Gossip Station by..เจ๊จิ๋ม 09-01-25(RS จะมีฟลอร์ที่สามรึป่าว???)
Gossip Station by..เจ๊จิ๋ม 09-01-25(RS จะมีฟลอร์ที่สามรึป่าว???)
09-01-25 สวัสดีปีใหม่ 2568 ปีงูไฟ" ค่ะพี่น้องชาวไทยที่รัก "เจ๊จิ๋ม" มารายงานตัว ณ ที่เก่าเวลาเดิม www.share2trade.com เปิดอ่านได้เลยมีเรื่องเด็ดๆ โดนๆ มาเม้าท์กันให้สนั่นวงการลงทุนของพวกเรากันเถอะ
***กลายเป็นมหากาพย์เรื่องใหม่ของวงการตลาดหุ้นเราตอนนี้สำหรับ RS ร่วงไปสองฟลอร์แล้วคะรับทั่น!!! ไม่รู้ว่าวิบากกรรมหมดไปรึยัง???หรือว่าวันนี้พวกเราจะได้เห็นฟลอร์ที่สาม..รึป่าวก้อไม่รู้!!!!
***ในส่วนของบริษัททำหน้าที่ชี้แจงสุดพลัง โดยแจ้งว่า “ราคาหุ้นของ RS ที่มีการปรับตัวลดลงในช่วงที่ผ่านมาเกิดจากกลไกของตลาดและปัจจัยภายนอก ซึ่งไม่มีผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจและสถานะทางการเงินของบริษัทฯ หากนักลงทุนมีข้อสงสัยหรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดต่อได้ที่..ฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02-037-8126, 02-037-8128, 02-037-8170 หรืออีเมล ir@rs.co.th”
***แต่ดูจากอาการรอบด้าน ทั้งข่าวลือสะพัดเรื่องการกู้เงินแล้เอาหุ้นไปค้ำ..พุดได้แค่ว่า”อาการน่าเป็นห่วง” ที่สำคัญคือจากข้อมูลการรายงานของ ตลท. เดือน พ.ย.2567 พบว่าหุ้น RS ถูกใช้เป็นหลักทรัพย์วางเป็นประกันในบัญชีมาร์จี้นของลูกค้าจำนวน 222 ล้านหุ้น คิดเป็นสัดส่วน 10% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด และคิดเป็นสัดส่วน 60% ของการถือหุ้นของผู้ถือหุ้นรายย่อย มีความเสี่ยงถูก Force Sell เมื่อราคาหุ้นลดลง
***ในมุมของเซียนหุ้นมองว่า RS มีความเสี่ยง..ตอนนี้ยังไม่มีคำแนะนำและราคาเป้าหมาย แต่ที่เห็นๆ คือ RS เริ่มมีความเสี่ยงทางด้านฐานะทางการเงินจากอัตราส่วนหนี้สินที่มีดอกเบี้ยต่อทุนมีแนวโน้มสูงขึ้น ทั้งนี้ยังมีเงินกู้ระยะยาวที่จะครบกำหนดชำระภายในเดือน ก.ย.2568 จำนวน 502 ล้านบาท ในขณะที่ RS มีเงินสด ณ สิ้นงวดไตรมาส 3/67 ที่ 306 ล้านบาท และมีความเสี่ยงราคาหุ้นได้รับผลกระทบจากการ Force Sell ของหุ้นที่ถูกใช้วางเป็นประกันในบัญชีมาร์จิ้น
***ฟากฝั่งของตลท.บอกว่าตอนนี้อยู่ระหว่างการเตรียมเปิดเผยข้อมูลการจำนำหุ้นผ่านระบบนายทะเบียน (TSD) คาดว่าจะเริ่มเห็นรายละเอียดได้ในเร็วนี้ ซึ่งในเบื้องต้นรูปแบบของการเปิดเผยข้อมูลและรายละเอียดจะคล้ายคลึงกับการเปิดข้อมูลของหุ้นไปวางประกันบัญชีมาร์จิ้นซึ่งจะมีการอัพเดตข้อมูลทุก 1 เดือน..เอาน่ะ!! ถึงเรื่องนี้มันจะยังไม่เกิด แต่ก้อพอจะได้เห็นภาพว่าในอนาคตรายย่อยอย่างพวกเราจะได้รู้ข้อมูลและป้องกันตัวล่วงหน้าได้ โดยการไม่เข้าไปลงทุนในหุ้นที่เสี่ยงจากการที่ผู้บริหารเอาหุ้นไปจำนำ จนอาจนำไปสู่การฟอร์ซเซลล์ และเกิดความเสียหายต่อมวลชนรายย่อยหมู่มาก..ที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ ต้องมาซวยโดนหางเลขไปด้วยแบบเต็มๆ จุกๆ เลยล่ะ!!!
***เห็นไปดู SCM ยิ่งช้ำหนัก มีรายงานจากก.ล.ต.แจ้งว่า “นายอธิโรจน์ เลิศฤทธิ์อธิกิจ” ผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ เมื่อวันที่ 27 ธ.ค.67 ได้ขายหุ้น SCM จำนวน 34,922,100 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 5.85% จากเดิมก่อนหน้านี้ที่ถือหุ้นอยู่ จำนวน 35,552,000 หุ้น หรือคิดเป็นสัดส่วน 5.96% ส่งผลให้ล่าสุดเหลือการถือหุ้นใน SCM จำนวน 629,900 หุ้น คิดเป็นสัดส่วนเพียง 0.10% เฮ้ออออออ…ถอนหายใจหนักๆ ยาวๆ ไปอี๊กกกกก
***ประกาศ..ประกาศ!!!! ผู้ถือหุ้น POLAR ฟังทางนี้!!! ตลาดหลักทรัพย์ฯ ประกาศเพิกถอนหลักทรัพย์ของ POLAR จากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนและจะเปิดให้ซื้อขายหลักทรัพย์ชั่วคราวระหว่างวันที่ 17 - 27 มกราคม 2568 โดยให้ซื้อด้วยบัญชี Cash Balance เนื่องจากบริษัทไม่สามารถดำเนินการให้มีคุณสมบัติเพื่อกลับมาซื้อขายได้ภายในระยะเวลาที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ กำหนด
หมายเหตุ :ไม่กำหนดราคาซื้อขายสูงสุดและต่ำสุด (Ceiling & Floor) ของหลักทรัพย์ POLAR ในวันแรกที่มีการซื้อขาย (วันที่ 17 มกราคม 2568) หากในวันที่ 17 มกราคม 2568 ไม่มีการซื้อขายหลักทรัพย์ POLAR ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะยังคงไม่มีการกำหนด Ceiling & Floor ต่อเนื่องไปจนกว่าจะมีการซื้อขายหลักทรัพย์นั้น และเมื่อได้มีการซื้อขายหลักทรัพย์ POLAR แล้ว ในวันทำการถัดไป Ceiling & Floor ของหลักทรัพย์ POLAR จะถูกปรับให้เป็นไปตามเกณฑ์ปกติ ทั้งนี้ ไม่มีการกำหนด Dynamic Price Band ไปจนกว่า Ceiling & Floor ของหลักทรัพย์ดังกล่าวจะถูกปรับให้เป็นไปตามเกณฑ์ปกติ
***ส่วนผู้ถือหุ้น W หรือ บริษัท วาว แฟคเตอร์ จำกัด เชิญฟังทางนี้จ๊าาาาาา... ตอนนี้เค้าเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น “บริษัท เอ็กซ์ ไบโอไซเอนซ์ จำกัด (มหาชน)” และจะเปลี่ยนชื่อย่อหุ้นใหม่เป็น XBIO (จากเดิมคือ W) เริ่มมีผลตั้งแต่ 13 ม.ค. 2568
***ปิดท้ายวันนี้กับเรื่องดีๆ ของไอพีโอ สุดฮอต!!! บมจ.โปร อินไซด์ หรือ PIS เคาะราคาจองซื้อแล้ว 3 บาท/หุ้น กำหนดวันจองซื้อหุ้นระหว่างวันที่ 9-10 และ 13 มกราคม 2568 นี้ และได้แต่งตั้ง บล.คิงส์ฟอร์ด เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นสามัญ โดยมีผู้ร่วมจัดจำหน่ายอีก 2 แห่ง คือ บล.บียอนด์ และ บล. ลิเบอเรเตอร์ (นอกจากนี้ ระหว่างวันที่ 11 – 12 มกราคม 2568 สามารถจองซื้อผ่านระบบออนไลน์ของบริษัทหลักทรัพย์ ลิเบอเรเตอร์ จำกัด)
***“การกำหนดราคา IPO ของ PIS ในครั้งนี้ ถือเป็นระดับราคาเหมาะสมกับปัจจัยพื้นฐานของบริษัทฯ รวมถึงโอกาสการเติบโตสูงจากการเข้าประมูลงานโครงการไอทีของภาครัฐและรัฐวิสาหกิจที่มีการเปิดประมูลต่อเนื่องทุกปี เพื่อยกระดับประเทศ ทำให้คนไทยอยู่ดีมีความสุข ซึ่งบริษัทฯ มีความพร้อมในการเข้าร่วมประมูล เพื่อรองรับการเติบโตในอนาคต สอดคล้องนโยบายของรัฐบาล ซึ่งจะช่วยผลักดันแนวโน้มผลการดำเนินงานเติบโตต่อเนื่อง สร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับนักลงทุน”
***ทั้งนี้ PIS จะเสนอขายหุ้น IPO จำนวน 140 ล้านหุ้น มูลคาที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 0.50 บาท คิดเป็น 25.93% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชําระแล้วทั้งหมด จะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ mai ในหมวดธุรกิจเทคโนโลยี (TECH) ในวันที่ 20 มกราคม 2568