Talk of The Town

หุ้นโรงกลั่น เจอศึกหนัก! รัฐจ่อทำกฎหมายคุมราคาน้ำมัน ไม่อิงราคาน้ำมันที่สิงคโปร์


21 มกราคม 2568

หุ้นโรงกลั่นเจอแรงกดดัน หลังภาครัฐอยู่ระหว่างจัดทำกฎหมายคุมราคาน้ำมัน โดยมีหลักการเบื้องต้นคือ ไม่ต้องการให้อิงราคาน้ำมันสิงคโปร์ แต่โบรกฯ เชื่อรัฐจะไม่เลือกใช้วิธีที่ขัดต่อหลักการค้าเสรี แต่หาก worst case กฎหมายคุมราคาน้ำมันสามารถบังคับใช้และทำ cost plus เอกชนจริง แนะนำขายกลุ่มโรงกลั่นและสถานีบริการน้ำมัน

หุ้นโรงกลั่นเจอศึกหนัก!_S2T (เว็บ)_0.jpg

บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากประเด็น นายทักษิณ ปราศรัยระหว่างช่วยหาเสียงนายก อบจ. นครพนม พร้อมสนับสนุนโครงการ Entertainment Complex คาดมีการจ้างงานไม่ต่ำกว่า 2 หมื่นคน กาสิโนนั้นเป็นเพียงส่วนเล็กเพียง 10% และจี้ให้หน่วยงาน ทำไมราคาน้ำมันต้องอ้างอิงราคาสิงคโปร์ ให้ทบทวนลดค่าใช้จ่ายส่วนนี้ จากข่าวนี้ได้สร้างแรงกดดันต่อหุ้นโรงกลั่นน้ำมัน เนื่องจากกำไรส่วนต่างนี้จะลดลง

ขณะที่นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) ระบุว่า โรงกลั่นและสถานีฯ มี Overhang กฎหมายคุมราคาน้ำมัน

ทั้งนี้ภาครัฐอยู่ระหว่างจัดทำกฎหมายคุมราคาน้ำมัน โดยมีหลักการเบื้องต้นคือ ไม่ต้องการให้อิงราคาน้ำมันสิงคโปร์แต่มาใช้ cost plus แทน และราคาน้ำมันไม่เปลี่ยนทุกวัน ปรับเดือนละครั้ง (คาดหวังค่าการตลาดรวมไม่เกิน 2 บาท/ลิตร)

ผลกระทบการใช้หลักการ cost plus เท่ากับภาครัฐต้องการคุมอัตรากำไร (ยังไม่มีรายละเอียดของราคาอ้างอิงและอัตรากำไรที่ชัดเจนที่ภาครัฐต้องการจะควบคุม) ส่วนการปรับราคาน้ำมันเดือนละครั้ง หากไม่ใช้กลไกของภาษีสรรพสามิตและกองทุนน้ำมัน จะกระทบค่าการตลาดน้ำมันของกลุ่มสถานีฯ

ทั้งนี้มอง Negative ต่อความเสี่ยงด้านกฎหมายคุมราคาน้ำมัน ที่ รมว.พลังงานอยู่ระหว่างผลักดัน worst case หากเลือกใช้การคุมอัตรากำไรของเอกชนทั้งหมดหรือระบบ cost plus โดยไม่อิงกับการแข่งขันของภูมิภาค 

รวมถึงปรับราคาน้ำมันได้เดือนละครั้ง จะกระทบอัตรากำไรของกลุ่มโรงกลั่น (ทุกๆค่าการกลั่นลดลง 0.1 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล กระทบกำไรในกลุ่ม -2-7%; TOP2%, SPRC 3%, BCP 5%, IRPC 7%, PTTGC 5% และ BSRC 5%) และสถานีบริการน้ำมัน (ทุกๆ 0.1 บาท/ลิตร กระทบกำไร OR -8%, PTG -35%) อย่างมีนัยสำคัญ

โดยหากอิงตัวเลขบทสัมภาษณ์ในหนังสือพิมพ์ ที่ประเมินว่าลดราคาน้ำมันได้ 2 บาท/ลิตร แบ่งผลกระทบครึ่งๆ ระหว่างโรงกลั่น และสถานีฯ เท่ากับอาจกระทบค่าการกลั่น 4.5 ดอลลาร์/บาร์เรล และค่าการตลาด 1 บาท/ลิตร ซึ่งเป็นระดับที่ผู้ประกอบการไม่สามารถทำกำไรได้

ทั้งนี้ยังคงมุมมองที่ภาครัฐจะไม่เลือกใช้วิธีที่ขัดต่อหลักการค้าเสรี แต่หาก worst case กฎหมายคุมราคาน้ำมันสามารถบังคับใช้และทำ cost plus เอกชนจริง แนะนำขายกลุ่มโรงกลั่นและสถานีบริการน้ำมัน มองผลตอบแทนของกลุ่มจะลดลงอย่างมีนัยสำคัญ และความเสี่ยงในการบริหารเงินทุนหมุนเวียนเพิ่มขึ้นมาก