Talk of The Town

หุ้นกลุ่มแบงก์สุดแจ่ม! ครึ่งเดือนแรกปี 68 ราคาวิ่งฉิ่ว พบ KTB แชมป์ พุ่งแรงสุด 5.71%


16 มกราคม 2568

จากการสำรวจข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในช่วงครึ่งเดือนแรกของเดือนม.ค. 2568 พบว่าดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลง 3.36% ขณะที่มีเพียงหุ้น 2 กลุ่มอุตสาหกรรมที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นสวนทางดัชนีรวม ได้แก่ หุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.48% และกลุ่ม ICT เพิ่มขึ้น 0.84%

หุ้นกลุ่มแบงก์สุดแจ่ม!_S2T (เว็บ) copy_0.jpg

ทั้งนี้หุ้นธนาคารที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากสุดประกอบด้วย หุ้นKTB ราคาเพิ่มขึ้น 5.71% รองลงมาหุ้นKBANK เพิ่มขึ้น 5.14%  หุ้นSCB เพิ่มขึ้น3.40% หุ้นBBL เพิ่มขึ้น 1.66% และหุ้นTISCO เพิ่มขึ้น 1.02%

โดยบริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ประเมินว่า กลุ่มธนาคาร คงน้ำหนักการลงทุน “มากกว่าตลาด” Bank (Overweight) กำไรไตรมาส 4/67 เพิ่มขึ้นจากปีก่อน จากสำรองฯลดลง แต่ลดลงจากไตรมาสก่อน เพราะ OPEX ที่เพิ่มขึ้นตามฤดูกาล

ยังคงน้ำหนักการลงทุน “มากกว่าตลาด” โดยเราคาดกำไรสุทธิรวมไตรมาส 4/67 ของกลุ่มธนาคารจะอยู่ที่ 4.7 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 11% จากปีก่อน ลดลง 14% จากไตรมาสก่อน โดยเพิ่มขึ้นจากปีก่อน เกิดจากการตั้งสำรองฯที่ลดลงเป็นหลัก เพราะไตรมาส 4/66 มีการตั้งสำรองฯเพิ่มขึ้นเยอะจาก ITD โดยเฉพาะ BBL, SCB, KBANK และ KTB ประกอบกับมีรายได้ค่าธรรมเนียมสุทธิเพิ่มขึ้นตามฤดูกาล โดยเฉพาะค่าธรรมเนียมจากกองทุนรวมและ Bancassurance

ส่วนกำไรที่ลดลงจากไตรมาสก่อน เพราะ OPEX ที่เพิ่มขึ้นตามฤดูกาล โดยธนาคารที่เติบโตได้ดีจากปีก่อน คือ KKP เพิ่มขึ้น 87% จากปีก่อน เพราะผลขาดทุนรถยึดเริ่มลดลง รองลงมาเป็น KTB เพิ่มขึ้น% จากปีก่อน เพราะไตรมาส 4/66 มีการตั้งสำรองฯ ITD จำนวนมาก

ขณะที่กำไรสุทธิไตรมาส 4/67 ที่ลดลงจากปีก่อน และลดลงจากไตรมาสก่อน คือ SCB ลดลง 18% จากปีก่อน และลดลง 17% จากไตรมาสก่อน

รองลงมาเป็น TISCO ลดลง 8% จากปีก่อน ลดลง 4% จากไตรมาสก่อน เพราะสำรองฯที่เพิ่มขึ้นตามการปล่อยสินเชื่อผลตอบแทนสูงอย่างจำนำทะเบียนที่เพิ่มขึ้น

ด้านสินเชื่อไตรมาส 4/67 ทรงตัวจากปีก่อน เพราะสินเชื่อรายใหญ่และภาครัฐฟื้นตัวได้ดี แต่สินเชื่อรายย่อยและ SME ยังคงหดตัวลง ส่วน NPL จะทยอยปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่ยังอยู่ในระดับที่ควบคุมได้ ส่วน NPL รวมทยอยเร่งตัวขึ้นมาอยู่ที่ 3.29% จากไตรมาส 3/67 ที่ 3.20% แต่ยังอยู่ในระดับที่ควบคุมได้

ยังคงประมาณการกำไรสุทธิของกลุ่มธนาคารปี 67-68 อยู่ที่ 2.07 แสนล้านบาท/2.18 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 6% จากปีก่อน และเพิ่มขึ้น 5% จากปีก่อน จากสำรองฯที่ลดลงเป็นหลัก

โดยเราคาดว่าจะมีการปรับตัวลดลง 10% จากปีก่อน จากปี 66 ที่เพิ่มขึ้น 17% จากปีก่อน เพราะมีการตั้งเผื่อมาเยอะแล้ว ขณะที่ DAOL คาด กนง. จะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 2.25% จนถึงสิ้นปี 68 กลุ่มธนาคารปรับตัวเพิ่มขึ้น 7% ในช่วง 3 และ 6 เดือนที่ผ่านมา เพราะตลาดหุ้นมีความผันผวนทำให้มีการโยกเงินเข้ามาในหุ้นที่มีมีอัตราเงินปันผลสูง

โดยอัตราเงินปันผลเฉลี่ยของกลุ่มธนาคารอยู่ที่ 6.3% สูงกว่าอัตราปันผลเฉลี่ยของตลาดหุ้นที่ 3.2% ขณะที่ valuation ยังน่าสนใจ เทรดที่ระดับเพียง 0.70x 2024E PBV (-1.00SD below 10-yr average PBV)

Top picks เราเลือก KTB และ KBANK KTB (ซื้อ/เป้า 24.50 บาท) เพราะกำไรสุทธิปี 67 อยู่ที่ 4.3 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นสูงที่สุดในกลุ่มธนาคารที่ เพิ่มขึ้น 18% จากปีก่อน และคาดปี 68 กำไรจะอยู่ที่ 4.6 หมื่นล้านบาท เติบโตได้อีก 7% จากปีก่อน

ด้าน valuation ปัจจุบันซื้อขายเพียง PBV ที่ 0.68x (-0.75SD below 10-yr average PBV) KBANK (ซื้อ/เป้า 176.00 บาท) เพราะคุณภาพของสินทรัพย์ที่ดีขึ้น โดยปัจจุบันซื้อขายเพียง 0.66x PBV (-1.25SD below 10-yr average PBV) ถูกกว่า SCB ที่ 0.81x PBV