“ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกฯ นับว่าเป็นอีกหนึ่งบุคคล ที่นักลงทุนไทยได้ให้ความสนใจเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะการฉายมุมมองต่อตลาดหุ้นไทย ซึ่งล่าสุดก็ออกมาสนับสนุนให้บริษัทจดทะเบียนซื้อหุ้นคืนมากขึ้น เนื่องจากสถานการณ์ที่ผ่านมามีหลายบริษัทที่ราคาหุ้นต่ำกว่ามูลค่าทางบัญชี
ดังนั้น ในวันนี้ทางสำนักข่าว Share2Trade จึงได้ทำการสำรวจและรวบรวมข้อมูลกลุ่มหุ้นในดัชนี SET50 ที่ราคาหุ้นต่ำกว่ากว่ามูลค่าทางบัญชี(P/BV) มานำเสนอให้แก่ผู้อ่านและนักลงทุนกันในครั้งนี้
โดยเริ่มกันที่ TOP มีมูลค่าทางบัญชี (P/BV) อยู่ที่ 0.34 เท่า นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) แนะนำ “ถือ” ราคาเป้าหมาย 28 บาท จากความล่าช้าและต้นทุนส่วนเกินของโครงการ CFP และใช้ส่วนลด20% รวมไปถึงแม้ว่ามูลค่าถูก แต่กระแสเงินสดอิสระจะติดลบในหลายปีข้างหน้าและเห็นความเสี่ยงต่อการจ่ายเงินปันผล
PTTGC มูลค่าทางบัญชี (P/BV) อยู่ที่ 0.39 เท่า นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ ธนชาต จำกัด (มหาชน) แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 30 บาท จากแผนการปิดกิจการของ PTT Asahi และ Vencorex France ที่ขาดทุน จะช่วยลดความเสี่ยงต่อกระแสเงินสดและงบดุลได้ ผลกระทบตํ่าคาดจากภาระร่วมของ PTT และราคาหุ้นไม่แพง
BANPU มูลค่าทางบัญชี (P/BV) อยู่ที่ 0.46 เท่า นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด แนะนำ “เก็งกำไร” ราคาเป้าหมาย 7 บาท เนื่องจากราคาหุ้นที่ปรับตัวลงถือว่ารับข่าวลบไปบางส่วน และหุ้นมีปัจจัยหนุนจากงบไตรมาส4/67 ฟื้นตัวจากไฮซีซั่น ลุ้นนโยบายภายใต้รัฐบาลทรัมป์ผ่อนปรนข้อจำกัดให้ใบอนุญาตขยายโรงงานส่งออกLNG และนับตั้งแต่วันเลือกตั้งสหรัฐฯราคาหุ้นยัง Laggard ทั้งราคาก๊าซและ BKV
SCC มูลค่าทางบัญชี (P/BV) อยู่ที่ 0.52 เท่า นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด แนะนำ “เก็งกำไร” ราคาเป้าหมาย 210 บาท เนื่องจากมูลค่าหุ้นอยู่ในระดับที่น่าสนใจและดาวน์ไซด์จำกัด แต่อย่างไรก็ดีในระยะสั้นยังไม่มีปัจจัยเร่งต่อราคาหุ้น
BBL มูลค่าทางบัญชี (P/BV) อยู่ที่ 0.54 เท่า นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ พาย จำกัด (มหาชน) แนะนำ "ซื้อ" ราคาเป้าหมาย 170 บาท ด้วยงบดุลที่ยังแข็งแกร่งและมูลค่าหุ้นที่ไม่แพงเทียบกับความสามารถในการทำกำไรในระยะยาว และคาดอัตราผลตอบแทนเงินปันผลสูงในปี 2568 – 2569 หรือที่ 5.3%-5.5%
EGCO มูลค่าทางบัญชี (P/BV) อยู่ที่ 0.57 เท่า นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 167 บาท แม้ในระยะสั้น-กลางถูกกดดันจากแนวโน้มผลตอบแทนพันธบัตร 10 ปีของสหรัฐฯ ที่ปรับตัวลงช้ากว่าคาด แต่ระยะยาวจะสามารถฟื้นตัวได้จากการปรับลดดอกเบี้ยและความชัดเจนโรงไฟฟ้าถ่านหิน QPL ในฟิลิปปินส์
KTB มูลค่าทางบัญชี (P/BV) อยู่ที่ 0.72 เท่า นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 24 บาท จากกำไรสุทธิปี 2568 ที่ยังเติบโตเด่นหรือ 10% จากปีก่อนหน้า และได้ผลบวกจากงบประมาณภาครัฐคาดว่ามีการเร่งเบิกจ่ายในครึ่งปีหลังปี 68 รวมไปถึงมีโอกาสเห็น KTB ปรับเพิ่ม payout ratio ขึ้นจากปัจจุบันที่ราว 30%
PTT มูลค่าทางบัญชี (P/BV) อยู่ที่ 0.80 เท่า นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด แนะนำ “เก็งกำไร” ราคาเป้าหมาย 38 บาท ด้วยจุดเด่นจากโครงสร้างธุรกิจครบวงจร ทำให้เป็นหุ้นพลังงานที่ผลประกอบการมั่นคง ฐานะการเงินแข็งแกร่ง เงินปันผลสม่ำเสมอ เหมาะสำหรับพักเงินช่วงตลาดหุ้นผันผวน
IVL มูลค่าทางบัญชี (P/BV) อยู่ที่ 0.92 เท่า นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด แนะนำ “เก็งกำไร” ราคาเป้าหมาย 26 บาท ซึ่งในระยะสั้นงบไตรมาส 4/67 ยังไม่เด่น เนื่องจากเป็นโลว์ซีซั่น จึงแนะนำนให้รอจังหวะเข้าลงทุนเมื่อราคาหุ้นอ่อนตัว
TU มูลค่าทางบัญชี (P/BV) อยู่ที่ 0.96 เท่า นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 16.90 บาท แม้ว่าพ.ร.ก.ภาษีส่วนเพิ่มกำหนดอัตราภาษีขั้นต่ำ 15% สำหรับกลุ่มบริษัทข้ามชาติที่รายได้เกิน 750 ล้านยูโร กลุ่ม TU มี ETR ปัจจุบัน 7% คาดต้องจ่ายภาษีเพิ่ม 200 ล้านบาท แต่คาดว่าจะไม่กระทบมากนัก