ผ่านไปแล้ว! สำหรับการประกาศผลประกอบการหุ้นกลุ่มธนาคารประจำปี 2567 ซึ่งนักลงทุนคงทราบกันดีแล้วว่าในแต่ละบริษัทมีผลกำไรเป็นอย่างไรกันบ้าง ดังนั้นรอบนี้ทีมข่าว Share2Trade จึงได้รวบรวมคาดการณ์แนวโน้มผลประกอบการปี 2568 ของหุ้นกลุ่มนี้มาฝากนักลงทุน
เริ่มกันที่ KBANK ความเห็นนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) คาดปี 68 KBANK มีกำไร 5.3 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 9% จากปีก่อน เนื่องจากรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยที่คาดจะเพิ่มขึ้น และมีการตั้งสำรองลดลง แนะนำ “ทยอยซื้อ” ราคาเป้าหมาย 166 บาท
ต่อด้วย SCB ความเห็นนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ปี 2568 คาด SCB จะมีกำไรสุทธิ 45,435 ล้านบาท เติบโต 3.4% จากปีก่อน หนุนจาก 1.คาดสินเชื่อรวมขยายตัวต่อเนื่อง (บริษัทตั้งเป้าสินเชื่อโต 1-3%) โดยเฉพาะในกลุ่ม Gen 2 ซึ่งเป็นธุรกิจ Consumer Finance ทั้งในส่วนของ Card X และ Auto X ที่ให้ผลตอบแทนสูง เพื่อลดผลกระทบ ของ NIM ที่ถูกกระทบจากการลดดอกเบี้ยเงินกู้
2.รายได้ค่าธรรมเนียมคาดปรับตัวดีขึ้น จากการทำ Cross Selling ผลิตภัณฑ์ทางการเงิน ทั้งในส่วนของธุรกิจนายหน้าประกัน และ Wealth Management 3. คาดการตั้งสำรองมีโอกาสชะลอลง สอดรับกับเป้าหมายของบริษัทที่ตั้งเป้า Credit Cost ที่ 1.5-1.7% จากปี 2567 ที่ 1.8% โดยคาด Credit Cost ปี 2568 ที่ 1.7% หลังความสามารถในการชาระหนี้ของลูกหนี้สินเชื่อบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคลของ Card X ฟื้นตัว
4.ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานมีแนวโน้มปรับตัวขึ้น แม้จะไม่มีค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานของ Robinhood แต่บริษัทมีแผนลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยีและ Gen AI มากขึ้น เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของธุรกิจ Gen 1 และ Gen 2 แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 130 บาท
ขณะที่ KTB ความเห็นนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด ประเมินกำไรปี 2568 ที่ 44,130 ล้านบาท เติบโต 4%โดยอาจยังพอเห็นกำไรเติบโตได้ แม้ว่า NIM อาจอ่อนตัวลงบ้างตามการปรับลดดอกเบี้ยนโยบายในช่วงที่ผ่านมา แต่การปรับลดดอกเบี้ยนโยบายเพิ่มเติมอาจไม่ได้มากอย่างที่เคยคาดกันไว้ บวกกับอาจเห็นผลกระทบจากมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ต่างๆ ที่ทำให้ผลตอบแทนจากสินเชื่อลดลง แต่ก็อาจเห็นค่าใช้จ่ายสำรองหนี้ลดลงเช่นกัน ด้านสินเชื่อคาดยังคงปรับตัวดีขึ้น หลังภาครัฐเร่งการเบิกจ่าย คงคำแนะนำ “ซื้อ” คงราคาเป้าหมายปี 2568 ที่ 24 บาท
BBL ความเห็นนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) คาด BBL จะมีกำไรปี 68 ที่ 4.7 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.1% จากรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น และการลดลงของการตั้งสำรอง ถึงแม้ว่ารายได้ดอกเบี้ยอาจจะลดลงจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 169 บาท
ต่อที่ TTB นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ยังคงประมาณการกำไรสุทธิปี 2568 อยู่ที่ 2.06 หมื่นล้านบาท กลับมาหดตัว 2% เพราะสินเชื่อที่ยังคงหดตัวลงตามสภาวะตลาดรถยนต์ ประกอบกับมีค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นจากการลงทุนระบบ IT ขณะที่คาดว่ากำไรไตรมาส 1/68 จะลดลงทั้งช่วงเดียวกันของปีก่อน และจากไตรมาสก่อน เพราะสินเชื่อที่ลดลง แนะนำ “ถือ” และราคาเป้าหมายที่ 2.00 บาท
BAY ความเห็นนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) คาดปี 68 BAY มีกำไร 2.98 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น เพียง 0.3% จากการปรับลดประมาณการผลตอบแทนสินเชื่อลง ปรับราคาพื้นฐานลงมาเหลือ 25 บาทยังเหลือส่วนต่างอยู่พอสมควรแนะนำ “ทยอยซื้อ”
TISCO นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ยังคงคำแนะนำ “ถือ” TISCO และราคาเป้าหมายที่ 96.00 บาท คงประมาณการกำไรสุทธิปี 2568อยู่ที่ 6.8 พันล้านบาท ลดลง -1% จากสำรองฯที่เพิ่มขึ้น ขณะที่คาดว่าแนวโน้มกำไรไตรมาส 1/68 มีโอกาสที่จะลดลงทั้ง ทั้งช่วงเดียวกันของปีก่อน และจากไตรมาสก่อน จากสำรองฯที่จะเพิ่มขึ้นตามสินเชื่อผลตอบแทนสูงที่เพิ่มขึ้น
KKP นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ยังคงคำแนะนำ “ถือ” และราคาเป้าหมายที่ 50.00 บาท ยังคงประมาณการกำไรสุทธิปี 2568 อยู่ที่ 5.1 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 2% จากขาดทุนรถยึดที่ลดลงได้ตามประมาณรถยึดที่ลดลงจากการปล่อยกู้สินเชื่อเช่าซื้อที่ลดลงตั้งแต่ปี 2567 ขณะที่คาดกำไรไตรมาส 1/68 จะลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากสำรองฯที่เพิ่มขึ้น แต่จะเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อน จาก OPEX ที่ลดลงตามฤดูกาล