วิเคราะห์แนวคิด “ทักษิณ” การคืนชีพกองทุน LTF เป็นโอกาสผลักดันตลาดหุ้นไทย
นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ให้มุมมองต่อประเด็นที่อดีตนายกทักษิณ ชิณวัตร มองตลาดหุ้นไทยช่วงที่ผ่านมาเกิดจาก Trust, Confidence, Sentiment ที่ถูกบั่นทอน โดยหลังจากนี้ รัฐบาลและก.ล.ต.จะยกระดับธรรมาภิบาลมากขึ้น
โดยถ้าจำเป็นต้องปรับกฎหมาย รัฐบาลต้องออก พ.ร.ก. เพื่อให้อำนาจ ก.ล.ต. ในการลงโทษผู้กระทำความผิดอย่างรวดเร็ว, ควบคุม High Frequency Tradingไม่ให้สร้างความผันผวนกับตลาดทุน หรือเอาเปรียบนักลงทุนในประเทศ, เชิญชวนธุรกิจใหม่ให้เข้ามาจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทยผ่าน BOI เช่น กลุ่มที่เข้ามาลงทุนใน Entertainment Complex เพื่อเป็นการเพิ่ม Supply หุ้นที่เป็น New S-Curve
นอกจากนี้ ยังสนับสนุนให้บริษัทที่ PBV ต่ำกว่า 1 เท่าซื้อหุ้นคืน แต่ยังต้องรอมาตรการสนับสนุนเพิ่มเติมเพื่อจูงใจให้เกิดการซื้อหุ้นคืน และสนับสนุนตลาด Digital Asset และซื้อขาย Carbon
ส่วนกองทุนลดหย่อนภาษี กระทรวงการคลังกำลังพิจารณานำ LTF กลับมาใช้อีกครั้ง เพื่อให้คงสภาพคล่องในตลาดทุนไม่ให้ลดลง เนื่องจาก TESG ออกมาแล้ว แต่เม็ดเงินส่วนใหญ่ไหลเข้ากองทุนตราสารหนี้ ไม่ได้ไหลเข้าตราสารทุนตามที่ตั้งใจไว้
ด้านนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) ให้มุมมองเพิ่มเติมว่า จากแนวทางต่างๆประเมินเป็นบวกและสร้างความเชื่อมั่นตลาดทุนได้อีกครั้ง จากเรื่องหลักๆแนวทางเพิ่มอำนาจหน่วยงานกำกับดูแลและการผลักดันเกิดกลไกเปลี่ยนแปลงทันสถานการณ์ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นความโปร่งใส, แนวคิดการนำกองทุน LTF กลับมา และการให้เป้าหมายเศรษฐกิจเติบโตเร่งขึ้น โดยมีการให้ข้อมูลแนวทางทั้งเรื่องเดิมที่กำลังคืบหน้าขึ้น และเรื่องใหม่ที่เข้ามาเสริม
โดยการสร้างความเชื่อมั่นต่อตลาดทุน ส่วนใหญ่เป็นเรื่องใหม่ ประเมินจิตวิทยาบวกต่อ SET โดยความโปร่งใส กฎระเบียบต่างๆ ต้องมีการพัฒนาแก้ไขให้ทันต่อเหตุการณ์และพัฒนาให้อำนาจหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้การแก้ปัญหา เพื่อสร้างความเชื่อมั่นต้องทันต่อเหตุการณ์
รวมไปถึง การเสริมกฎเกณฑ์ความเชื่อมั่นบริษัทที่ซื้อหุ้นคืน ว่าจะมีแนวทางพัฒนาธุรกิจเพื่อนำหุ้นกลับมาสู่ราคาเหมาะสมอย่างไรบ้าง โดยเฉพาะหุ้นต่ำกว่า PBV หรือ PER ต่ำ จะเป็นจิตวิทยาบวกต่อหุ้นกลุ่มที่ซื้อขายต่ำกว่า PBV อาทิ ปิโตรเคมี ธนาคาร
ขณะเดียวกันจะสนับสนุนการเพิ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ซึ่งน่าจะมีทางเลือกเพิ่มขึ้น จากการเร่งการผลักดันการลงทุนธุรกิจใหม่ๆ และสนับสนุน IPO เป็นทางเลือกในการลงทุน อาทิ Entertainment Complex รวมถึงสินทรัพย์ดิจิทัลต่างๆ และตลาดคาร์บอนเครดิต จิตวิทยาบวกต่อหุ้นเชื่อมโยงสินทรัพย์ดิจิทัล อาทิ BTC JTS TTA และคาร์บอนเครดิต อาทิ DITTO BCPG
รวมไปถึง การหามาตรการใหม่ๆที่เป็นช่องทางลงทุนหุ้นมากกว่าพันธบัตร โดยอาจจะพิจารณากองทุน LTF ซึ่งอยู่ระหว่างการศึกษา ทำให้มีโอกาสกองทุนดังกล่าวอาจกลับมาหนุนตลาดอีกครั้ง จึงประเมินจิตวิทยาบวกต่อ SET