Talk of The Town

ช็อก! โบรกฯ เตือน RS มีความเสี่ยงสูง แบกหนี้บาน พบมีหนี้ต้องจ่ายปีนี้ 502 ลบ. เงินสดเหลือแค่ 306 ลบ. แถมงบอาจขาดทุน


08 มกราคม 2568

น่าตกใจสำหรับราคาหุ้นบริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) หรือ RS โดยราคาหุ้นวันนี้ (8 ม.ค.2568) ปรับตัวลดลงจนติดระดับฟลอร์อีกครั้ง และถือเป็นแตะระดับฟลอร์ 2 วันติดต่อกัน เท่ากับว่าในเวลา 2 วันทำการ ราคาหุ้นหายไปแล้วกว่า 51%

ช็อก! โบรกฯ เตือน RS_S2T (เว็บ) copy_0.jpg

ความเห็นนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) ระบุว่า  วานนี้ (7 ม.ค.) ราคาหุ้น RS ลดลง -30% โดยได้สอบถาม IR ไม่พบประเด็นลบใหม่ ขณะที่มองหุ้น RS มีปัจจัยลบกดดันจากผลการดำเนินงานยังมีแนวโน้มขาดทุน ฐานะการเงินเริ่มมีความเสี่ยง และราคาหุ้นมีความเสี่ยงจากการใช้หุ้นวางประกันบัญชีมาร์จิ้น

ขณะที่ผลการดำเนินงานยังไม่สดใส งวดไตรมาส 3/67 RS รายงานผลการดาเนินงานปกติมีผลขาดทุน 301 ล้านบาท (พลิกจากกำไร 71 ล้านบาทในไตรมาส 3/66 และขาดทุนเพิ่มจาก 64 ล้านบาทในไตรมาส 2/66) เนื่องจากรายได้ลดลงกว่า 37% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และลดลง 20% จากไตรมาสก่อน ตามการหดตัวของรายได้ธุรกิจ Commerce และ Entertainment และแนวโน้มไตรมาส 4/67 คาด RS ยังคงมีผลขาดทุนจากการดำเนินงานปกติต่อเนื่อง

ส่วนฐานะทางการเงิน ณ สิ้นไตรมาส 3/67 มีหนี้สินที่มีดอกเบี้ย 3,839 ล้านบาท แบ่งเป็นเงินกู้ระยะสั้น 1,507 ล้านบาท เงินกู้ระยะยาว 1,835 ล้านบาท (ครบกำหนด 1 ปี 502 ล้านบาท) และหนี้สินสัญญาเช่าทางการเงิน 497 ล้านบาท และมีส่วนของผู้ถือหุ้น 3,141 ล้านบาท คิดเป็นอัตราส่วนหนี้สินที่มีดอกเบี้ยต่อทุน 1.5 เท่า มองว่าฐานะการเงินไม่แข็งแรงนักภายใต้สภาวะที่ผลการดำเนินงานยังมีแนวโน้มขาดทุน

ขณะเดียวกันยังไม่ประสบความสำเร็จในการปรับโครงสร้างบริษัท โดยเมื่อวันที่ 21 พ.ย.2567 RS มีการแจ้งยกเลิกการเข้าลงทุนในบริษัท GIFT (ปัจจุบันชื่อ RSXYZ) เนื่องจากราคาหุ้น GIFT มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งเงื่อนไขทางธุรกิจที่ตกลงไว้เดิมอาจไม่ก่อประโยชน์สูงสุดต่อบริษัทและผู้ถือหุ้น ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 6 พ.ย.2567 ก.ล.ต.มีการให้ RS ชี้แจงข้อมูลการปรับโครงสร้างบริษัทข้างต้น

นอกจากนี้ยังพบว่า ช่วงปลายปี 2567 ผู้บริหารและผู้ถือหุ้นใหญ่ RS มีการขายหุ้น 4-5 ครั้ง (ครั้งละประมาณ 5-10 ล้านหุ้น ที่ราคา 5.5-5.86 บาท/หุ้น) แม้ว่าจะคิดเป็นสัดส่วนไม่มากเมื่อเทียบกับจำนวนหุ้นทั้งหมด แต่มองไม่เป็นบวกต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน

อีกทั้งตามรายงาน ตลท. เดือน พ.ย.2567 พบว่าหุ้น RS ถูกใช้เป็นหลักทรัพย์วางเป็นประกันในบัญชีมาร์จี้นของลูกค้าจำนวน 222 ล้านหุ้น คิดเป็นสัดส่วน 10% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด และคิดเป็นสัดส่วน 60% ของการถือหุ้นของผู้ถือหุ้นรายย่อย มีความเสี่ยงถูก Force Sell เมื่อราคาหุ้นลดลง

ดังนั้นยังคงไม่มีคำแนะนำและราคาเป้าหมาย RS เบื้องต้นมองการพลิกฟื้นธุรกิจหลัก Commerce และ Entertainment ของ RS มีความท้าทายสูง ขณะที่เริ่มมีความเสี่ยงทางด้านฐานะทางการเงินจากอัตราส่วนหนี้สินที่มีดอกเบี้ยต่อทุนมีแนวโน้มสูงขึ้น 

นอกจากนี้ ยังมีเงินกู้ระยะยาวที่จะครบกำหนดชำระภายในเดือน ก.ย.2568 จำนวน 502 ล้านบาท ในขณะที่ RS มีเงินสด ณ สิ้นงวดไตรมาส 3/67 ที่ 306 ล้านบาท และมีความเสี่ยงราคาหุ้นได้รับผลกระทบจากการ Force Sell ของหุ้นที่ถูกใช้วางเป็นประกันในบัญชีมาร์จิ้น

RS