Gossip Station..by เจ๊จิ๋ม

Gossip Station by..เจ๊จิ๋ม 22-01-25 (ชี้ชัดๆหุ้นกระทบนโยบาย”ทรัมป์”)


22 มกราคม 2568

Gossip Station by..เจ๊จิ๋ม  22-01-25 (ชี้ชัดๆหุ้นกระทบนโยบาย”ทรัมป์” )

22-01-25 สวัสดีปีใหม่ 2568 “ปีงูไฟ" ค่ะพี่น้องชาวไทยที่รัก "เจ๊จิ๋ม" มารายงานตัว ณ ที่เก่าเวลาเดิม www.share2trade.com เปิดอ่านได้เลยมีเรื่องเด็ดๆ โดนๆ มาเม้าท์กันให้สนั่นวงการลงทุนของพวกเรากันเถอะ 

***เมื่อวันก่อน “ทรัมป์” เข้ารับตําแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ คนที่ 47 อย่างเป็นทางการแล้ว และแล้ว!!! “ทรัมป์”ก้อบอกว่าจะใช้อำนาจประธานาธิบดีลงนามในคำสั่งฝ่ายบริหารเพื่อประกาศภาวะฉุกเฉินด้านพลังงานแห่งชาติเพื่อลดราคาพลังงานในสหรัฐ โดยตั้งเป้าลดราคาน้ำมันเบนซินและค่าไฟของชาวอเมริกันลงครึ่งหนึ่งภายในช่วงปีแรกที่เขาเป็นประธานาธิบดี ทั้งนี้ ”ทรัมป์” ประกาศจะอนุมัติให้มีการเพิ่มการขุดเจาะน้ำมัน วางท่อน้ำมัน ตั้งโรงกลั่นน้ำมันใหม่ รวมถึงสร้างโรงไฟฟ้าใหม่

***ผลที่เห็นทันทีคือ ราคาน้ำมันดิบ Brent ปรับตัวลงเล็กน้อย ราคาสัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบ Brent ปรับตัวลงเล็กน้อย  ส่วนนโยบายอื่นๆ ของประธานาธิบดีทรัมป์ ยังมีการประกาศนโยบายในด้านอื่นๆอีกมากมาย โดยนโยบายที่สำคัญที่อาจจะกระทบต่อหุ้น คือ การยกเครื่องระบบการค้าของสหรัฐ  ด้วยการเก็บภาษีอากรจากต่างประเทศเพื่อสร้างความร่ำรวยให้ชาวอเมริกัน, การยกเลิกนโยบายส่งเสริมการผลิตยานยนต์ไฟฟ้า (EV) รวมถึง การถอนตัวออกจากข้อตกลงปารีส ซึ่งเป็นความตกลงตามกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

***กูรูประเมินว่ามีหุ้น 4 กลุ่มที่จะได้รับผลกระทบจากนโยบายของ “ทรัมป์” 2.0  กลุ่มที่มองเป็นบวกคือ กลุ่มโรงไฟฟ้า

( + ) กลุ่มโรงไฟฟ้า: เป็นบวกกับกลุ่มโรงไฟฟ้า มีโอกาสที่ราคาก๊าซธรรมชาติในตลาดโลกลดลง จากการผลิตและส่งออกก๊าซธรรมชาติที่มากขึ้นของ สหรัฐจะช่วยเพิ่มอุปทานในตลาดโลกมากขึ้น หุ้นที่ได้ positive sentiment จากประเด็นดังกล่าวคือ GPSC-BGRIM-GULF

***ส่วนกลุ่มที่ประเมินว่าจะเป็นผลลบ คือ กลุ่มพลังงานและกลุ่มส่งออก

( - ) กลุ่มพลังงานต้นน้ำและโรงกลั่น: มองว่าจะเป็นลบต่อราคาน้ำมันและก๊าซ LNG ในระยะยาวจากอุปทานที่สูงขึ้น แต่จะส่งผลบวกต่อราคาก๊าซธรรมชาติ US (Henry Hub) ได้เนื่องจากอุปสงค์การส่งออกที่สูงขึ้น ในขณะเดียวกัน กลุ่มโรงกลั่นน่าจะได้รับผลกระทบจากแนวโน้ม crack spread ที่อ่อนตัวตามอุปทานที่สูงขึ้น โดยในระยะยาวมองเป็นลบต่อ PTTEP-TOP -SPRC -BCP 

( - ) กลุ่มอาหารสัตว์เลี้ยง: สำหรับนโยบายยกเครื่องระบบการค้าสหรัฐ ด้วยการเก็บภาษีอากรจากต่างประเทศ แม้ปัจจุบัน ประธานิบดีทรัมป์ จะยังไม่มีการประกาศนโยบาย tariffs ตั้งแต่วันแรกของการรับเข้าตำแหน่ง โดยยังให้ทีมบริหารศึกษาอยู่ ทั้งยังย้ำถึงนโยบายเก็บภาษีเพื่อสร้างรายได้เข้าประเทศ โดยกลุ่มประเทศที่มีโอกาสได้รับผลกระทบเป็นกลุ่มแรก ได้แก่ จีน แคนาดา และเม็กซิโก ส่วนประเทศอื่นๆ รวมถึงไทย ยังต้องติดตามต่อ สำหรับหุ้นกลุ่มส่งออกไทยที่มีสัดส่วนรายได้ส่งออกไปสหรัฐฯ สูงได้แก่ AAI -ITC-TU 

( - ) กลุ่มยางพารา: สำหรับนโยบายยกเลิกส่งเสริมการผลิตยานยนต์ไฟฟ้ามองว่าเป็น sentiment ลบต่อหุ้นกลุ่มยาง แม้ปัจจุบันรายได้ส่งออกของ NER  จะเป็นการส่งออกไปจีนเป็นหลัก แต่นโยบายดังกล่าวอาจส่งผลให้ความต้องการยานยนต์ไฟฟ้าของตลาดโลกลดลงและอาจกระทบราคายางในอนาคต

***ทยอยประกาศงบออกมาตามคาดการณ์สำหรับหุ้นแบงก์ เริ่มจาก

 BBL  ปี 67 มีกำไรสุทธิ 45,211 ลบ.จากปี 66 ที่ทำกำไรไว้ 41,635 ลบ.

SCB  ปี 67 มีกำไรสุทธิ  43,943 ลบ.จากปี 66 ที่ทำกำไรไว้ 43,521 ลบ.

KBANK ปี 67 มีกำไรสุทธิ  48,598  ลบ.จากปี 66 ที่ทำกำไรไว้ 42,405, ลบ.

***สำหรับ SCB ได้เปิดเผยข้อมูลเป้าหมายของบริษัทในปี 2568 เอาไว้ดังนี้

-อัตราการเติบโตของสินเชื่อ ร้อยละ 1-3

-ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิ ร้อยละ 3.6-3.8

-อัตราการเติบโตของรายได้ค่าธรรมเนียมสุทธิ ร้อยละ 2-4

-อัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้ ร้อยละ 42-44

-อัตราส่วนผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นต่อสินเชื่อ ร้อยละ 1.50-1.70

***มีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นที่ SAAM ตอนนี้โครงสร้างการถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัทฯ เปลี่ยนแปลงไป 

1. นายพดด้วง คงคามี เดิมมีหุ้น 105,293,300 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 35.10 ล่าสุดถือหุ้น 100,293,300 หุ้น ลดลงเหลือร้อยละ 33.43

2. นางสาวกฤติยา หงส์หิรัญ  เดิมมีหุ้น 103,200,000 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 34.40 ล่สุดถือหุ้น 93,200,000 หุ้น ลดลงเหลือร้อยละ 31.07

3. นายภาคิน เหล่ากำเนิด  เดิมมีหุ้น 474,300 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 0.16 ล่าสุดถือหุ้น 15,474,300 หุ้น เพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 5.16

รวมทั้งสามคน มีหุ้นรวมกัน 208,967,600 ล่าสุดถือหุ้น  69.66 

***SAAM แจ้งว่า การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างผู้ถือหุ้นดังกล่าวข้างต้น ไม่มีผลกระทบต่อโครงสร้างคณะกรรมการบริษัท โครงสร้างผู้บริหาร โครงสร้างการจัดการ และนโยบายการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ แต่อย่างใด และการทำรายการได้มาหรือจำหน่ายหลักทรัพย์ของบุคคลดังกล่าวข้างต้น เป็นการทำรายการโดยผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย จึงไม่เข้าเกณฑ์มาตรา 258 ตามพ.ร.บ. หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 และไม่เข้าข่ายการทำ Mandatory Tender Offer แต่อย่างใด