Gossip Station..by เจ๊จิ๋ม

Gossip Station by..เจ๊จิ๋ม 15-01-25 (A5 อย่านะ!!! อย่าให้เป็นเช่นนั้นเลย!!!)


15 มกราคม 2568

Gossip Station by..เจ๊จิ๋ม  15-01-25(A5 อย่านะ!!! อย่าให้เป็นเช่นนั้นเลย!!!)

15-01-25 สวัสดีปีใหม่ 2568 “ปีงูไฟ" ค่ะพี่น้องชาวไทยที่รัก "เจ๊จิ๋ม" มารายงานตัว ณ ที่เก่าเวลาเดิม www.share2trade.com เปิดอ่านได้เลยมีเรื่องเด็ดๆ โดนๆ มาเม้าท์กันให้สนั่นวงการลงทุนของพวกเรากันเถอะ 

***เห็นรายงานการขายหุ้นของผู้ถือหุ้นรายใหญ่อันดับ 2 ของ A5 โดย “นายทวีรัช ปรุงพัฒนสกุล” ซึ่งผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัทฯได้จำหน่ายหุ้นจำนวน 25,500,000 หุ้น หรือคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 2.1646 เมื่อวันที่ 8 มกราคม 2568 …มาทรงนี้ ทำเอาเจ๊ใจหวิวๆ อย่าน๊าาาาาา..อย่าให้เป็นอย่างที่กลัวเลยนะ!!! ไม่อาววววว-ไม่พูด!!! 

***A5 แจ้งว่า “การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างผู้ถือหุ้นรายใหญ่ดังกล่าว ไม่มีผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงอำนาจกรรมการการบริหารงาน โครงสร้างการจัดการ และอำนาจการตัดสินใจในการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ แต่อย่างใด”

***หันไปดูราคาหุ้นรอบหนึ่งปีที่ผ่านมา A5 เคยแตะระดับสูงสุดที่ 3.54 บาท และลงไปแตะระดับต่ำสุดที่ 2.14 บาทเมื่อเร็วๆ นี้  ส่วนเมื่อวานราคาหุ้นปิดที่ 2.52 บาท พอส่องไปที่สภาพคล่องวอลุ่มการซื้อขายก้อมีมาเรื่อยๆ ไม่หวือหวานัก..แต่เริ่มมีการเคลื่อนไหวที่น่าสนใจและคึกคักขึ้นมาคือช่วงราวๆ ปลายเดือน ต.ค.ปีที่แล้วจนถึงตอนนี้..เจ๊กลัวววววววว!!!

***มาถึงเรื่องของ SA บอกเลยไม่มีอะไรต้องกังวล!!! ออกแถลงการณ์ให้รู้ทั่วกันไปเลยว่า ตามที่มีข่าวปรากฏในสื่อต่างๆ รวมถึงสื่อออนไลน์ซึ่งอาจสร้างความกังวลต่อผู้ถือหุ้น นักลงทุนและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องเกี่ยวกับสถานะหลักทรัพย์ที่วางเป็นประกันการชำระหนี้ในบัญชีมาร์จิ้นของผู้บริหาร บริษัทฯ ขอเรียนชี้แจงว่า จากการตรวจสอบข้อมูลที่เผยแพร่ในสื่อดังกล่าวข้างต้น เป็นข้อมูล ณ เดือน พ.ย.67 ซึ่งยังไม่ใช่ข้อมูลที่เป็นปัจจุบัน แต่ข้อมูลปัจจุบันสัดส่วนหลักทรัพย์ที่วางเป็นประกันการชำระหนี้ในบัญชีมาร์จิ้นของผู้บริหารมีจำนวนประมาณ 15% เมื่อเทียบกับจำนวนหุ้นทั้งหมด สามารถวิเคราะห์ได้ว่าเป็นสัดส่วนที่ต่ำไม่มีนัยสำคัญ และไม่สามารถส่งผลกระทบต่อบริษัทฯ ได้

***SA ขอให้ผู้ถือหุ้น นักลงทุน และผู้เกี่ยวข้องทุกท่านให้ความเชื่อมั่นและไว้วางใจบริษัทฯ ต่อการดำเนินงานภายใต้เจตนารมณ์ดังกล่าวข้างต้น และสอดคล้องกับกฎระเบียบต่างๆ เพื่อพัฒนาบริษัทฯ ให้เติบโตอย่างยั่งยืนหากมีข้อสงสัยหรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์ที่หมายเลข 02-617-1555 ต่อ 1500 หรืออีเมล์ ir@siameseasset.co.th

***”ซินเจีย ยู่อี่ ซินนี้ฮวดไช้” ปีมะเส็ง ปีนี้ตรงกับวันที่ 29 ม.ค.โดยเป็นเทศกาลที่จะเกิด 

1.)ความคึกคักการจับจ่ายเนื้อสัตว์, อาหารและผลไม้เพื่อไหว้บรรพบุรุษ 

2.) วันหยุดยาวของผู้ที่มีเชื้อสายจีน (จีน, ไต้หวัน, ฮ่องกง) ออกไปท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศและการรับประทานอาหารร่วมกันในครอบครัว ฯลฯ คาดจะเป็นปัจจัยหนุนการใช้บริการในไทยทั้งทางด่วน, ปั๊มน้ำมัน, ห้างสรรพสินค้า, สายการบิน, โรงแรม รวมถึงการซื้อสินค้า อาทิ เสื้อผ้า ฯลฯ 

3.)เทศกาลการแจกเงินและ ทอง ในธรรมเนียมคนจีน ถือว่าเป็นการเสริมสิริมงคล สำหรับผู้ให้และผู้รับ ฯลฯ โดยรวมหากอิง ม.หอการค้าไทย ประเมินการจับจ่ายในช่วง “ตรุษจีน”ปีนี้ เม็ดเงินสะพัด 3.2%y-y อยู่ที่ 109,313ล้านบาท (ยังไม่ได้รวมกันใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติ ที่เข้ามาราว8 แสน - 1 ล้านคน)

***เซียนหุ้นค่าย KSS ประเมินกระแสการเก็งกำไรหุ้นที่ได้ประโยชน์จากเทศกาลตรุษจีน ปีนี้ที่มีความน่าสนใจ โดยได้ทำการศึกษาสถิติผลตอบแทนหุ้นไทยในช่วงตรุษจีนย้อนหลัง 6 ปี  พบว่าก่อนเทศกาลตรุษจีน 2 และ 1 สัปดาห์ SET Index +0.81% และ +0.23% ตามลำดับ Sector ที่ได้ประโยชน์กับเทศกาลตรุษจีนปรับขึ้นในทางเดียวกัน และกลุ่มที่ให้ผลตอบแทนโดดเด่นสุดหากซื้อก่อน 2 สัปดาห์ และความเป็นไปได้ที่จะให้ผลตอบแทนบวกเกิน 50% คือ กลุ่มการเงิน +2.73% กลุ่มขนส่ง +1.59% กลุ่มเกษตร +1.4% กลุ่มสื่อสาร +1.33% กลุ่มอาหาร+1.21% กลุ่มค้าปลีก +1.03%

***กลยุทธ์การลงทุน KSS แนะนำเก็งหุ้นที่ได้ประโยชน์จากเทศกาลตรุษจีน เน้น 

-กลุ่มการเงิน AEONTS-KTC 

-กลุ่มขนส่ง AOT 

-กลุ่มเกษตร CPF-GFPT 

-กลุ่มสื่อสาร ADVANC

-กลุ่มค้าปลีก CPALL 

***ตกหล่นไม่ได้สำหรับเรื่องสุดท้ายของวันนี้คือเรื่อง “เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์” ซึ่งครม.อนุมัติร่าง พ.ร.บ.เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ไปแล้วและเตรียมเข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภาภายใน 1-2 เดือนนี้ เปิดทางเอกชนไทยร่วมทุนต่างชาติ ลงทุนแห่งละ 1-2 แสนล้าน

***เซียนหุ้นต่างมองว่าเรื่องนี้เป็น sentiment เชิงบวกต่อกลุ่มท่องเที่ยวในระยะยาวจากโอกาสที่จะมีจำนวนนักท่องเที่ยวและค่าใช้จ่ายต่อหัวต่อทริปจะเพิ่มขึ้นได้ดีในอนาคตซึ่งจะเป็น upside กับจำนวนนักท่องเที่ยวที่จะเพิ่มขึ้นได้อีก 5-10% ทั้งนี้มีการประเมินจำนวนนักท่องเที่ยวรวมปีนี้จะอยู่ที่ 39 ล้านคนเพิ่มขึ้น +10% YoY และคาดจำนวนนักท่องเที่ยวจีนจะอยู่ที่ 8 ล้านคน เพิ่มขึ้น +19% YoY และประเมินว่าจะมีโอกาสเปิดในพื้นที่ที่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติมาก เช่น ภูเก็ต และ พัทยา เป็นต้น ซึ่งจะเป็นการช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติให้มีมากขึ้น 

***สำหรับหุ้นที่จะได้ประโยชน์จะเป็นกลุ่ม Aviation ได้แก่ AOT-AAV  และกลุ่มโรงแรมที่เน้นรายได้จากจังหวัดใหญ่ในประเทศ ได้แก่ CENTEL-ERW  นอกจากนี้ยังมองเป็น sentiment บวกกับกลุ่ม BTS  เนื่องจากเคยมีกระแสข่าวว่าบริษัทอาจจะเข้าไปศึกษาการลงทุน อย่างไรก็ตามยังต้องรอดูรายละเอียดความชัดเจนเพิ่มเติม รวมถึงคาดจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น จะส่งผลบวกต่อกลุ่ม Aesthetic โดยเฉพาะ MASTER  ซึ่งมีสัดส่วนรายได้จากต่างชาติที่ 30% 

SA A5