ส่องพอร์ต 2 พันลบ. ของ “เสี่ยปู่” โผล่ถือหุ้น MEDEZE ครั้งแรก พบรายใหญ่"ไพบูลย์ เสรีวัฒนา"กอดแน่น

25 มกราคม 2568

ภาพรวมดัชนีตลาดหุ้นไทยในช่วงเดือนแรกของปี 2568 ดัชนีผันผวนและยังขาดปัจจัยใหม่เข้ามาผลักดันให้สามารถยืนเหนือระดับ 1,400 จุด

จากการสำรวจข้อมูลการลงทุนของนักลงทุนรายใหญ่ "สมพงษ์ ชลคดีดำรงกุล"หรือเสี่ยปู่ ณ ต้นปี 2568 ถือหุ้นจำนวน 20 บริษัท มีมูลค่าการลงทุนรวมอยู่ที่ 2,030,247,462 บาท โดยลงทุนในหุ้นดังนี้

AJ 20,374,000 หุ้น คิดเป็น 4.63 % ถือผ่านพอร์ต บล.ดาโด(ประเทศไทย) 3,631,400 หุ้น คิดเป็น 0.83 %

BROCK 138,886,500 หุ้น คิดเป็น 13.55%

BVG 19,253,300 หุ้น คิดเป็น 4.28% ถือผ่านพอร์ต บล.ดาโด(ประเทศไทย) 2,986,000หุ้น คิดเป็น 0.66 %

CHAO 2,433,300 หุ้น คิดเป็น 0.81%

COCOCO 20,200,000 หุ้น คิดเป็น 1.37%

DITTO 24,402,100 หุ้น คิดเป็น 3.52 %ถือผ่านพอร์ต บล.ดาโด(ประเทศไทย) 4,560,760หุ้น คิดเป็น 0.66 %

ICN 42,844,900 หุ้น คิดเป็น 6.37 %ถือผ่านพอร์ต บล.ดาโด(ประเทศไทย) 8,859,400 หุ้น คิดเป็น 1.32%

KCC 12,756,700 หุ้น คิดเป็น 2.06%ถือผ่านพอร์ต บล.ดาโด(ประเทศไทย) 5,342,700หุ้น คิดเป็น 0.86%

MFEC 2,856,200 หุ้น คิดเป็น 0.65%

NETBAY 5,654,800 หุ้น คิดเป็น 2.83%ถือผ่านพอร์ต บล.ดาโด(ประเทศไทย) 1,380,700หุ้น คิดเป็น 0.69 %

ORI 77,135,300 หุ้น คิดเป็น 3.14 %

PCC 30,373,400 หุ้น คิดเป็น 2.48 %ถือผ่านพอร์ต บล.ดาโด(ประเทศไทย) 6,866,200 หุ้น คิดเป็น 0.56 %

PEACE 14,721,400 หุ้น คิดเป็น 2.92 %ถือผ่านพอร์ต บล.ดาโด(ประเทศไทย) 4,411,080 หุ้น คิดเป็น 0.88 %

PLUS 51,207,500 หุ้น คิดเป็น 7.64%ถือผ่านพอร์ต บล.ดาโด(ประเทศไทย) 10,247,500 หุ้น คิดเป็น 1.53 %

PRI 9,497,800 หุ้น คิดเป็น 2.97%ถือผ่านพอร์ต บล.ดาโด(ประเทศไทย) 4,458,500 หุ้น คิดเป็น 1.39 %

PROUD 25,063,700 หุ้น คิดเป็น 2.57%ถือผ่านพอร์ต บล.ดาโด(ประเทศไทย) 10,218,200 คิดเป็น 1.05%

RSP 8,818,000 หุ้น คิดเป็น1.19 %

TATG 6,000,000หุ้น คิดเป็น 1.50 %

TEAMG 22,240,500 หุ้น คิดเป็น 2.72%ถือผ่านพอร์ต บล.ดาโด (ประเทศไทย) 4,452,900หุ้น คิดเป็น 0.54%

MEDEZE 9,603,300 หุ้น คิดเป็น0.90%

เมื่อนำข้อมูลมาเปรียบเทียบกับการปิดสมุดทะเบียนรายชื่อในครั้งก่อนของหุ้น MEDEZE พบว่า "เสี่ยปู่"ได้เข้ามาถือหุ้นเป็นครั้งแรก จากเดิมไม่ปรากฎรายชื่อการเป็นผู้ถือหุ้นดังกล่าว

ขณะเดียวกันยังพบว่านักลงทุนรายใหญ่ อย่าง" ไพบูลย์ เสรีวิวัฒนา"ยังคงสัดส่วนการถือครองหุ้น 10,000,000หุ้น คิดเป็น0.94% เท่าเดิมและยังคงเป็นหนึ่งในผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 5 ของบริษัทอีกด้วย สำหรับการเคลื่อนไหวราคาหุ้นMEDEZE ในเดือนม.ค. 2568 ราคาหุ้นเพิ่มขึ้น 3.93%

ก่อนหน้านี้ มจ.เมดีซ กรุ๊ป [MEDEZE] ได้ลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ หรือ MOU ร่วมกับ บมจ.ไอเอฟซีจี [IFCG] ซึ่งเป็นบริษัทที่ปรึกษาด้านธุรกิจ และการลงทุนชั้นนำของประเทศไทย ในการขยายฐานตัวแทนจำหน่ายเพื่อให้คำปรึกษา และนำเสนอบริการด้านการจัดเก็บ ตรวจวิเคราะห์ และเพาะเลี้ยงเซลล์ต้นกำเนิด หรือ สเต็มเซลล์ จากสายสะดือทารก และเซลล์ไขมันจากผู้ใหญ่ รวมถึงเซลล์รากผม ซึ่งจะเป็นการขยายตัวแทนจำหน่ายให้กับ MEDEZE ได้อย่างก้าวกระโดด

ปัจจุบัน MEDEZE มีตัวแทนที่ปรึกษาประมาณ 50 คน จะเพิ่มขึ้นอีกกว่า 400 คน จากตัวแทนของ IFCG และที่สำคัญจะทำให้ MEDEZE สามารถเข้าถึง และขยายฐานลูกค้าในกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูงได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งฐานลูกค้ากลุ่มนี้ถือว่าเป็นกลุ่มเป้าหมายสำหรับการให้บริการของ MEDEZE ซึ่ง IFCG มีประสบการณ์อันยาวนาน และความเชี่ยวชาญในการให้บริการแก่ลูกค้ามากกว่า 50,000 ราย

"MEDEZE จะสามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าฐานใหม่ที่มีกำลังซื้อสูงได้มากขึ้น การมีพันธมิตรที่มีเครือข่ายลูกค้าขนาดใหญ่เช่นนี้ จะช่วยให้บริษัทขยายฐานลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว และเพิ่มโอกาสในการเติบโตในตลาดใหม่ ๆ โดยเฉพาะในกลุ่มที่สนใจเทคโนโลยีสเต็มเซลล์รากผม" นายแพทย์วีระพล กล่าว

ขณะที่นายวิทูร เลิศพนมวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร IFCG เปิดเผยว่า IFCG เป็นบริษัทที่ปรึกษาด้านธุรกิจ และการลงทุนชั้นนำของประเทศไทย ด้วยประสบการณ์อันยาวนาน และความเชี่ยวชาญในการให้บริการแก่ลูกค้ามากกว่า 50,000 ราย พร้อมด้วยทีมผู้เชี่ยวชาญมากกว่า 400 คน ที่พร้อมให้คำปรึกษาที่เป็นกลาง ผ่านนวัตกรรมล้ำสมัย และผลิตภัณฑ์ทางการเงินการลงทุนที่หลากหลาย เพื่อตอบโจทย์ทุกความต้องการอย่างมั่นคง และยั่งยืน

การลงนามในครั้งนี้จะถือว่าเป็นประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับลูกค้าของทั้ง MEDEZE และ IFCG โดยลูกค้าของ MEDEZE ก็จะสามารถเข้าถึงข้อมูล และการให้คำปรึกษาผ่านตัวแทนที่ปรึกษาของ IFCG ได้ ซึ่ง MEDEZE เป็นผู้เชี่ยวชาญ และเป็นหนึ่งในผู้นำในธุรกิจให้บริการตรวจวิเคราะห์ คัดแยก เพาะเลี้ยง และรับฝากเซลล์ต้นกำเนิด และตรวจศักยภาพเซลล์ภูมิคุ้มกัน ในขณะที่กลุ่มลูกค้าของ IFCG จะได้รับบริการ และคำปรึกษาในผลิตภัณฑ์ที่มีความหลากหลายได้อย่างมีประสิทธิภาพ