จับประเด็นหุ้นเด่น

รายงานพิเศษ : HFT ขยายฐานบุกตลาดยุโรป รับกระแสลดภาวะโลกร้อน หนุนยอดการใช้จักรยานเพิ่มขึ้น


20 มกราคม 2568

บมจ.ฮั้วฟงรับเบอร์ (ไทยแลนด์) (HFT) รับกระแสลดภาวะโลกร้อน บุกตลาดยุโรปที่ส่งเสริมการใช้รถจักรยานเป็นพาหนะ  สะท้อนจากยอดขายรถ 2 ล้อในอิตาลีที่สูงกว่ายอดขายรถยนต์

HFT_รายงานพิเศษ S2T (เว็บ) copy_0.jpg

ตลาดรถจักรยานและจักรยานยนต์ในยุโรปเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมีสาเหตุสำคัญจากปัญหาการลดภาวะโลกร้อน  โดยนครมิลานของอิตาลีได้เริ่มเก็บค่าธรรมเนียมการปล่อยมลพิษจากผู้ขับขี่รถยนต์ตั้งแต่ปี 2009 ทำให้มิลานเป็นหนึ่งในเมืองแรกๆในสหภาพยุโรปที่เก็บค่าธรรมเนียมการปล่อยมลพิษจากยานพาหนะ ภายใต้ระบบบัตรผ่านสิ่งแวดล้อมที่มีการปฏิรูปใหม่นี้ รถยนต์ส่วนบุคคลต้องชำระค่าธรรมเนียมสูงสุดถึง 10 ยูโรต่อวัน

ดังนั้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา การใช้จักรยานจึงได้รับการส่งเสริมอย่างมากในหลายประเทศในยุโรป ผู้คนจำนวนมากขึ้นเริ่มหันมาใช้จักรยานเป็นพาหนะสำหรับการเดินทาง และเลือกซื้อจักรยานหรือรถจักรยานยนต์ ในปัจจุบันยอดขายรถสองล้อในอิตาลีสูงกว่ายอดขายรถยนต์แล้ว

ซึ่ง 9 เดือนแรกของปี 2023 ตลาดรถจักรยานยนต์ในยุโรปมีการเติบโตอย่างมาก ACEM ได้เผยแพร่ข้อมูลการจดทะเบียนรถจักรยานยนต์ในยุโรป โดยในช่วงเดือนมกราคมถึงกันยายน 2023 ตลาดรถจักรยานยนต์ 5 อันดับแรกในยุโรป (ฝรั่งเศส, เยอรมนี, อิตาลี, สเปน และสหราชอาณาจักร) มียอดการจดทะเบียนใหม่เพิ่มขึ้น 11.8% เมื่อเทียบกับปี 2022 โดยมีจำนวนทั้งสิ้น 873,985 คัน

จากข้อมูลพบว่า ปี 2023 ถือเป็น “ปีทอง” ของตลาดรถจักรยานยนต์ในอิตาลี โดยเติบโตขึ้น 15.7% มียอดจดทะเบียนรถจักรยานยนต์รวม 337,202 คัน ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2010 นอกจากนี้ยังเป็นปีที่มียอดการจดทะเบียนรถใหม่มากที่สุดนับตั้งแต่เกิดวิกฤตการณ์ซับไพรม์ในสหรัฐฯ ซึ่งกระทบต่อตลาดโลก

เมื่อยอดขายรถจักรยานและจักรยานยนต์ในยุโรปเติบโตได้ดี ส่งผลดีต่อยอดขายยางนอกและยางในสำหรับรถจักรยาน รถจักรยานยนต์

ซึ่งนายจวง จื้อ เหยา Vice President บมจ.ฮั้วฟงรับเบอร์ (ไทยแลนด์) (HFT) ฐานะผู้นำในการผลิตและจำหน่ายยางนอกและยางในสำหรับรถจักรยาน รถจักรยานยนต์ และรถขนส่งขนาดเล็ก ที่ยอมรับว่า แนวโน้มผลประกอบการในปี 2567 มีทิศทางที่ดีขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา โดยคาดว่าจะเติบโต 15% ตามเป้าหมายที่วางไว้ ปัจจัยหลักมาจากคำสั่งซื้อยางนอก-ยางในรถจักรยาน และยางนอก-ยางในรถจักรยานยนต์จากทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะลูกค้าในอเมริกาและยุโรปซึ่งเป็นตลาดศักยภาพสูง ส่งผลให้ยอดขายโดยรวมเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

สะท้อนให้เห็นถึงแผนกลยุทธ์ที่แข็งแกร่งในการขยายตลาดต่างประเทศ ทั้งในด้านการเพิ่มฐานลูกค้าและการสร้างความเชื่อมั่นในคุณภาพของผลิตภัณฑ์ โดยบริษัทฯ มีแผนขยายตลาดต่างประเทศเพิ่มเป็น 60% จากสัดส่วนปัจจุบันที่ 50% เพื่อรองรับการเติบโตในอนาคต

"บริษัทฯ มั่นใจว่าการเติบโตในปี67จะเป็นไปตามเป้าหมาย โดยในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา มีกำไรสุทธิ 220.69 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งใกล้เคียงกำไรทั้งปี 2566 ที่ 249.87 ล้านบาท แม้อัตราเงินแลกเปลี่ยนจะมีความผันผวน แต่ด้วยการจัดการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพและมีการประเมินติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด จึงเชื่อว่าจะสามารถรับมือกับความเสี่ยงนี้ได้โดยไม่กระทบผลประกอบการอย่างมีนัยสำคัญ" นายจวง จื้อ เหยา กล่าว

ส่วนแนวโน้มในปี 2568 คาดว่า จะมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ปัจจัยสนับสนุนมาจากการขยายตลาดต่างประเทศเพิ่มเติม การเพิ่มสินค้าเกรดพรีเมียม และการบริหารจัดการต้นทุนอย่าง มีประสิทธิภาพ โดยบริษัทฯ ได้ลงทุนในเครื่องจักรใหม่เพื่อเพิ่มศักยภาพการผลิตอย่างยั่งยืน และติดตั้งแผงโซลาร์ฟาร์มเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าใช้ในโรงงาน ซึ่งคาดว่าจะช่วยลดต้นทุนค่าไฟฟ้าประมาณ 20 ล้านบาทต่อปี หรือประมาณ 20% ของการใช้ไฟฟ้าทั้งหมด โดยบริษัทฯ ยังคงมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจ พร้อมทั้งให้ความสำคัญคุณภาพของสินค้าที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าและผู้บริโภค ได้อย่างตรงจุดและครอบคลุมเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน

HFT