by.พูเมซ่า
ภาพรวมตลาดหุ้นไทยในเดือนมีนาคม 2566 ดัชนีหุ้นไทยแกว่งตัวผันผวน โดยมีประเด็นการเลื่อนเก็บภาษีขายหุ้นออกมาพูดถึงกัน และน่าจะเป็นปัจจัยสนับสนุนให้ดัชนีสามารถขยับขึ้นมาได้บ้าง ขณะที่บล.ทรีนีตี้ ระบุว่า มองประเด็นการเลื่อนเก็บภาษีขายหุ้นออกไป จะส่งผลบวกด้านสภาพคล่องต่อหุ้นขนาดใหญ่เป็นหลักจากการดำรงอยู่ของกลุ่มนักลงทุนต่างชาติประเภท High frequency trading(HFT) และนักลงทุนกลุ่ม Proprietary trading ซึ่งเป็นกลุ่มนักลงทุนที่มัก Participate ในหุ้นขนาดใหญ่เป็นหลัก
ส่วนผลกระทบต่อดัชนี SET นั้นประเมินว่าการเลื่อนการเก็บภาษีออกไป จะทำให้ความผันผวนของดัชนี SET ทรงตัวอยู่ในระดับต่ำต่อไป เนื่องจากการเข้ามามีบทบาทของนักลงทุนกลุ่ม HFT นี้ นั้นทำให้กรอบการแกว่งตัวของตลาดหุน้ ไทยในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งนั้นหมายความว่า Downside risk ของดัชนีในไตรมาส 2/2566 อาจไม่ลึกเท่ากับมุมมองที่เคยมองไว้แต่แรก โดยแนวรับ 1,597 แนวต้าน 1,620
จากการสำรวจข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในส่วนของการปิดสมุดทะเบียนรายชื่อผู้ถือหุ้นของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทย พบว่าในเดือนมีนาคม 2566 บริษัท ไอ-เทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ITC ปิดสมุดทะเบียนรายชื่อผู้ถือหุ้นและจะเห็นว่า มีการเปลี่ยนแปลงสัดส่วนการถือครองหุ้นอย่างน่าสนใจ โดยเฉพาะกลุ่มนักลงทุนรายใหญ่และผู้บริหารบริษัทจดทะเบียนชื่อดังที่เคยปรากฎรายชื่อว่าเป็นผู้ถือหุ้น แต่จากรายชื่อผู้ถือหุ้นล่าสุด ณ วันที่ 1 มีนาคม 2566 ไม่ปรากฏรายชื่อว่าเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ 1 ใน 10 อันดับแรกแล้ว ขณะเดียวกันก็มีสัดส่วนการถือครองลดลงอย่างเห็นได้ชัด
สำหรับโครงสร้างผู้ถือหุ้นล่าสุด ประกอบด้วย
หากนำมาเปรียบเทียบกับการปิดสมุดทะเบียนรายชื่อในครั้งก่อนเมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2565 ดังนี้
จากข้อมูลข้างต้นจะเห็น "พงศ์ศักดิ์ ธรรมธัชอารี"หรือหมอพงศ์ศักดิ์ นักลงทุนรายใหญ่ได้มีสัดส่วนการถือครองหุ้นลดลง จาก 20,015,000 หุ้น คิดเป็น 0.67% ล่าสุดเหลือ 12,615,000 หุ้นคิดเป็น 0.42% ขณะที่ "สุระ คณิตทวีกุล"นักลงทุนรายใหญ่ก็ได้มีการลดสัดส่วนเช่นกัน จากเดิมถือหุ้น 15,109,730 หุ้น คิดเป็น 0.50% ล่าสุดเหลือ 11,201,530 หุ้นคิดเป็น 0.37% ดังนั้นการลดสัดส่วนในครั้งนี้น่าจะสะท้อนได้ว่า ที่ผ่านมาได้มีการทยอยขายหุ้นออกมา และมีโอกาสที่จะถือหุ้นในสัดส่วนที่ลดลง หรือไม่เหลือการถือครอง
ขณะเดียวกัน หากพิจารณาในส่วนของกลุ่มผู้บริหารชื่อดังของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทยที่เคยถือหุ้น ITC แต่ปัจจุบันไม่พบว่ามีรายชื่อในการถือครองแล้ว ซึ่งอาจเป็นไปได้ว่ามีการขายหุ้นออกไปทำให้การถือหุ้นไม่แตะระดับ 1ใน 10 ผู้ถือหุ้นใหญ่ก็เป็นไปได้ โดยผู้บริหารในกรณีนี้ประกอบด้วย "คีรี กาญจนพาสน์" ประธานกรรมการ, ประธานคณะกรรมการบริหาร บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) BTS เคยถือหุ้น ITC ที่ระดับ 10,000,000 หุ้นคิดเป็น 0.33% "กวิน กาญจนพาสน์"กรรมการผู้อำนวยการใหญ่, กรรมการ บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน)BTS เคยถือหุ้นITC ที่ระดับ10,000,000 หุ้นคิดเป็น0.33% "ธีรพงศ์ จันศิริ"รองประธานกรรมการ, ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) TUเคยถือหุ้น 9,277,956 หุ้นคิดเป็น 0.31%
ส่วนการเคลื่อนไหวราคาหุ้น ITC ตั้งแต่ต้นปีราคาหุ้นปรับตัวลดลง 1.67% โดยราคาเคยขึ้นไปสูงสุดที่ 32 บาทต่อหุ้น และต่ำสุดที่ 25 บาทต่อหุ้น จากกรอบราคาดังกล่าวสะท้อนได้ว่า ราคาหุ้น ITC ยังไม่สามารถปรับตัวขึ้นสูงกว่าราคาไอพีโอได้เลย
ภาพรวมตลาดหุ้นไทยในเดือนมีนาคม 2566 ดัชนีหุ้นไทยแกว่งตัวผันผวน โดยมีประเด็นการเลื่อนเก็บภาษีขายหุ้นออกมาพูดถึงกัน และน่าจะเป็นปัจจัยสนับสนุนให้ดัชนีสามารถขยับขึ้นมาได้บ้าง ขณะที่บล.ทรีนีตี้ ระบุว่า มองประเด็นการเลื่อนเก็บภาษีขายหุ้นออกไป จะส่งผลบวกด้านสภาพคล่องต่อหุ้นขนาดใหญ่เป็นหลักจากการดำรงอยู่ของกลุ่มนักลงทุนต่างชาติประเภท High frequency trading(HFT) และนักลงทุนกลุ่ม Proprietary trading ซึ่งเป็นกลุ่มนักลงทุนที่มัก Participate ในหุ้นขนาดใหญ่เป็นหลัก
ส่วนผลกระทบต่อดัชนี SET นั้นประเมินว่าการเลื่อนการเก็บภาษีออกไป จะทำให้ความผันผวนของดัชนี SET ทรงตัวอยู่ในระดับต่ำต่อไป เนื่องจากการเข้ามามีบทบาทของนักลงทุนกลุ่ม HFT นี้ นั้นทำให้กรอบการแกว่งตัวของตลาดหุน้ ไทยในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งนั้นหมายความว่า Downside risk ของดัชนีในไตรมาส 2/2566 อาจไม่ลึกเท่ากับมุมมองที่เคยมองไว้แต่แรก โดยแนวรับ 1,597 แนวต้าน 1,620
จากการสำรวจข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในส่วนของการปิดสมุดทะเบียนรายชื่อผู้ถือหุ้นของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทย พบว่าในเดือนมีนาคม 2566 บริษัท ไอ-เทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ITC ปิดสมุดทะเบียนรายชื่อผู้ถือหุ้นและจะเห็นว่า มีการเปลี่ยนแปลงสัดส่วนการถือครองหุ้นอย่างน่าสนใจ โดยเฉพาะกลุ่มนักลงทุนรายใหญ่และผู้บริหารบริษัทจดทะเบียนชื่อดังที่เคยปรากฎรายชื่อว่าเป็นผู้ถือหุ้น แต่จากรายชื่อผู้ถือหุ้นล่าสุด ณ วันที่ 1 มีนาคม 2566 ไม่ปรากฏรายชื่อว่าเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ 1 ใน 10 อันดับแรกแล้ว ขณะเดียวกันก็มีสัดส่วนการถือครองลดลงอย่างเห็นได้ชัด
สำหรับโครงสร้างผู้ถือหุ้นล่าสุด ประกอบด้วย
รายชื่อ | จำนวน(หุ้น) | %การถือครอง |
ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป | 2,334,659,681 | 77.82 |
CITIBANK NOMINEES SINGAPORE PTE LTD-A/C GIC C | 57,027,046 | 1.90 |
ไทยเอ็นวีดีอาร์ | 42,842,611 | 1.43 |
สารัชถ์ รัตนาวะดี | 20,027,100 | 0.67 |
SOUTH EAST ASIA UK (TYPE A) NOMINEES LIMITED | 15,546,800 | 0.52 |
น.พ.พงศ์ศักดิ์ ธรรมธัชอารี | 12,615,000 | 0.42 |
UBS EUROPE SE, LUXEMBOURG BRANCH | 11,599,000 | 0.39 |
จารุณี ชินวงศ์วรกุล | 11,285,297 | 0.38 |
สุระ คณิตทวีกุล | 11,201,530 | 0.37 |
กองทุนเปิด กรุงศรีหุ้นปันผล | 10,005,862 | 0.33 |
หากนำมาเปรียบเทียบกับการปิดสมุดทะเบียนรายชื่อในครั้งก่อนเมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2565 ดังนี้
ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป | 2,334,659,681 | 77.82 |
Credit Suisse (Singapore) Limited | 125,297,000 | 4.18 |
The Hongkong and Shanghai Banking Corporation Limited | 87,803,000 | 2.93 |
น.พ.พงศ์ศักดิ์ ธรรมธัชอารี | 20,015,000 | 0.67 |
สุระ คณิตทวีกุล | 15,109,730 | 0.50 |
จารุณี ชินวงศ์วรกุล | 10,143,997 | 0.34 |
คีรี กาญจนพาสน์ | 10,000,000 | 0.33 |
กวิน กาญจนพาสน์ | 10,000,000 | 0.33 |
ธีรพงศ์ จันศิริ | 9,277,956 | 0.31 |
N.C.B.TRUST LIMITED-NORGES BANK 30 | 7,358,200 | 0.25 |
จากข้อมูลข้างต้นจะเห็น "พงศ์ศักดิ์ ธรรมธัชอารี"หรือหมอพงศ์ศักดิ์ นักลงทุนรายใหญ่ได้มีสัดส่วนการถือครองหุ้นลดลง จาก 20,015,000 หุ้น คิดเป็น 0.67% ล่าสุดเหลือ 12,615,000 หุ้นคิดเป็น 0.42% ขณะที่ "สุระ คณิตทวีกุล"นักลงทุนรายใหญ่ก็ได้มีการลดสัดส่วนเช่นกัน จากเดิมถือหุ้น 15,109,730 หุ้น คิดเป็น 0.50% ล่าสุดเหลือ 11,201,530 หุ้นคิดเป็น 0.37% ดังนั้นการลดสัดส่วนในครั้งนี้น่าจะสะท้อนได้ว่า ที่ผ่านมาได้มีการทยอยขายหุ้นออกมา และมีโอกาสที่จะถือหุ้นในสัดส่วนที่ลดลง หรือไม่เหลือการถือครอง
ขณะเดียวกัน หากพิจารณาในส่วนของกลุ่มผู้บริหารชื่อดังของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทยที่เคยถือหุ้น ITC แต่ปัจจุบันไม่พบว่ามีรายชื่อในการถือครองแล้ว ซึ่งอาจเป็นไปได้ว่ามีการขายหุ้นออกไปทำให้การถือหุ้นไม่แตะระดับ 1ใน 10 ผู้ถือหุ้นใหญ่ก็เป็นไปได้ โดยผู้บริหารในกรณีนี้ประกอบด้วย "คีรี กาญจนพาสน์" ประธานกรรมการ, ประธานคณะกรรมการบริหาร บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) BTS เคยถือหุ้น ITC ที่ระดับ 10,000,000 หุ้นคิดเป็น 0.33% "กวิน กาญจนพาสน์"กรรมการผู้อำนวยการใหญ่, กรรมการ บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน)BTS เคยถือหุ้นITC ที่ระดับ10,000,000 หุ้นคิดเป็น0.33% "ธีรพงศ์ จันศิริ"รองประธานกรรมการ, ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) TUเคยถือหุ้น 9,277,956 หุ้นคิดเป็น 0.31%
ส่วนการเคลื่อนไหวราคาหุ้น ITC ตั้งแต่ต้นปีราคาหุ้นปรับตัวลดลง 1.67% โดยราคาเคยขึ้นไปสูงสุดที่ 32 บาทต่อหุ้น และต่ำสุดที่ 25 บาทต่อหุ้น จากกรอบราคาดังกล่าวสะท้อนได้ว่า ราคาหุ้น ITC ยังไม่สามารถปรับตัวขึ้นสูงกว่าราคาไอพีโอได้เลย