การฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวที่มากกว่าคาดการณ์ หนุนธุรกิจ บมจ.ไซมิส แอสเสท (SA) ปี 66 เติบโตทำสถิติ โดยบล.กรุงศรี แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 11.20 บาท
บล.กรุงศรี วิเคราะห์หุ้น บมจ.ไซมิส แอสเสท SIAMESE ASSET (SA) ซึ่งประกอบธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ บริษัทเป็นผู้นำในธุรกิจ Branded Residence เป็นคอนโดพร้อมขายที่มีบริการให้เช่าและโรงแรมในโครงการเดียวกัน โดยคาดรายได้ช่วงปี 2023-2024 จะยกระดับกว่าเท่าตัวเป็น 6.4-7.8 พันล้านบาท เทียบกับประมาณรายได้ปี 2022 นี้ที่ 2.9 พันล้านบาท โดยมีปัจจัยสนับสนุนจาก
(1) รายได้จากโครงการ แนวราบที่เพิ่มขึ้น
(2) การฟื้นตัวของยอดขายคอนโดมีเนียม
(3) รายได้ค่าเช่า และค่าบริการจากธุรกิจโรงแรมจะฟื้นตัวแข็งแกร่งตามจำนวนนักท่องเที่ยว
บล.กรุงศรีประเมินรายได้ปี 2023 เติบโต 121% เป็น 6.4 พันล้านบาท แบ่งเป็นรายได้โอนโครงการที่พัฒนาเสร็จแล้วราว 3.4 พันล้านบาท รายได้จากการโอนโครงการใหม่อย่าง Monsane Exclusive Villa (Ratchapruek-Pinklao) และ Landmark @ MRTA station ราว 2.5 พันล้านบาท รวมถึงรายได้ค่าเช่าและค่าบริการจากธุรกิจโรงแรมอีกประมาณ 500 ล้านบาท คาดกำไรปี 2023 จะเติบโตโดดเด่นกว่า 209% สู่ระดับ 828 ล้านบาท
ซึ่งแนะนำ “ซื้อ” กำหนดราคาเป้าหมาย 11.20 บาท อิง PER ปี FY23F ที่ 16 เท่า
ขณะที่ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SA “ขจรศิษฐ์ สิ่งสรรเสริญ” กล่าวถึงแผนการดำเนินธุรกิจในปี 66 บริษัทตั้งเป้าหมายรายได้ 6,000-6,600 ล้านบาท หรือเติบโตไม่ต่ำกว่า 130% โดยคาดการณ์รายได้หลักจากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ประมาณ 6,000 ล้านบาท แบ่งเป็นรายได้จากโครงการแนวราบประมาณ 38% และโครงการแนวสูงประมาณ 62%
ปัจจุบันบริษัทฯ มีโครงการที่กำลังดำเนินงานอยู่จำนวน 7 โครงการ มูลค่า 22,291 ล้านบาท และมียอดขายรอโอน (Backlog) มูลค่ากว่า 6,500 ล้านบาท ทยอยรับรู้รายได้ถึงปี 2568 ขณะเดียวกันธุรกิจอื่นๆ มีแนวโน้มอัตราการเติบโตต่อเนื่องจากปีก่อน จากอานิสงส์การกลับมาของนักท่องเที่ยวและนักลงทุนต่างชาติ และนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ
"ปีที่ผ่านมาบริษัทฯ มีการวางกลยุทธ์ปรับสัดส่วนการพัฒนาโครงการแนวราบมากขึ้น ส่งผลทำให้ในปีนี้บริษัทฯ คาดการณ์ว่าจะมีรายได้จากแนวราบประมาณ 2,000-2,300 ล้านบาท และคาดว่าจะปรับขึ้นเป็น 3,000-4,000 ล้านบาทในปี 67 ซึ่งบริษัทเชื่อมั่นว่าจะเป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ช่วยสนับสนุนผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ให้สามารถเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง" นายขจรศิษฐ์ กล่าว
ส่วนภาพรวมผลการดำเนินงานงวดปี 65 บริษัทฯ มีรายได้รวม 2,515.0 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 79.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.3% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนมีรายได้รวม 2,441.42 ล้านบาท ประกอบด้วย รายได้จากการโอนกรรมสิทธิ์เท่ากับ 1,809.4 ล้านบาท รายได้จากการบริการ 222.3 ล้านบาท ส่งผลให้มีกำไรสุทธิ 226.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 82.2 ล้านบาท หรือ 57.1% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 143.9 ล้านบาท โดยเป็นกำไรจากผู้ถือหุ้นของบริษัทใหญ่เท่ากับ 155.9 ล้านบาท
ในปี 65 บริษัทรับรู้รายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ จาก 7 โครงการหลัก ได้แก่ Wyndham Garden Residence (ชื่อเดิม Siamese Exclusive 42), Blossom Condo at Sathorn-Charoenrat, Ramada Plaza by Wyndham Bangkok Sukhumvit 48 (ชื่อเดิม Siamese Sukhumvit 48), Siamese Kin Ramintra, Siamese Exclusive 31(ชื่อเดิม Siamese Exclusive), Ramada Residence (ชื่อเดิม Siamese Sukhumvit 87) และ Siamese Exclusive Queens รวม 1,743.6 ล้านบาท และรับรู้รายได้จากโครงการอื่นๆและการขายสินค้า 65.8 ล้านบาท รวมเป็น 1,809.4 ล้านบาท
ขณะเดียวกัน บริษัทรับรู้รายได้ธุรกิจบริการที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ จากการทยอยเปิดให้บริการธุรกิจโรงแรม ธุรกิจร้านอาหารและเครื่องดื่ม (Food & Beverage) การบริหารงานนิติบุคคล รวมเป็นรายได้จากงานการให้บริการทั้งสิ้น 222.3 ล้านบาท หรือคิดเป็น 8.8% ของรายได้รวม ซึ่งปรับตัวเพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนเท่ากับ 117.5 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 112.2%
บล.กรุงศรี วิเคราะห์หุ้น บมจ.ไซมิส แอสเสท SIAMESE ASSET (SA) ซึ่งประกอบธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ บริษัทเป็นผู้นำในธุรกิจ Branded Residence เป็นคอนโดพร้อมขายที่มีบริการให้เช่าและโรงแรมในโครงการเดียวกัน โดยคาดรายได้ช่วงปี 2023-2024 จะยกระดับกว่าเท่าตัวเป็น 6.4-7.8 พันล้านบาท เทียบกับประมาณรายได้ปี 2022 นี้ที่ 2.9 พันล้านบาท โดยมีปัจจัยสนับสนุนจาก
(1) รายได้จากโครงการ แนวราบที่เพิ่มขึ้น
(2) การฟื้นตัวของยอดขายคอนโดมีเนียม
(3) รายได้ค่าเช่า และค่าบริการจากธุรกิจโรงแรมจะฟื้นตัวแข็งแกร่งตามจำนวนนักท่องเที่ยว
บล.กรุงศรีประเมินรายได้ปี 2023 เติบโต 121% เป็น 6.4 พันล้านบาท แบ่งเป็นรายได้โอนโครงการที่พัฒนาเสร็จแล้วราว 3.4 พันล้านบาท รายได้จากการโอนโครงการใหม่อย่าง Monsane Exclusive Villa (Ratchapruek-Pinklao) และ Landmark @ MRTA station ราว 2.5 พันล้านบาท รวมถึงรายได้ค่าเช่าและค่าบริการจากธุรกิจโรงแรมอีกประมาณ 500 ล้านบาท คาดกำไรปี 2023 จะเติบโตโดดเด่นกว่า 209% สู่ระดับ 828 ล้านบาท
ซึ่งแนะนำ “ซื้อ” กำหนดราคาเป้าหมาย 11.20 บาท อิง PER ปี FY23F ที่ 16 เท่า
ขณะที่ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SA “ขจรศิษฐ์ สิ่งสรรเสริญ” กล่าวถึงแผนการดำเนินธุรกิจในปี 66 บริษัทตั้งเป้าหมายรายได้ 6,000-6,600 ล้านบาท หรือเติบโตไม่ต่ำกว่า 130% โดยคาดการณ์รายได้หลักจากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ประมาณ 6,000 ล้านบาท แบ่งเป็นรายได้จากโครงการแนวราบประมาณ 38% และโครงการแนวสูงประมาณ 62%
ปัจจุบันบริษัทฯ มีโครงการที่กำลังดำเนินงานอยู่จำนวน 7 โครงการ มูลค่า 22,291 ล้านบาท และมียอดขายรอโอน (Backlog) มูลค่ากว่า 6,500 ล้านบาท ทยอยรับรู้รายได้ถึงปี 2568 ขณะเดียวกันธุรกิจอื่นๆ มีแนวโน้มอัตราการเติบโตต่อเนื่องจากปีก่อน จากอานิสงส์การกลับมาของนักท่องเที่ยวและนักลงทุนต่างชาติ และนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ
"ปีที่ผ่านมาบริษัทฯ มีการวางกลยุทธ์ปรับสัดส่วนการพัฒนาโครงการแนวราบมากขึ้น ส่งผลทำให้ในปีนี้บริษัทฯ คาดการณ์ว่าจะมีรายได้จากแนวราบประมาณ 2,000-2,300 ล้านบาท และคาดว่าจะปรับขึ้นเป็น 3,000-4,000 ล้านบาทในปี 67 ซึ่งบริษัทเชื่อมั่นว่าจะเป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ช่วยสนับสนุนผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ให้สามารถเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง" นายขจรศิษฐ์ กล่าว
ส่วนภาพรวมผลการดำเนินงานงวดปี 65 บริษัทฯ มีรายได้รวม 2,515.0 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 79.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.3% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนมีรายได้รวม 2,441.42 ล้านบาท ประกอบด้วย รายได้จากการโอนกรรมสิทธิ์เท่ากับ 1,809.4 ล้านบาท รายได้จากการบริการ 222.3 ล้านบาท ส่งผลให้มีกำไรสุทธิ 226.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 82.2 ล้านบาท หรือ 57.1% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 143.9 ล้านบาท โดยเป็นกำไรจากผู้ถือหุ้นของบริษัทใหญ่เท่ากับ 155.9 ล้านบาท
ในปี 65 บริษัทรับรู้รายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ จาก 7 โครงการหลัก ได้แก่ Wyndham Garden Residence (ชื่อเดิม Siamese Exclusive 42), Blossom Condo at Sathorn-Charoenrat, Ramada Plaza by Wyndham Bangkok Sukhumvit 48 (ชื่อเดิม Siamese Sukhumvit 48), Siamese Kin Ramintra, Siamese Exclusive 31(ชื่อเดิม Siamese Exclusive), Ramada Residence (ชื่อเดิม Siamese Sukhumvit 87) และ Siamese Exclusive Queens รวม 1,743.6 ล้านบาท และรับรู้รายได้จากโครงการอื่นๆและการขายสินค้า 65.8 ล้านบาท รวมเป็น 1,809.4 ล้านบาท
ขณะเดียวกัน บริษัทรับรู้รายได้ธุรกิจบริการที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ จากการทยอยเปิดให้บริการธุรกิจโรงแรม ธุรกิจร้านอาหารและเครื่องดื่ม (Food & Beverage) การบริหารงานนิติบุคคล รวมเป็นรายได้จากงานการให้บริการทั้งสิ้น 222.3 ล้านบาท หรือคิดเป็น 8.8% ของรายได้รวม ซึ่งปรับตัวเพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนเท่ากับ 117.5 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 112.2%