SET ฟอร์มไม่สวย ดัชนี ม.ค. เปิดแย่สุดในรอบ 9 ปี หลังเจอแรงขาย LTF-ถูกหั่น EPS
นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด ได้ประเมินดัชนีหุ้นไทย เริ่มต้นมาในปี 2568 ถือว่าถูกมาก สะท้อนได้จากดัชนีเปิดตัววันแรกของปี 2568 ที่ 1,380 จุด ถือว่าเป็นดัชนีในวันแรกของปีที่ต่ำ ที่สุดในรอบ 9 ปีรองจากอันดับ 8 คือ SET วันแรกของปี 2567 ที่ 1,433 จุด และอันดับ 7 SET วันแรกของปี 2564 ที่ 1,468 จุด ต่างกับดัชนีวันแรกของปี 2561 ที่สูงที่สุด คือ 1,779 จุด เป็นต้น
ส่วนปัจจัยกดดันดัชนีหลักๆ ในเดือนนี้ 2 เรื่อง อาจจะไม่รุนแรงอย่างที่คิด ความกังวลแรงขายสถาบันฯ ในประเทศ ในเดือน ม.ค. อาจไม่รุนแรงมากอย่างที่นักลงทุนกังวล แม้ปี 2568 จะมียอด LTF คงค้างสามารถขายคืนได้ครบทั้งหมด 2.3 แสนล้านบาท
แต่เป็นยอด LTF ใหม่ที่ขายได้ของปี 2562 กว่า 7 หมื่นล้านบาท ซึ่งมีต้นทุนเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักที่สูงถึง 1,608 จุด อาจจะไม่ขายออกมามากในช่วงนี้ บวกกับสถิติในอดดีต 5 ปี หลังสุด ในเดือน ม.ค. ปกติสถาบันฯ ในประเทศขายหนักเกือบทุกปี เฉลี่ยขายสุทธิ 1.58 หมื่นล้านบาทในเดือนเดียว แต่มีเพียง 2 ปีที่ SET INDEX ลบเยอะ คือ ปีโควิด 2563 กับปีที่แล้ว 2567 ที่กำไรไตรมาส 4/66 ออกมาต่ำมาก 1.7 แสนล้านบาท ดังนั้นด้วย SET INDEX ที่เปิดตัวมาในปี 2568 ต่ำสุดในรอบ 9 ปี อยู่แล้ว น่าจะเผชิญผลกระทบจากแรงขาย LTF จำกัดได้
ขณะเดียวกันแม้ดัชนีมีดาวน์ไซด์จากการปรับลด EPSปี 68 แต่ในมุมของ VALUATION ของดัชนีที่ 1,400 จุด ถือว่ามี P/E ไม่รวม DELTA ที่ถูก และมีหุ้นขนาดใหญ่หลายบริษัทย่อตัวลงมาลึกมาก โดยปกตินักวิเคราะห์จะมีการปรับ FORWARD EPS ตลาดลงราว 1 ถึง 5 บาท/หุ้น ในช่วง 1 –3 เดือนแรกของปี โดยปัจจุบัน BLOOMBERG ประเมิน EPSปี 68 ไว้ที่ 96.5 บาท/หุ้น
แต่ฝ่ายวิจัยฯ ทำ SENSITIVITY EPS ปี 68 และ MARKET EARNING YIELD GAP (MEYG) ของดัชนีที่1400 จุด อิงสมมุติฐานกำไร DELTA ปี 2568 ที่ 2.75 หมื่นล้านบาท และอัตราผลตอบแทนพันธบัตร 1 ปี ที่ 2.25% พบว่า แม้ดัชนีจะถูกปรับ EPS25F ลงไปเหลือ 85 –95 บาท/หุ้น
แต่หากหัก DELTA ออก จะมีEPS25F EX DELTA ที่ 92.9 –104.2 บาท/หุ้น หรือมี MARKET EARNING YIELD GAP (MEYG) กว้างถึง 4.4% - 5.2% (สูงกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 10 ปีที่ 3.8%) หรือคิดเป็นกรอบ P/E 25F EX DELTA ที่ต่ำเพียง 13.4 – 15 เท่า แสดงให้เห็นว่า ทั้งดัชนี และ P/E ของ SET INDEX ถูกบดบังแต่จริงๆ ต่ำมาก หรือ อีกนัยยะ คือ มีหุ้นที่ขึ้นแรงกระจุก แต่มีหุ้นที่ลงแรงกระจายตัวอยู่มากกว่าที่ควรจะเป็น ซึ่งน่าจะเป็นจังหวะในการสะสมในระยะกลางถึงยาว