รายงานพิเศษ : WINMED ผลงานกำลังก้าวสู่การเติบโต เมื่อ “ธุรกิจการแพทย์และความงาม” ได้รับการจัดอันดับให้เป็นธุรกิจดาวรุ่งปี 68
ธุรกิจด้านการแพทย์และครองแชมป์ดาวรุ่งของธุรกิจในปี 2568 ผลจากการขยายตัวของตลาด Medical Tourism, การเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ, การดำเนินนโยบายมุ่งสู่การเป็นศูนย์กลางทางการแพทย์ในภูมิภาค ส่งผลดีต่อ บมจ. วินเนอร์ยี่ เมดิคอล (MINMED) ผู้นำเข้า จำหน่ายเครื่อง และชุดอุปกรณ์ทางการแพทย์
สถาบันยุทธศาสตร์การค้า มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยถึงการจัดอันดับ "10 ธุรกิจดาวรุ่ง และ 10 ธุรกิจดาวร่วง" สำหรับปี 2568 โดยมีปัจจัยสนับสนุนสำคัญ ได้แก่ ภาคการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวต่อเนื่อง, การเข้ามาลงทุนของบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ของโลก, ไทยเข้าร่วมเป็นพันธมิตรกับกลุ่ม BRICS และการดำเนินนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ ท่ามกลางปัจจัยสำคัญ ได้แก่ ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ยืดเยื้อ, ปัญหาหนี้ครัวเรือนระดับสูง, ทิศทางนโยบายของรัฐบาลใหม่สหรัฐ และความไม่แน่นอนจากภัยธรรมชาติ
โดยธุรกิจที่ได้รับการจัดอันดับใน 3 อันดับแรก ได้แก่ อันดับ 1 ธุรกิจการแพทย์และความงาม, ธุรกิจ Cloud Service และธุรกิจบริการ Cyber Security
โดยในส่วนของธุรกิจการแพทย์ที่มาแรงเป็นอันดับ 1 เชื่อว่าเป็นผลจากนโยบายฟรีวีซ่าของภาครัฐ และการขยายตัวของตลาด Medical Tourism ของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามาใช้บริการด้านสุขภาพในไทย, การเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ, การดำเนินนโยบายมุ่งสู่การเป็นศูนย์กลางทางการแพทย์ในภูมิภาค
ส่วนธุรกิจ Cloud Service เป็นผลจากที่ประเทศไทยมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องของเศรษฐกิจดิจิทัล การทำธุรกรรมผ่านอินเตอร์เน็ตมากขึ้น เทรนด์ธุรกิจในอนาคตมีการใช้เทคโนโลยี AI และ IoT มากขึ้น ขณะเดียวกัน มีภัยคุกคามทางไซเบอร์มากขึ้น เช่น การโจรกรรมข้อมูลจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชน
อันดับ 2 Social Media และ Online Entertainment, Youtuber, Influencer และการรีวิวสินค้า ซึ่งเทรนด์พฤติกรรมผู้บริโภคในปัจจุบันที่ใช้อินเตอร์เน็ตเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน ทั้งการทำงาน การซื้อสินค้า การให้ความบันเทิง, ความก้าวหน้าของเทคโนโลยีดิจิทัล พร้อมกับการพัฒนาเครือข่ายอินเตอร์เน็ต และโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล ตลอดจนการเติบโตของแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งระดับโลก ท่ามกลางการแข่งขันสูง เช่น Netflix และ Disney+
อันดับ 3 ธุรกิจ E-commerce, Soft Power (ซีรีส์ ภาพยนตร์), ธุรกิจโฆษณา และสื่อออนไลน์ โดยนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและเพิ่มกำลังซื้อของผู้บริโภค ซึ่งปัจจุบันผู้บริโภคมีพฤติกรรมการซื้อสินค้าผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์มากขึ้น เพราะสะดวกสบาย เทียบราคาสินค้าได้ดี
ส่วนธุรกิจ Soft Power โดยเฉพาะซีรีส์ และภาพยนตร์ไทย นับเป็นนโยบายสำคัญที่ภาครัฐมุ่งส่งเสริมวัฒนธรรม และประเพณีไทย ทำให้เกิดกระแสความนิยมของวัฒนธรรมไทยในต่างปรเทศ เช่น อาหารไทย ดนตรีไทย หนังไทย
ขณะที่ธุรกิจโฆษณา และสื่อออนไลน์ เนื่องจากพฤติกรรมของผู้บริโภคที่ใช้เวลากับโลกออนไลน์มากขึ้น โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ ทำให้ธุรกิจโฆษณา และสื่อ ดันมาให้ความสำคัญกับการสร้างการรับรู้ของผู้บริโภคผ่านทางออนไลน์ ที่มีต้นทุนการผลิตต่ำ แต่สามารถเข้าถึงได้ในวงกว้าง
ธุรกิจด้านการแพทย์ยังเติบโตได้ต่อเนื่อง สะท้อนถึงการเอาใจใส่ต่อสุขภาพของประชาชน และสอดคล้องกับสังคมผู้สูงวัยของไทย รวมทั้งสนับสนุน การสร้างรายได้ของ บมจ. วินเนอร์ยี่ เมดิคอล (MINMED) ที่ประกอบธุรกิจเป็นผู้นำเข้า และจำหน่ายเครื่อง และชุดอุปกรณ์ สำหรับการเก็บ การตรวจวิเคราะห์ วินิจฉัย และการบำบัดรักษาทางการแพทย์
โดย “นันทิยะ ดารกานนท์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.วินเนอร์ยี่ เมดิคอล (WINMED) เปิดเผยว่าในไตรมาส 4/67 บริษัทฯ ชนะงานประมูลเพิ่มเป็นเครื่องคัดแยก และเพาะเลี้ยงเซลล์ในระบบปิดอัตโนมัติ สำหรับรักษามะเร็งเลือดให้กับหน่วยงานภาครัฐ มูลค่า 16 ล้านบาท จากก่อนหน้านี้ชนะการประมูลเครื่องเขย่าโลหิต เครื่องชั่ง และเขย่าเกล็ดเลือดพร้อมระบบมาแล้ว มูลค่ารวมกว่า 24.88 ล้านบาท
ขณะที่วินเมดสหคลินิก นำร่องเปิดจุดบริการในการตรวจโรคร่วมกับองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาญจนบุรี ตามโครงการคาราวานชวนประชาชนรับบริการตรวจสุขภาพฟรี 5 รายการ ได้แก่ 1. ตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก สตรีไทยอายุ 30-59 ปี, 2. ตรวจคัดกรองมะเร็งลำไส้ใหญ่ ประชาชนชายและหญิง อายุ 50-70 ปี, 3. ตรวจคัดกรองไวรัสตับอักเสบบี ประชาชนชายและหญิง ที่เกิดก่อนปี 2535, 4. ตรวจคัดกรองไวรัสตับอักเสบซี ให้กับประชาชนชายและหญิง ที่เกิดก่อนปี 2535 และ 5. แจกชุดตรวจ HIV Self Test หรือ การตรวจการเชื้อเอชไอวีด้วยตัวเอง ซึ่งประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี และเตรียมออกคาราวานต่อเนื่องร่วมกับบริษัทเอกชนในจังหวัดสมุทรปราการ โดยมีกลุ่มเป้าหมายมากกว่า 1,000 คน เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงบริการ และรู้ทันโรคก่อนที่จะเสียชีวิตก่อนวัยอันควร
สำหรับ โครงการ Winmed Cares มีอัตราการเติบโตที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และมีรับกระแสตอบรับเป็นอย่างดี จากยอดที่มีผู้ติดตามเพจมากกว่า 60,000 คน ทำให้ประชาชนที่สนใจได้รับความรู้ ความเข้าใจ และเข้าถึงข้อมูลด้านสุขภาพได้มากขึ้น และต้องการใช้บริการเพื่อตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกมากขึ้นตามไปด้วย นอกจากนี้ บริษัทฯยังได้จับมือพันธมิตรชั้นนำต่างๆมากมาย โดยมีการจองคิวเข้ามาร่วมโครงการ Winmed Cares ยาวถึงต้นปี 2568
"แนวโน้มผลการดำเนินงานไตรมาส 4/67คาดว่าจะเติบโตได้ดีกว่าช่วงเดียวกันปีก่อน เนื่องจากโครงการ Winmed Cares มีกระแสตอบรับเป็นอย่างดี อีกทั้งโครงการต่างๆ ของ WINMED ก็อยู่ในช่วงขาขึ้นจากการตรวจคัดกรองและให้บริการทางการแพทย์ รวมถึงการเพิ่มขึ้นของกลุ่มผลิตภัณฑ์ด้านธนาคารโลหิต และแนวโน้มการเติบโตของกลุ่มผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีของเซลล์และโมเลกุล ทำให้มั่นใจได้ว่า ภาพรวมผลการดำเนินธุรกิจในปี 2567 ยังเป็นไปตามแผนที่วางไว้" นายนันทิยะ กล่าว
ขณะที่ ผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ในไตรมาส 3/67 ที่ผ่านมา มีกำไรสุทธิ 10.47 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.33 ล้านบาท หรือ เพิ่มขึ้น 29% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 8.14 ล้านบาท และมีรายได้รวมอยู่ที่ 188.39 ล้านบาท