โบรกฯ ประสานเสียงเป้า SET Index ปี 68 ลุ้นทะยานแตะ 1,600 จุด ขานรับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ
โดยนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) ให้มุมมองว่าเป้าหมายดัชนีปี 2568 ที่ระดับ 1,660 จุด ขณะที่หุ้นแนะนำ ประกอบไปด้วย ADVANC, AWC, BJC, BTS, CPALL, HMPRO, IVL, KBANK, KTB, TRUE และหุ้นขนาดเล็ก INSET, JMT, MALEE, MOSHI
สำหรับแรงขับเคลื่อนสำคัญต่อตลาดหุ้นไทย คือ เศรษฐกิจไทยกำลังจะเร่งขึ้นทำจุดสูงสุดของปีในงวดไตรมาส 4/67 ที่ 4% ด้วยการเบิกจ่ายงบประมาณรัฐฯที่จะกลับมาเป็นแรงส่งเต็มเม็ดเต็มหน่วยจากการเบิกจ่ายตั้งแต่ต้นปีงบประมาณครั้งแรกในรอบ2ปีผสานภาคบริการ-การท่องเที่ยวที่ยังขยายตัวดี ขณะที่ปี 2568 เติบโตต่อเนื่องอีก 3.0% ต้นปี
ขณะเดียวกัน คาดว่าจะมีอัพไซด์เพิ่มเติมต่อด้วยมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจำนวนมาก อาทิไร่ละพันกองทุนหมู่บ้านDigital Wallet เฟส 2 รวมถึงมาตรการลดหย่อนภาษีจากการซื้อสินค้าบริการนอกจากนี้แรงบวกสำคัญจะมาจากการเข้าสู่รอบลงทุนใหม่ของไทยเราคาดนับจากปี 2568 จะเป็นวงจรลงทุนรัฐบาลและเอกชนสอดประสานอีกครั้งสัญญาณบวกบ่งชี้ตั้งแต่ไตรมาส 3/67 ที่การลงทุนขยายตัวเกิน 5% ครั้งแรกในรอบ 8.5 ปี ระยะถัดไปยังเต็มไปด้วยแผนผลักดัน
ด้านนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ประเมินเป้าหมายดัชนีตลาดหุ้นไทยสิ้นปี 2568 ที่ 1,600 จุด ภายใต้จุดเด่นในด้าน Valuation ที่ยังไม่แพงเกินไป, แนวโน้มดอกเบี้ยในประเทศที่ทรงตัวในระดับต่ำ, มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลมีความต่อเนื่อง, และการลงทุนทางตรง (FDI) ที่ยังอยู่ในช่วงเร่งตัว
สำหรับธีมการลงทุนในหุ้นรายตัวที่มีโอกาสเติบโตท่ามกลางเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจไทยที่ผันผวน จึงมีโอกาสช่วยลดความเสี่ยงในการลงทุน และเพิ่มผลตอบแทนให้กับพอร์ตการลงทุนได้ในระยะยาว
ต่อมานักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ ธนชาต จำกัด (มหาชน) ยังคงมีมุมมองเป็นบวกต่อตลาดหุ้นไทย โดยปัจจัยหลักผลักดันการเติบโตมีดังนี้ การปลดล็อคนโยบายการคลัง, การท่องเที่ยวที่ยังคงแข็งแกร่ง, การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ ซึ่งกลายเป็นตัวขับเคลื่อนการลงทุน และเพิ่มฐานการส่งออก
รวมไปถึงการผ่อนคลายเงื่อนไขทางการเงินที่เข้มงวดอย่างค่อยเป็นค่อยไป จากนโยบายปรับโครงสร้างหนี้ครัวเรือนของรัฐบาล และการลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายและโอกาสจากปัจจัยภายนอก จึงยังคงเป้าดัชนี SET ปี 2568 ที่ 1,580 จุด ซึ่งหุ้น Top Picks ซึ่งประกอบ AMATA, BH, CBG, CENTEL, COM7, CPALL, MINT, MTC, WHA และ TRUE
ถัดมาเป็นนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด คงเป้าดัชนีตลาดหุ้นไทยสิ้นปี 2568 ที่ 1,630 จุด โดยคาดว่า EPS ของตลาดหุ้นไทยจะเติบโต 3% ในปี 67 และโต 11% ในปี 68 โดยมีหุ้น Top pick คือ AMATA, BCH, CBG, CPN, CRC, MTC และ SCB
ทั้งนี้ ธีมหุ้นการลงทุนในปีหน้ามี 6 ธีมได้แก่ ธีมหุ้น ESG จะเป็นที่ต้องการมากขึ้นจากกองทุน Thai ESG (TESG) , ธีมหุ้นที่ได้ประโยชน์จากโครงการดิจิทัลวอลเล็ต เชื่อว่ากลุ่มค้าปลีก กลุ่มธนาคาร กลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคและกลุ่มสินเชื่อเพื่อผู้บริโภค และกลุ่ม Home improvement น่าจะได้ประโยชน์จากโครงการนี้, ธีมหุ้นที่ได้ประโยชน์จาก FDI , ธีมหุ้นสถานบันเทิงครบวงจร , ธีมหุ้นกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน และธีมหุ้น Value play
พร้อมกันนี้ มองอัพไซด์ตลาดหุ้นไทยปี 68 จะมาจากการที่เศรษฐกิจไทยฟื้นตัวแข็งแกร่งจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลและยอดส่งออกที่เติบโตสูงกว่าคาด ขณะที่ดาวน์ไซด์จะมาจากความไม่แน่นอนทางการเมืองที่เพิ่มขึ้น, ความเสี่ยงทางด้านภูมิรัฐศาสตร์สูงขึ้น, การปรับลดอัตราดอกเบี้ยทั้งในและต่างประเทศช้ากว่าคาดและเงินทุนไหลออกจากตลาดหุ้นไทย
สุดท้ายนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด ให้มุมมองว่าอัพไซด์ของดัชนีตลาดหุ้นไทยจะได้รับแรงหนุนจากกำไรที่เติบโตเพิ่มขึ้นจากการบริโภคภายในประเทศและการลงทุนภาคเอกชน โดยคาดว่ากำไรจะเติบโต 22%ในปี2568 โดยมองเป้าหมายดัชนีตลาดหุ้นไทยที่ 1,550 จุด
พร้อมกันนี้ประเมินว่าดัชนีตลาดหุ้นไทยมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ 1,600-1,650 จุด มีความเป็นไปได้ใน 2 ปีข้างหน้า ในกรณีที่มีการลดดอกเบี้ยเหลือ 1.5%, มีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม, การลงทุนจากต่างชาติเป็นไปตามแผนของ BOI และนโยบายภาษีนำเข้าสินค้าของสหรัฐฯ น้อยกว่าที่ตลาดคาดที่ 20% (สำหรับจีนสูงสุด60%)
โดยแนะนำ 4 ธีมการลงทุนที่น่าสนใจ ประกอบไปด้วย Value Stock เน้นหุ้นมูลค่าต่ำกว่าปัจจัยพื้นฐาน ปลอดภัยและมีศักยภาพเติบโตได้ต่อเนื่อง แนะนำ AOT, BBL, CPALL, Dividend Stock เน้นหุ้นปันผลสูงเพื่อสร้างกระแสเงินสดให้พอร์ตลงทุนแนะนำ AP, BCP, LHHOTEL, Laggard Stock เน้นหุ้นที่ราคาปรับขึ้นช้า แต่ผลประกอบการปีหน้าเริ่มส่งสัญญาณบวกแนะนำ BCH, GPSC, HMPRO และ Mid-Small Cap Growth เน้นหุ้นที่กำไรจะเติบโตดีและมีอัพไซด์แนะนำAMATA, AU, INSET