สุดช็อก! ปี 67 กลุ่ม “ปูนใหญ่” มาร์เก็ตแคปวูบ 2.41 แสนลบ.

ในปี 2567 ราคาหุ้นของบริษัทขนาดใหญ่หลายบริษัทได้ปรับตัวลดลงมาอย่างรุนแรง ไม่เว้นแต่กลุ่มเอสซีจีที่ราคาหุ้นของทั้งกลุ่มปรับตัวลดลงสูงสุดถึง 50% ในวันนี้ทางสำนักข่าว Share2Trade จึงได้ทำการรวบรวมข้อมูลความเคลื่อนไหวของราคาหุ้นพร้อมกับคาดการณ์ผลการดำเนินงานในปี 2567 มานำเสนอแก่ผู้อ่าน

โดยเริ่มกันที่ บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด(มหาชน) หรือ SCC ความเคลื่อนไหวของราคาหุ้นต้นปีถึงปัจจุบัน(ณ 26 ธ.ค. 67) ปรับตัวลงมาถึง 43% มาอยู่ที่ระดับ 169.50 บาท และมาร์เก็ตแคปก็ปรับตัวลง 44% หรือลดลงมาอยู่ที่ระดับ 203,400 ล้านบาท

ส่วนนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ ธนชาต จำกัด (มหาชน) คาดการณ์กำไรปี 2567 ที่  8,243 ล้านบาท ลดลง 68% จากปีก่อนหน้า เนื่องจากแนวโน้มปิโตรเคมีแย่กว่าที่คาดการณ์ไว้และอุปทานจากจีนมีความสามารถในการแข่งขันสูงขึ้น ทําให้ LSP มีความสามารถในการแข่งขันที่ลดลง ดังนั้น แนะนํา "ขาย" ราคาเป้าหมาย 175 บาท

ถัดมา บริษัท เอสซีจี แพคเกจจิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ SCGP ความเคลื่อนไหวของราคาหุ้นต้นปีถึงปัจจุบัน(ณ 26 ธ.ค. 67) ปรับตัวลงมาถึง 44% มาอยู่ที่ระดับ 19.80 บาท ขณะที่มาร์เก็ตแคปปัจจุบันที่ระดับ 84,999 ล้านบาท ซึ่งเทียบกับสิ้นปี 2566ก็ได้ปรับลดลงมาถึง 45%

พร้อมกันนี้ นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด คาดการณ์กำไรปี 2567 ที่ 4,291 ล้านบาท ลดลง 17% จากปีก่อนหน้า ตามแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีนที่ช้ากว่าคาด รวมไปถึงรับรู้ผลขาดทุนและต้นทุนทางการเงินจากการเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นใน Fajar แต่อย่างไรก็ดี แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 25 บาท

สุดท้าย บริษัท เอสซีจี เดคคอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCGD ความเคลื่อนไหวของราคาหุ้นต้นปีถึงปัจจุบัน(ณ 26 ธ.ค. 67) ปรับตัวลงมาถึง 51% มาอยู่ที่ระดับ 4.82 บาท ขณะที่มาร์เก็ตแคปในปัจุบันเหลืออยู่ที่ 7,953 ล้านบาท โดยเทียบกับสิ้นปีก่อนหน้าปรับลดลงมา 51%

สำหรับนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) ประเมินกำไรปี 2567 จะอยู่ที่ 935 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21% จากปีก่อนหน้า จากโครงการลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพการดําเนินงานจะช่วยผลักดันการเติบโตผลประกอบการ แต่อย่างไรก็ดี ยังคงแนะนำ “ถือ” ราคาเป้าหมายที่ 7.50 บาท