ก็เติบโตได้ดี จากกระแสการสั่งสินค้า และอาหารออนไลน์ ส่งผลดีต่อยอดขายของ บมจ.ฮั้วฟงรับเบอร์ (ไทยแลนด์) (HFT)

รายงานพิเศษ HFT ผู้นำตลาด “ยางมอเตอร์ไซค์-จั_.jpg

บมจ.ฮั้วฟงรับเบอร์ (ไทยแลนด์) (HFT) ผู้นำในการผลิตและจำหน่ายยางนอกและยางในสำหรับรถจักรยาน รถจักรยานยนต์ และรถขนส่งขนาดเล็ก โดยได้รับความสนับสนุนจากบริษัทแม่ภายใต้แบรนด์ DURO และเป็นผู้ผลิตภายใต้แบรนด์ Q-UICK และ DUNLOP จากบริษัท Sumitomo Rubber ของประเทศญี่ปุ่น รวมทั้งกลุ่มสินค้า OEM (Original Equipment Manufacturer) โดยบริษัทฯ รับจ้างผลิตสินค้าให้กับผู้ผลิตชั้นนำทั้งในประเทศและต่างประเทศ

ครึ่งปีหลังเข้าสู่ไฮซีซั่น

นายจวง จื้อ เหยา Vice President บริษัท ฮั้วฟงรับเบอร์ (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) (HFT) เปิดเผยว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานช่วงครึ่งปีหลังของปี 2567 มีทิศทางการเติบโตที่ดี เทียบครึ่งแรกของปี 2567 และเมื่อเทียบจากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากอุตสาหกรรมเข้าสู่ช่วงของไฮซีซั่น รวมถึงมีคำสั่งซื้อจากลูกค้าในประเทศ และฝั่งทวีปยุโรปเข้ามาเพิ่มมากขึ้น หลังจากเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัวและผู้บริโภคมีกำลังซื้อสูงขึ้น 

ทั้งนี้ บริษัทฯ ยังมีโอกาสในการเติบโตได้อีกมาก เนื่องจากอุตสาหกรรมการผลิตยางจักรยานและยางจักรยานยนต์ มีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเฉลี่ยปีละ 4.2 ล้านเส้น /ปี (จากผู้ใช้รถจักรยาน 2.1 ล้านคันทั่วประเทศ (Source : ข้อมูลการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และ www.thaicycling.or.th)  และประมาณการ 45.28 ล้านเส้น / ปี (จากรถมอเตอร์ไซค์ที่จดทะเบียน 22.64 ล้านคัน ในปี 2566 Source : Krungsri Research) ตามลำดับ ซึ่งสอดคล้องกับความต้องการใช้ของผู้บริโภคในปัจจุบัน

เดินหน้าเจาะลูกค้ายุโรป

บริษัทฯ ยังคงมุ่งมั่นที่จะขยายตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะในยุโรป ซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าหลัก และมีกำลังซื้อฟื้นตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง เมื่อเทียบจากช่วงปีที่ผ่านมา โดยเล็งเห็นโอกาสในการเจาะกลุ่มลูกค้านักปั่นจักรยาน ซึ่งเป็นตลาดที่กำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในขณะนี้ 

สำหรับสินค้าที่ส่งออกไปยังยุโรปจะถูกติดสัญลักษณ์ FSC ซึ่งได้รับการรับรองว่า บริษัทได้ดำเนินโครงการ Forest Stewardship Council (FSC) หรือโครงการการจัดการด้านป่าไม้อย่างยั่งยืน ซึ่งเป็นโครงการที่จะสอดรับกับกฎหมายว่าด้วยสินค้าที่ปลอดจากการตัดไม้ทำลายป่า หรือ EUDR (EU Deforestation Regulation) ของสหภาพยุโรป

รุกงานไฮมาร์จิ้น

อีกทั้งยังเดินหน้าขยายไลน์ผลิตสินค้ากลุ่มรถกอล์ฟเพื่อตอบสนองตลาดกลุ่มลูกค้าในประเทศสหรัฐอเมริกา เนื่องจากมีสนามกอล์ฟกว่า 17,000 สนาม ซึ่งถือได้ว่าเป็นตลาดขนาดใหญ่มีมาร์จิ้นค่อนข้างสูง จึงคาดว่าจะเป็น New S-Curve ที่ช่วยสนับสนุนผลงานให้เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยตั้งเป้ารายได้เติบโตเฉลี่ยปีละ 15%

ปัจจุบันบริษัทฯ ได้ดำเนินการลงทุนติดตั้งเครื่องจักรเพิ่ม เพื่อผลิตสินค้าคุณภาพระดับพรีเมียม พร้อมทั้งนำเทคโนโลยี AI มาเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน และใช้ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เช่น ยางรถจักรยานแบบไม่ใช้ยางใน เป็นต้น เพื่อรองรับคำสั่งซื้อของลูกค้าที่มีเข้ามาเพิ่มมากขึ้น และถือเป็นเป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับผลิตภัณฑ์อีกด้วย

โซลาร์รูฟท็อปลดต้นทุนค่าไฟ

นอกจากนั้นในปี 2567 บริษัทฯ ได้ลงทุนติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปบนหลังคาโรงงานแห่งที่ 1 และ แห่งที่ 2  กำลังผลิต 4 เมกะวัตต์ (MW) ซึ่งช่วยให้บริษัทฯ สามารถลดต้นทุนค่าไฟฟ้าในการผลิตได้ราว 20 ล้านบาท/ปี หรือคิดเป็น 20% ของการใช้ไฟฟ้าทั้งหมด อีกทั้งโครงการนี้ยังได้รับสิทธิการยกเว้นภาษีจาก BOI ประมาณ 50% เป็นระยะเวลา 3 ปี และคาดการณ์ว่าจะคืนทุนภายในระยะเวลา 4 ปี

หุ้นปันผลสูง

บริษัทฯ ยังคงมองหาโอกาสในการขยายการลงทุนทั้งในธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจหลักและธุรกิจใหม่ๆ สร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้นอย่างสม่ำเสมอ สอดคล้องกับนโยบายในการจ่ายปันผลไม่ต่ำกว่า 30% ของกำไรสุทธิ ซึ่งล่าสุดได้จ่ายปันผลจากงวดดำเนินงานวันที่ 1 มกราคม – 30 มิถุนายน 2567 และกำไรสะสม เป็นเงินสดในอัตรา 0.28 บาท/หุ้น อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล (Dividend Yield) สูงถึง 6.7% (คิดจากราคาหุ้นปิดตลาดล่าสุด ณ วันที่ 9 ธันวาคม 2567 ที่ระดับ 4.14 บาท/หุ้น)

หุ้นราคาต่ำบุ๊ค

ราคาหุ้น HFT ปิดตลาด ณ วันที่ 9 ธันวาคม 2567 ที่ระดับ 4.14 บาท/หุ้น ขณะที่อัตราส่วนราคาตลาดต่อมูลค่าตามบัญชี (P/BV) อยู่ที่ 0.79 เท่า และมีมูลค่าหุ้นทางบัญชีต่อหุ้น (Book Value) อยู่ที่ระดับ 5.23 บาท/หุ้น ซึ่งจะเห็นได้ว่าราคาหุ้นปัจจุบันยังต่ำกว่าปัจจัยพื้นฐาน จึงเป็นอีกหนึ่งเสน่ห์ที่จะช่วยดึงดูดให้นักลงทุนสนใจลงทุนหุ้น HFT

HFT