Talk of The Town
หุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้าชะตาขาด! กกพ.จ่อทบทวน-ปรับเงื่อนไขซื้อไฟฟ้า สะเทือนกำไร จ่อหนีตายไป ตปท.
17 มกราคม 2568
วานนี้ (16 ม.ค.68) ที่ประชุม กกพ. มีมติให้นำเสนอทางเลือกให้ทบทวนและปรับปรุงเงื่อนไขการรับซื้อไฟฟ้าจากกลุ่มผู้ผลิตไฟฟ้า SPP และ VSPP พลังงานหมุมเวียน ทั้งรูปแบบ Adder และ Feed in Tariff (FiT) เพื่อให้สะท้อนต้นทุนที่แท้จริง หากมีการปรับปรุงราคารับซื้อไฟฟ้ากลุ่มเหล่านี้ใหม่ จะทำให้ค่าไฟฟ้าลดลงได้ทันทีประมาณ 17 สตางค์ต่อหน่วย เหลือ 3.89 บาท/หน่วย จากค่าไฟฟ้าปัจจุบันเฉลี่ยอยู่ที่ 4.15 บาท/หน่วย
"เชื่อว่าข่าวนี้จะเป็นลบกับผู้ผลิตไฟฟ้าพลังงานหนุมเวียน และโรงไฟฟ้า SPP ที่ขายไฟฟ้าให้กับเอกชน เรียงจากมากไปน้อย ได้แก่ SPCG BGRIM GPSC GUNKUL WHAUP GULF RATCH EGCO BCPG และ CKP"
ผลกระทบโรงไฟฟ้า SSP
โรงไฟฟ้า SPP หากค่าไฟฟ้าลงทันที 17 สตางค์/หน่วย จะกระทบโรงไฟฟ้า SPP ที่ขายไฟฟ้าให้เอกชน อย่าง GPSC ที่ขายไฟฟ้าให้ลูกค้าอุตสาหรรม จะทำให้กำไรหายไปประมาณ 850 ล้านบาทต่อปี คิดเป็น 25% ของกำไรทั้งปี โดยคำนวนจากค่าไฟ Ft ลดลง 1 สตางค์จะทำให้กำไรหายไป 50 ล้านบาทต่อปี โดยให้ราคาค่าก๊าซฯ คงที่ บริษัทอื่นๆก็จะได้รับผลกระทบคล้ายกัน
ผลกระทบโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนที adder หมด
โรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนที่ adder หมดไปแล้ว แต่สัญญาต่อโดยอัตโนมัติ ไม่มีวันหมดอายุ อาจถูกยกเลิกสัญญาเพราะถือว่าเป็นกำไรที่ผู้ประกอบการไม่ควรได้รับ อย่าง SPCG BCPG รวมถึงโรงไฟฟ้าพลังงานลมห้วยบงของ RATCH และโรงไฟฟ้าแสงอาทิตย์ของ EA ที่ adder ของโรงไฟฟ้าหมดไปแล้ว แต่ยังผลิตไฟฟ้าขายให้กับ กฟภ. ในราคาที่สูงกว่า FiT ที่ 2.16 บาท/หน่วย หรือหากรัฐขอปรับลดค่าไฟฟ้าลงมาเท่ากับ FiT จะทำให้โรงไฟฟ้าเหล่านี้ตั้งด้อยค่าสินทรัพย์เป็นจำนวนมาก ซึ่งรัฐต้องพิจารณาให้ถี่ถ้วน
ผลกระทบโรงไฟฟ้าพลังงานหมุดเวียนที่มีสัญญาแบบ FiT
โรงไฟฟ้าพลังงานหมุดเวียนที่มีสัญญาแบบ FiT ที่เปิดดำเนินกิจการอยู่ปัจจันและที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง โดยหากเป็นโรงไฟฟ้าแดดจะรับซื้อไฟฟ้าที่ 2.16 บาท/หน่วย โรงไฟฟ้าพลังงานลมที่ 3.16 บาท/หน่วย อื่นๆ สูงถึง 11.16 บาท/หน่วย ซึ่งรวมอยู่ในค่าไฟฟ้าปัจจุบัน หากรัฐต้องการให้เพื่อให้สะท้อนที่แท้จริง เชื่อว่าน่าจะถูกปรับลดราคา FiT ลง ซึ่งจะกระทบกับโรงไฟฟ้าพลังงานหมุมเวียนที่เปิดประมูลไปเมื่อปีที่ผ่านมา
คาดรัฐหั่นค่าไฟลงได้อีก
นอกจากนี้เรายังเชื่อว่าค่าไฟฟ้าอาจถูกปรับลดลงได้ต่ำกว่านี้อีก หากรัฐไม่นำเงินค่าไฟฟ้าราว 11 สตางค์ต่อหน่วยคืนให้กับ EGAT จ่ายหนี้ตัวเอง อีกทั้งรัฐยังสามารถยกเลิกเก็บภาษี VAT และภาษีปิโตรเลียม ซึ่งหากทำได้ก็จะทำให้ค่าไฟฟ้าปรับลงอีก ดังนั้นหากมองแนวโน้มระยะยาวจากนโยบายลดค่าไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง จะส่งผลกระทบมากต่อกลุ่มผู้ผลิตไฟฟ้า รวมถึงการเปิดประมูลรอบใหม่หรือการลงทุนในธุรกิจโรงไฟฟ้าในอนาคตจะให้ผลตอบแทนที่ลดลง ยกเว้นภาครัฐจะให้การชดเชยหรือบรรเทาผลกระทบที่คาดว่าจะเกิดขึ้น
เตือนบีบหนัก!รัฐอาจต้องลงทุนเอง
แต่หากรัฐปรับลงค่าไฟฟ้าจนภาคเอกชนทำแล้วไม่คุ้มค่ากับการลงทุน โรงไฟฟ้าที่จะเกิดขึ้นใหม่รัฐอาจต้องลงทุนเอง ส่วนผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชนก็จะหันไปลงทุนธุรกิจไฟฟ้าในต่างประเทศมากขึ้น ซึ่งหลายบริษัทได้เริ่มลงทุนธุรกิจไฟฟ้าต่างประเทศเป็นจำนวนมากแล้ว
ชี้ราคาหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้ายัง Over hang ต่อ
สำหรับราคาหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้าปรับลงมารับข่าวลดค่าไฟฟ้าก่อนหน้านี้พอสมควรแล้ว เชื่อว่าราคาหุ้นจะ Over hang รอความชัดเจนของนโยบายภาครัฐในระยะถัดไป
ขณะที่ บล.กรุงศรี มองว่า กรณีกกพ. ชงรัฐทบทวน Adder-FiT หั่นค่าไฟลง 17 สตางค์ เหลือ 3.98 บ./หน่วย ไม่กระทบ GULF, GPSC, BGRIM, BCPG, EGCO, RATCH
แต่หากมีการลด Adder FiT ลง 0.17 บาท จะกระทบหุ้นพลังงานหมุนเวียน เช่น GUNKUL, EA, SPCG, SSP, WEH
ผลมากน้อยจะต่างกันตรงหุ้นที่ทยอยๆหมด adders ไปมากแล้วจะกระทบน้อยที่สุด
โดยเบื้องต้นเราอยู่ระหว่างศึกษาผลกระทบจากข้อเสนอของกกพ.