รายงานพิเศษ : PCE ผลงานไตรมาส 4 โตแกร่ง รับอุตสาหกรรมเข้าช่วงไฮซีซั่น ยืนหนึ่งผู้นำน้ำมันปาล์มครบวงจร
บมจ.เพชรศรีวิชัย เอ็นเตอร์ไพรส์ (PCE) ผู้นำอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์มแบบครบวงจร มั่นใจผลงานไตรมาส4 ยังเติบโตแข็งแกร่ง ผลจากช่วงไฮซีซั่นของอุตสาหกรรม
ภาพรวมอุตสาหกรรมปาล์มน้ำมันทั่วโลกในปัจจุบันมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง และด้วยพัฒนาการของไทย ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นและมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก เมื่อเทียบกับประเทศอินโดนีเซียและมาเลเซียในหลายๆด้าน ถือเป็นโอกาสการเติบโตของ PCE ผู้นำอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์มแบบครบวงจร ที่มีความพร้อมการจัดการระบบซัปพลายเชน ภายใต้การบริหารงานของ นายพรพิพัฒน์ ประสิทธิ์ศุภผล รองกรรมการผู้จัดการสายงานปฏิบัติการ PCE
3ปัจจัยหนุนอุตฯน้ำมันปาล์ม
สำหรับปัจจัยหนุนที่ทำให้อุตสาหกรรมน้ำมันปาล์มของไทยมีโอกาสไปต่อ ประกอบด้วย 1.แนวโน้มการขยายพื้นที่เพาะปลูกปาล์มน้ำมันจาก 6 ล้านไร่ ในปัจจุบันสู่ 10 ล้านไร่ ภายในปี 2572 จากการสนับสนุนของนโยบายรัฐ 2.ปัจจุบันต้นปาล์มน้ำมันมีอายุเกิน 8 ปี ที่อยู่ในเกณฑ์อายุที่ให้ผลผลิตต่อไร่ (Yield) สูง มีจำนวนมากขึ้น และ 3.ราคาปาล์มอยู่ในเกณฑ์ดีและจูงใจเกษตรกรให้มีแรงจูงใจเพาะปลูก และจากที่ราคายางตกต่ำเกษตรกรบางส่วนหันมาปลูกปาล์มน้ำมันแทนยางพารา
ไตรมาส 4/67โตแกร่ง-เข้าสู่ช่วงไฮซีซั่น
นายพรพิพัฒน์ ให้ความเห็นว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 4/2567 คาดว่าจะเติบโตอย่างแข็งแกร่ง เนื่องจากเป็นช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจ จากดีมานด์การใช้น้ำมันปาล์มในประเทศที่ยังคงเติบโต โดยเฉพาะอุตสาหกรรมอาหาร และอุตสาหกรรมโอเลโอเคมิคอล โดยประเมินว่าในปี 2567 การบริโภคน้ำมันปาล์มในประเทศ และความต้องการใช้น้ำมันปาล์มดิบ (CPO) จะขยายตัวเฉลี่ยระดับ 6-7%
โชว์กำไร 9 เดือน สูงกว่าทั้งปี 66
ส่วนแนวโน้มผลการดำเนินงานในปี 2567 คาดว่าจะเติบโตอย่างแข็งแกร่ง เห็นได้จากงวด 9 เดือน มีรายได้จากการขายและการให้บริการกว่า 21,747.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3,051.9 ล้านบาท หรือ 16.3% และมีกำไรสุทธิ 400.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 86.7% เทียบงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 214.5 ล้านบาท และสูงกว่ากำไรรวมทั้งปี 2566 ที่อยู่ในระดับ 310.73 ล้านบาท และคาดว่ารายได้รวมในปีนี้จะเติบโต 10-15% ตามแผนงานที่วางไว้
“กำไรที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ได้รับปัจจัยหนุนจากการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ใหม่น้ำมันปาล์มกึ่งบริสุทธิ์ (RBDPKO) และผลิตภัณฑ์หลักมีปริมาณการจำหน่ายเพิ่มขึ้นจากความต้องการของลูกค้าที่เป็น Strategic Partner และมีลูกค้าใหม่ที่ทำสัญญาระยะยาวกับบริษัทฯ ขณะที่ต้นทุนในการจัดจำหน่ายลดลง 6.4% เทียบงวดเดียวกันของปีก่อน และได้รับผลดีจาก Economy of Scale อีกด้วย”
จับมือ Sinopharm เสริมแกร่ง
ล่าสุด PCE ประกาศความร่วมมือกับบริษัท China National Pharmaceutical Group หรือ Sinopharm หนึ่งในบริษัทชั้นนำด้านการผลิตและจำหน่ายยาและผลิตภัณฑ์ด้านสุขภาพรายใหญ่จากประเทศจีน เพื่อส่งเสริมการผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากน้ำมันปาล์ม และอนุพันธ์ที่ได้จากการผลิตไบโอดีเซลในตลาดประเทศจีนและภูมิภาคเอเชีย
"ความร่วมมือในครั้งนี้ จะช่วยสร้างความแข็งแกร่งให้กับห่วงโซ่อุปทานของทั้งสองบริษัท ในการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีความยั่งยืน และมีคุณภาพสูง เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคในตลาดโลกที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในสินค้าที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพและการดูแลส่วนบุคคล" นายพรพิพัฒน์ กล่าว
โดยในปี 2568 Sinopharm มีความต้องการใช้ผลิตภัณฑ์จากน้ำมันปาล์ม และอนุพันธ์ที่ได้จากการผลิตไบโอดีเซลของ PCE จำนวน 4 หมื่นตัน
โบรกฯเชียร์ “ซื้อ”เป้า 3.60 บาท
ขณะที่บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด แนะนำ “ซื้อ” หุ้น PCE คงราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 2568 ที่ 3.60 บาท จากโมเมนตัมกำไรในช่วงครึ่งหลังปี 2567-2568 ขยายตัวต่อเนื่อง โดยประเมินแนวโน้มผลการดำเนินงาน Q4/2567 กำไรปกติเร่งตัวขึ้นเทียบไตรมาสที่ผ่านมา จาก High Season ของอุปสงค์ภาคพลังงานรวมทั้ง Margin จะได้อานิสงส์จากการพุ่งขึ้นของราคาน้ำมันปาล์มตั้งแต่กลางเดือนต.ค. ซึ่งบริษัทฯสำรองวัตถุดิบที่ราคาต่ำไว้ล่วงหน้า ทำให้ไม่มีปัญหาด้านต้นทุน และอุปทานวัตถุดิบ
ปี 68 โตต่อเนื่อง-น้ำมันปาล์มในตลาดโลกตึงตัว
ขณะเดียวกัน บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ยังมองว่า แนวโน้มผลประกอบการในปี 2568 เติบโตต่อเนื่อง โดยได้รับแรงหนุนจากการรับรู้ปริมาณขายภายใต้สัญญากับลูกค้ารายใหม่ และผลิตภัณฑ์ใหม่ RBDPKO เต็มปี นอกจากนี้ ยังได้รับประโยชน์จากทิศทางตลาดผลิตภัณฑ์น้ำมันปาล์มในตลาดโลกตึงตัวจากการเริ่มใช้นโยบาย B40 ของอินโดนีเซีย