หุ้นไทยสุดตกต่ำ ประเดิมปี 68 แย่สุดอันดับ 3 ของโลก นักวิเคราะห์ชี้ ยังขาดความเชื่อมั่น
เปิดปี 2568 ดัชนีตลาดหุ้นไทยไม่สวยงาม โดยนับจากต้นปีถึงวันที่ 17 ม.ค.68 ยังเคลื่อนไหวในแดนลบ มิหนำซ้ำมูลค่าซื้อขายยังบางเบาต่อเนื่อง
ล่าสุดความเห็นนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด ระบุว่า เปิดปี 2568 ตลาดหุ้นไทยต่ำสุดอันดับ 3 ของโลก นับจากต้นปี 2568 ถึงปัจจุบัน (YTD) ยังขาดความเชื่อมั่น ถูกกดดันยุค TRUMP 2.0 โดยเริ่มปี 2568 นี้ (1 – 17 ม.ค. 67) ตลาดหุ้นเอเชีย และไทยลงแรงติดอันดับต้นๆ ของโลก จากความกังวลเริ่มต้นเข้าสู่ยุค TRUMP 2.0
อาทิ ตลาดหุ้นมาเลเซียลงแรงอันดับ 1 ของโลก -5.3%YTD รองลงมาอันดับ 2 ตลาดหุ้นบาร์เรน -4.3% และตลาดหุ้นไทย ลง มาอันดับ 3 ของโลก -4.26% ตามมาด้วยตลาดหุ้นจีน -2.74%, และตลาดหุ้น ฟิลิปปินส์ -2.71%
ถ้าโฟกัสแต่ตลาดหุ้นไทย พบว่า ย่อตัวลงมาหนักๆ ตั้งแต่ทรัมป์ชนะการเลือกตั้ง 5 พ.ย. – 17 ม.ค. 68 โดย SET INDEX -8.4% ส่วน SECTOR ที่ลงแรง คือ PAPER 28%, PKG -27%, PROF -26.7%, CONS -20.3%, CONMAT -19.5%
สังเกตได้ ว่าส่วนใหญ่จะเป็นธุรกิจอิงกับการส่งออก ส่วน SECTOR ที่ OUTPERFORM คือ BANK +4.2%, ETRON -1%, ICT -2.1%, PF&REIT -3.7%, MEDIA -3.9% เป็น ต้น สังเกตได้ว่าหุ้นกลุ่มที่ OUTPERFORM จะเป็นหุ้น DOMESTIC (ธุรกิจอิงใน ประเทศเป็นหลัก) หรือ หุ้นปันผลสูงเป็นหลัก
ดังนั้นสรุป ภายใต้มูลค่าซื้อขายเบาบาง หุ้นกลัว TRUMP2.0 ก็มีเม็ดเงินขายออกมา กดดัน ให้ราคาหุ้นลงมาหนักมากแล้ว คำแนะนำ นักลงทุนติดตามประเด็นการเมืองสหรัฐ อย่างใกล้ชิด ถ้าเห็นความผ่อนคลายลง อาจเห็นหุ้นกลุ่มดังกล่าวมีการรีบาวน์กลับ ขึ้นมาได้บ้าง อาทิ HANA, SCGP, ITC, SJWD, SCC, ERW, TU เป็นต้น
แต่ถ้ากระแส TRUMP รุนแรงก็น่าจะเห็นเม็ดเงินวนเวียนอยู่ในหุ้น DOMESTIC กับหุ้นปันผลสูงเป็นหลัก อาทิ BBL, KBANK, ADVANC, INTUCH, DIF, 3BBIF, VGI, PLANB, MAJOR