จับประเด็นหุ้นเด่น

รายงานพิเศษ : PSP วางเป้าปี 68 รายได้โต 15% รับ 4 ปัจจัยหลักช่วยหนุน เน้นกลยุทธ์รุกธุรกิจมาร์จิ้นสูง


22 มกราคม 2568

บมจ.พี.เอส.พี.สเปเชียลตี้ส์ (PSP) วางเป้หมายปี 68 รายได้เติบโตไม่ต่ำกว่า 15% ผ่าน 4 ปัจจัยหลัก การเติบโตของตลาดต่างประเทศ , ปริมาณคำสั่งซื้อปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ตามความต้องการใช้ที่เพิ่มขึ้น ,การเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ และ 4. การบริหารจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ

PSP_รายงานพิเศษ S2T (เว็บ) copy_0.jpg

ตลาดผลิตภัณฑ์หล่อลื่นในเอเชียมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง สอดคล้องกับความต้องการใช้น้ำมันหล่อลื่นในกลุ่มอุตสาหกรรมและยานยนต์ที่ปรับตัวขึ้น 

จากข้อมูล Kline ASEAN Market Research คาดการณ์ว่าตลาดผลิตภัณฑ์หล่อลื่นในภูมิภาคเอเชียมีแนวโน้มเติบโตเฉลี่ยอยู่ที่ร้อยละ 2.8 ต่อปี โดยในส่วนของประเทศไทย คาดการณ์ว่าจะมีการเติบโตเพิ่มขึ้นเฉลี่ยอยู่ที่ร้อยละ 1.7 ต่อปี และการเติบโตของความต้องการใช้น้ำมันหล่อลื่นในกลุ่มอุตสาหกรรมและยานยนต์ คาดการณ์ว่าจะเติบโตเฉลี่ยอยู่ที่ราว ร้อยละ 2.7 ต่อปี รวมถึงการใช้น้ำมันหล่อลื่นในกลุ่มผลิตภัณฑ์อื่นๆ เช่น จาระบีน้ำมันผสมยาง และน้ำมันหม้อแปลงไฟฟ้า ซึ่งคาดการณ์ว่าจะเติบโตเฉลี่ยอยู่ที่ร้อยละ 1.2 ร้อยละ 2.8 และ ร้อยละ 1.0 ตามลำดับ

บริษัท พี.เอส.พี.สเปเชียลตี้ส์ จำกัด (มหาชน) หรือ PSP ผู้นำด้านผลิตภัณฑ์หล่อลื่นแบบครบวงจรที่มีประสบการณ์ความเชี่ยวชาญมากว่า 35 ปี ในการพัฒนาและผลิตน้ำมันหล่อลื่น (Lubricant) จาระบี (Grease) และผลิตภัณฑ์พิเศษ (Specialty products) ปัจจุบันมีกำลังการผลิตสสูงสุดของประเทศไทย อยู่ที่ 220 ล้านลิตร/ปี โดยมีมาร์เก็ตแชร์เป็นอันดับ 1 ใน 3 กลุ่มผลิตภัณฑ์ ซึ่งประกอบด้วย ผลิตภัณฑ์หล่อลื่นสำหรับยานยนต์อุตสาหกรรมอยู่ที่ 24% น้ำมันผสมยางอยู่ที่ 45% และน้ำมันหม้อแปลงไฟฟ้าอยู่ที่ 68%

พื้นฐานแน่นปึ้ก ผลงานโดดเด่น

นายเสกสรร ครองพาณิชย์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พี.เอส.พี.สเปเชียลตี้ส์ จำกัด (มหาชน) หรือ PSP เปิดเผยว่า บริษัทฯ มีผลการดำเนินงานเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยจากผลประกอบการงวด 9 เดือนปี 2567 บริษัทฯ มีรายได้รวม 10,276.73 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.79% เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 9,192.80 ล้านบาท เป็นผลมาจากรายได้จากการขายและราคาขายเฉลี่ยเพิ่มขึ้น จากการขยายตลาดการส่งออกใหม่ๆ ได้แก่ ศรีลังกา โอมาน ปานามา เมียนมาร์ เป็นต้น การขยายฐานการผลิตของลูกค้าส่งผลให้มีปริมาณคำสั่งซื้อเพิ่มขึ้น และมีกำไรสุทธิ 498.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 53.4% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 324.7 ล้านบาท และสูงกว่าทั้งปี 2566 ที่มีกำไรสุทธิ 427.54 ล้านบาท

เน้นกลยุทธ์รุกธุรกิจมาร์จิ้นสูงสร้างการเติบโต

ช่วงปี 2567 ที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้ลงทุนในธุรกิจใหม่หรือธุรกิจที่ความเกี่ยวข้องที่มีอัตรากำไรขั้นต้นสูง โดยได้ลงทุนใน บริษัท จีเนียส เจเนติกส์ จำกัด หรือ GeneusDNA ผู้ให้บริการการตรวจวิเคราะห์สุขภาพและพรสวรรค์ด้วย DNA ถือหุ้นในสัดส่วน 25% และบริษัท รีไซเคิล เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด ผู้ให้บริการด้านการกำจัดและรีไซเคิลสารเคมีใช้แล้ว ถือหุ้นในสัดส่วนถือหุ้น 65% ซึ่งในอนาคตมีแผนที่จะเข้าลงทุนใน บริษัท รีไซเคิล เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด เพิ่มเติม ขณะที่ในปี 2568 บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าหาโอกาสในการศึกษาเข้าลงทุนในธุรกิจใหม่และธุรกิจที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม 1-2 ราย เพื่อเพิ่มความสามารถในการทำกำไรที่ดียิ่งขึ้น และสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน

ลุยขยายตลาดต่างประเทศ

การขยายตลาดต่างประเทศ ถือเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์สำคัญในการสร้างการเติบโตของบริษัทฯ ซึ่งในปี 2567 มีสัดส่วนรายได้ส่งออก 19% ของรายได้รวมทั้งหมด และได้ตั้งเป้าหมายเพิ่มสัดส่วนรายได้ส่งออกเป็น 30% ภายในปี 2571

ปักหมุดปี 2568 เติบโตระดับ 15% 

บริษัทฯ มุ่งมั่นในการพัฒนาและขยายธุรกิจเพื่อรองรับการเติบโตในอนาคต โดยปี 2568 ตั้งเป้าหมายการเติบโตของรายได้ที่ 15% เมื่อเทียบกับปี 2567 โดยคาดว่าการเติบโตนี้จะได้รับการสนับสนุนจาก 4 ปัจจัยหลัก ประกอบด้วย 1. เติบโตของตลาดต่างประเทศ ซึ่งบริษัทฯ สามารถขยายฐานลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้น 2. ปริมาณคำสั่งซื้อปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ตามความต้องการใช้ที่เพิ่มขึ้น 3. การเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ เช่น ผลิตภัณฑ์ฟูดเกรด 

ซึ่งบริษัทฯ มองเห็นว่าเป็นโอกาสสำคัญในการลงทุนเพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน โดยขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการศึกษาขั้นสุดท้าย ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับยานยนต์ไฟฟ้า (EV) และผลิตภัณฑ์น้ำมันหม้อแปลงไฟฟ้า ซึ่งบริษัทฯ ได้ร่วมมือกับบริษัท โกลบอลกรีนเคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GGC ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ โดยปัจจุบันอยู่ในขั้นตอนการทดสอบขั้นสุดท้าย (Final test) และ 4. การบริหารจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ

PSP