มิตซูบิชิ พาวเวอร์ เดินหน้าพัฒนาพลังงานของประเทศไทยจากการสร้างโรงไฟฟ้าหินกองได้สำเร็จ
มิตซูบิชิ พาวเวอร์ แบรนด์โซลูชันด้านพลังงานของ บริษัทมิตซูบิชิ เฮฟวี่ อินดัสตรี่ส์ จำกัด (MHI) ประกาศในวันนี้ว่าประสบความสำเร็จในการดำเนินโครงการทางวิศวกรรม การจัดซื้อจัดหา และการก่อสร้าง (EPC) ของโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วมแบบกังหันก๊าซธรรมชาติขนาด 1,400 เมกะวัตต์ ตามกำหนดเวลาที่วางไว้ ความสำเร็จในครั้งนี้เกิดขึ้นจากการเริ่มต้นดำเนินการเชิงพาณิชย์ของกังหันก๊าซ M701JAC เครื่องที่สองสำหรับ โรงไฟฟ้าของบริษัทหินกอง พาวเวอร์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทจดทะเบียนเฉพาะกิจ (SPC) ที่ก่อตั้งขึ้นร่วมกันโดยบริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (RATCH) และบริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) (GULF)
โรงไฟฟ้าแห่งนี้ที่ตั้งอยู่ห่างจากกรุงเทพฯ ไปทางทิศตะวันตกประมาณ 100 กิโลเมตร ติดตั้งกังหันก๊าซ M701JAC อันทันสมัยสองเครื่อง โดยเครื่องแรกเริ่มดำเนินงานเชิงพาณิชย์ในเดือนมีนาคม 2567 เครื่องที่สองเริ่มดำเนินงานเชิงพาณิชย์ในเดือนมกราคม 2568 ซึ่งเป็นการเสร็จสิ้นการติดตั้งกำลังการผลิตเต็มรูปแบบของโรงไฟฟ้าตามกำหนดเวลา มิตซูบิชิ พาวเวอร์ จะให้บริการบำรุงรักษาระยะยาวสำหรับกังหันก๊าซภายใต้ข้อตกลงการบริการระยะยาว (LTSA) เป็นเวลา 25 ปี และโรงไฟฟ้าจะจ่ายกระแสไฟฟ้าให้กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ภายใต้ข้อตกลงการซื้อขายไฟฟ้าระยะยาว เพื่อสนับสนุนการผลิตไฟฟ้าที่มีประสิทธิภาพสูงและมีความเสถียรอย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบสนองความต้องการด้านพลังงานในประเทศ
นายนิทัศน์ วรพนพิพัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า "บริษัทฯ มีความภูมิใจที่ได้เฉลิมฉลองการแล้วเสร็จของการก่อสร้างโรงไฟฟ้าประสิทธิภาพสูงที่สำคัญแห่งนี้ ซึ่งถือเป็น การบรรลุเป้าหมายของบริษัทฯ ในการส่งมอบโซลูชันด้านพลังงานที่เชื่อถือได้ ยั่งยืน และมีประสิทธิภาพให้กับประเทศไทย โรงไฟฟ้าแห่งนี้รองรับความต้องการพลังงานที่เพิ่มขึ้นของประเทศ ในขณะเดียวกัน ก็ช่วยให้มั่นใจว่าเราพร้อมรับมือกับอนาคตเมื่อความต้องการพลังงานมีการเปลี่ยนแปลง เราหวังเป็นอย่างยิ่งที่จะเสริมสร้างความร่วมมือกับพันธมิตรของเราในการขับเคลื่อนความก้าวหน้าด้านพลังงานของประเทศไทย"
นายชัยชวิน ตันติยันกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัดกล่าวเพิ่มเติมว่า "การแล้วเสร็จตามกำหนดเวลาและการดำเนินงานที่ราบรื่นของโรงไฟฟ้าแห่งนี้ สะท้อนให้เห็นถึงการทำงานร่วมกันอย่างแข็งแกร่งระหว่าง บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ บริษัท ราช กรุ๊ป และมิตซูบิชิ พาวเวอร์ โครงการนี้มีบทบาทสำคัญในการเสริมสร้างความมั่นคงทางพลังงาน ของประเทศไทยและสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจ เรามั่นใจว่าความร่วมมือนี้จะช่วยผลักดันให้เกิดโซลูชันด้านพลังงาน ที่เป็นนวัตกรรมและมีประสิทธิภาพต่อไป"
นายทาคาโอะ ซึกุอิ รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท มิตซูบิชิ พาวเวอร์ จำกัด กล่าวว่า "โครงการนี้ถือเป็นการเริ่มเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ของกังหันก๊าซ M701JAC ตัวที่ 10 ในประเทศไทย ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญที่เราได้ร่วมมือกับบริษัท ราช กรุ๊ป และบริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ นอกจากนี้เรายังคงมุ่งมั่นที่จะให้บริการในระยะยาวตามสัญญาที่ได้ลงนามตามข้อตกลงเพื่อให้มั่นใจว่าโรงไฟฟ้าแห่งนี้จะสามารถดำเนินการได้อย่างมั่นคง จากความสำเร็จของการสร้างโรงไฟฟ้าหินกอง เราพร้อมที่จะเสริมสร้างความแข็งแกร่งกับพันธมิตรและเผชิญกับความท้าทายใหม่ ๆ”
โครงการนี้สืบเนื่องมาจากโครงการโรงไฟฟ้า GTCC ขนาด 5,300 เมกะวัตต์ที่มิตซูบิชิ พาวเวอร์เพิ่งสร้างแล้วเสร็จ ในจังหวัดระยองและชลบุรีของประเทศไทย ซึ่งประกอบด้วยกังหันก๊าซ M701JAC จำนวน 8 เครื่อง ร่วมกับบริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) และบริษัท มิตซุย แอนด์ คัมปนี ด้วยความสำเร็จครั้งล่าสุดนี้ กังหันก๊าซ M701JAC ทั้ง 10 เครื่องในทั้งสองโครงการได้ส่งมอบตามกำหนดเวลา โดยมีชั่วโมงการทำงานสะสมรวม 120,000 ชั่วโมง ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความน่าเชื่อถือในการดำเนินงานและประสิทธิภาพที่ยอดเยี่ยม
รวมถึงโครงการล่าสุดนี้ มิตซูบิชิ พาวเวอร์ ได้จัดหาอุปกรณ์หลายประเภท รวมถึงกังหันก๊าซ 22 เครื่อง ให้กับโครงการของบริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) ซึ่งมีส่วนช่วยสร้างกำลังการผลิตไฟฟ้าในประเทศไทยมากกว่า 14,000 เมกะวัตต์
คำสั่งซื้อกังหันก๊าซ JAC ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทั่วโลก โดยในปี 2567 มีคำสั่งซื้อสะสมกว่า 100 เครื่อง กังหันก๊าซ JAC มีประสิทธิภาพในการทำงานแบบพลังความร้อนร่วมสูงกว่า 64% และเป็นไปตามมาตรฐานที่เข้มงวดในการลดการปล่อยก๊าซ คาร์บอนไดออกไซด์ ความยืดหยุ่นในการดำเนินงาน เช่น เวลาในการเริ่มเปิดเครื่องที่สั้นลง และความสามารถในการปรับโหลดอันยอดเยี่ยม ทำให้กังหันก๊าซ JAC เป็นโซลูชันที่สำคัญสำหรับการปรับสมดุลความต้องการพลังงานในระบบกริดที่ต้องพึ่งพาแหล่งพลังงานหมุนเวียนมากขึ้น
มิตซูบิชิ พาวเวอร์ ยังคงมุ่งมั่นพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตไฟฟ้าชั้นนำของอุตสาหกรรม เพื่อสนับสนุนความต้องการ ด้านพลังงานของประเทศไทยและส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจ