รายงานพิเศษ : PCE ธุรกิจกำลังได้ประโยชน์ เมื่อผลผลิตปาล์มหด ดันราคาพุ่ง ช่วยหนุนผลประกอบการเติบโต
สถานการณ์ราคาน้ำมันปาล์มที่ยังอยู่ในระดับสูง จากความต้องการใช้ที่เพิ่มขึ้นขณะที่ผลผลิตยังอยู่ระดับต่ำ ส่งผลดีต่อผู้ประกอบการ โดยเฉพาะ บมจ.เพชรศรีวิชัย เอ็นเตอร์ไพรส์ (PCE) ในฐานะผู้ผลิตและจำหน่ายน้ำมันปาล์ม น้ำมันไบโอดีเซล และน้ำมันปาล์มโอเลอีนเพื่อการบริโภค
บริษัทหลักทรัพย์ ไอร่า ระบุว่า ยังคงแนะนำ ซื้อหุ้น บมจ.เพชรศรีวิชัย เอ็นเตอร์ไพรส์ (PCE) โดยประเมินราคาเป้าหมายปี 2568 ที่ 3.50 บาท (P/E16 เท่า) เนื่องจากมองว่า ราคาน้ำมันปาล์มดิบ (CPO) ในช่วงไตรมาส 4/67 ต่อเนื่องถึงช่วงไตรมาส 1/68 จะยังอยู่ในระดับสูง ผลจากภาวะแล้งในช่วงที่ผ่านมา ส่งผลให้ปริมาณผลผลิตออกมาน้อยกว่าปกติ ล่าสุด ราคาน้ำมันปาล์มดิบตลาดไทยอยู่ที่ 53-54 บาท/กิโลกรัม เพิ่มขึ้น 60% จาก 33.25 บาท/กิโลกรัม ในช่วงปลายเดือน ก.ค. ซึ่งส่งผลดีต่อ PCE โดยตรง
โดยคาดสถานการณ์ผลผลิตปาล์มที่ออกมาน้อยจะเริ่มคลี่คลาย ในช่วงไตรมาส 1/68 หลังจากไทยเริ่มเข้าสู่ภาวะLa Ninaจะทำให้มีฝนตกมากขึ้นในภาคใต้ของไทย
ขณะที่แนวโน้มการส่งออกน้ำมันปาล์มดิบยังเติบโตดี และยังได้รับประโยชน์ หลังจากอินเดียปรับลดภาษีนำเข้าลงจาก 7.5% เป็น 5.0% ในช่วงต้นปี 2567 และคาดความต้องการใช้ผลิตภัณฑ์น้ำมันปาล์มทั้งจากจีนและทวีปยุโรป ยังมีแนวโน้มเติบโตดี
นอกจากนี้ การที่อินโดนีเซียมีนโยบายที่จะเพิ่มส่วนผสมน้ำมันไบโอดีเซล จากปัจจุบันที่B35 เป็นB40 ในปี 2568 จะส่งผลดีโดยตรงต่อ PCE ซึ่งเป็นผู้ส่งออกน้ำมันปาล์มดิบรายใหญ่ของไทย โดยโอกาสเติบโตในอนาคต จะมาจากทั้งการส่งออกที่จะเพิ่มขึ้นทั้งCPOและผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวเนื่อง ซึ่งมี marginสูง ทั้งในที่ใช้ในอุตสาหกรรมผลิตและอาหาร ตลอดจนความร่วมมือกับบางจากในการขาย B100 และน้ำมันประกอบอาหารที่ใช้แล้วสำหรับโครงการเชื้อเพลิงการบินที่ยั่งยืน (SAF) ที่คาดว่าจะเริ่มดำเนินการช่วงต้นปี 2568
ด้านนายพรพิพัฒน์ ประสิทธิ์ศุภผล รองกรรมการผู้จัดการสายงานปฏิบัติการ บมจ.เพชรศรีวิชัย เอ็นเตอร์ไพรส์ (PCE) ระบุว่า ราคาน้ำมันปาล์มดิบในไทยยังไม่ได้รับผลกระทบจากการลดลงของราคาตลาดโลกมากนัก เนื่องจากผลผลิตปาล์มสดยังคงลดลงต่อเนื่อง ตั้งแต่ต้นไตรมาส 4 โดยคาดการณ์ ณ เดือนธันวาคม อยู่ที่ 1 ล้านตัน ลดลงจากเดือนพฤศจิกายนราว 2% และลดลงจากช่วงเดียวกันในปี 66 ราว 8%
ขณะที่ความต้องการน้ำมันปาล์มดิบภายในประเทศ ณ เดือนธันวาคม ยังคงอยู่ในระดับสูงราว 200,000 ตัน ทั้งจากการอุปโภคในภาคพลังงานและการบริโภคในอุตสาหกรรมอาหารและอื่นๆ ส่งผลให้ปริมาณน้ำมันปาล์มดิบคงคลังต่ำกว่า 190,000 ตัน แล้ว (ณ วันที่ 20 ธันวาคม 2567)
ทั้งนี้รองกรรมการผู้จัดการสายงานปฏิบัติการ PCE มั่นใจว่าแนวโน้มผลงานในไตรมาส 4/67 จะเติบโตอย่างแข็งแกร่ง จากดีมานด์น้ำมันปาล์มในประเทศที่ยังคงเติบโต โดยเฉพาะอุตสาหกรรมอาหาร และอุตสาหกรรมอื่นๆ
และประเมินว่าทั้งปี 67 การบริโภคน้ำมันปาล์มในประเทศและความต้องการใช้น้ำมันปาล์มดิบจะขยายตัวเฉลี่ย 6-7% ผลักดันให้รายได้รวมในปีนี้เติบโต 10-15% ตามเป้าหมายที่วางไว้