ตลาดหุ้นเกิดใหม่ เซ่นพิษทรัมป์ 2.0 ประเดิมปี 68 ติดลบเกือบยกแผง!

ตามนักลงทุนหลายคนได้ติดตามข่าวการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของตลาดทุนและเศรษฐกิจทั่วโลก ด้วยการกลับมารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯคนที่ 47 ของโดนัลด์ ทรัมป์ เป็นสมัยที่ 2 และยังมุ่งเน้นนโยบายเชิงรุกอย่างอเมริกาต้องมาก่อน (America First) ทำให้สร้างความกังวลให้แก่ประเทศคู่ค้าหลายประเทศ

โดยนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด ให้มุมมองว่าตลาดหุ้นเกิดใหม่และไทย ตอบรับทรัมป์ 2.0 มาระดับหนึ่งแล้ว สะท้อนได้จากช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา ค่าเงินหลายประเทศที่อาจมีประเด็นตั้งกำแพงภาษีกับสหรัฐอ่อนค่าขึ้นมาเร็ว 4% ถึง 7% ตอบรับผลกระทบจากประเด็นการตั้งกำแพงภาษีเพิ่มจากจีน 10%, เม็กซิโกและแคนาดา 25% มาในระดับหนึ่งแล้ว อาทิ ค่าเงินหยวนจีนอ่อนค่า 4.4% เปโซเม็กซิโกอ่อนค่า 5.6% ดอลลาร์แคนาดา 6.7% ส่วนค่าเงินบาทอ่อนค่า 6.7%

ขณะเดียวกัน ตลาดหุ้นในกลุ่มประเทศเกิดใหม่หลายแห่ง เปิดปี 2568 มาก็ต่ำสุดในรอบหลายปี และบางแห่งต่ำกว่าช่วงต้นปี 2560 หรือช่วงเริ่มยุคทรัมป์ 1.0 เช่น ตลาดหุ้นไทย จุดเริ่มต้นดัชนีปี 2568 เปิดมาต่ำสุดในรอบ 9 ปีรองมาตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ เปิดปี 2568 ต่ำสุดในรอบ 8 ปี, ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดปี 2568 ต่ำสุดในรอบ 7 ปี ตรงกันข้ามกับตลาดหุ้นสหรัฐ (S&P500) ดัชนีเปิดปี 2568 สูงสุดในรอบ 9 ปี

รวมไปถึงตลาดหุ้น MSCI EMERGING MARKET ปรับตัวลงมาแล้ว 7.2% ในช่วง 2 เดือนหลังจากทรัมป์ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ (5 พ.ย. 67 – 10 ม.ค. 68) ตอบรับต่อผลกระทบจากนโยบายหาเสียงต่างๆ มาในระดับหนึ่งแล้ว และยังลงแรงกว่าช่วงเริ่มต้นยุคทรัมป์ 1.0 

แต่หากนโยบายสหรัฐต่างๆ ออกมาไม่รุนแรงอย่างที่ตลาดคิด เช่น มีการตั้งกำแพงภาษีบางสินค้า อาจเห็นการฟื้นกลับเช่นเดียวกับปี 2559 ที่ตลาดหุ้นกลุ่มประเทศเกิดใหม่ลงก่อนในช่วงแรก แล้วค่อยๆ ฟื้นขึ้นมาแรงในช่วงหลังชนะการเลือกตั้ง 3 –6 เดือน

ทั้งนี้ ทางสำนักข่าว Share2Trade จึงได้ทำการรวบรวมความเคลื่อนไหวของดัชนีตลาดหุ้นในกลุ่มประเทศเกิดช่วงต้นปีมาถึงปัจจุบัน(ณ วันที่ 10 ม.ค. 67) มานำเสนอให้แก่ผู้อ่าน ซึ่งดัชนีส่วนใหญ่ยังคงเคลื่อนไหวในแดนลบ มีเพียงแค่ตลาดหุ้นเกาหลีใต้, สิงคโปร์ และอินโดนีเซีย แต่รายละเอียดจะเป็นเช่นไรสามารถรับชมข้อมูลได้ตามด้านล่างนี้