TOP เรียกเงินประกันโครงการ CFP มูลค่า 1.2 หมื่นลบ. หนุนมูลค่า 5.5 บาทต่อหุ้น โบรกฯ คาดราคาจะหุ้นตอบรับข่าวเชิงบวก

TOP เผยได้บังคับหลักประกันภายใต้สัญญาจ้างเหมาทำของ การออกแบบวิศวกรรม การจัดหา และ การก่อสร้างโครงการพลังงานสะอาด 12,339 ล้านบาท โบรกฯ ชี้เป็นข่าวดีเกินคาดหมาย ช่วยบรรเทาผลกระทบจากการเพิ่มเงินลงทุนในโครงการ

นายบัณฑิต ธรรมประจำจิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) หรือ TOP ชี้แจงผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ว่า ตามที่มีข่าวปรากฏในสื่อ เรื่องการเปิดเผยข้อมูลของ Samsung E&A ต่อตลาดหลักทรัพย์ของประเทศเกาหลีใต้ เกี่ยวกับการชำระเงินเนื่องจากการที่บริษัทในฐานะเจ้าของโครงการพลังงานสะอาด (Clean Fuel Project: CFP) ได้มีการบังคับหลักประกันสำหรับโครงการนั้น

บริษัทฯ ขอชี้แจงว่า บริษัทฯ ได้บังคับหลักประกันภายใต้สัญญาจ้างเหมาทำของ การออกแบบวิศวกรรม การจัดหา และ การก่อสร้าง (EPC Contract) ระหว่างบริษัทฯ และ The Consortium of PSS Netherlands B.V. (Offshore Contractor) และ an unincorporated joint venture of Samsung E&A (Thailand) Co., Ltd., Petrofac South East Asia Pte. Ltd. และ Saipem Singapore Pte. Ltd.  (Onshore Contractor) ตามสัญญาฯ 

และเพื่อประโยชน์ของบริษัทฯ และผู้ถือหุ้นเป็นจำนวนเงินประมาณ 12,339 ล้านบาท หรือเทียบเท่าประมาณ 358 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ทั้งนี้บริษัทฯ ขอยืนยันว่าจะดำเนินการอย่างเต็มความสามารถเพื่อผลักดันโครงการ ให้เดินหน้าต่อไปให้ดีที่สุด  

ความเห็นนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ระบุว่า ประเด็น TOP ได้เรียกร้องสิทธิตามหนังสือค้ำประกันภายใต้สัญญาจ้างเหมางานก่อสร้างรูปแบบ EPC ซึ่งฝ่ายวิจัยคาดว่าหนังสือค้ำประกันจะมีมูลค่าประมาณ 10% ของมูลค่าโครงการทั้งหมดที่ 4.8 - 5.4 พันล้านเหรียญฯ หรือราว 1.6 – 1.8 แสนล้านบาท (ครั้งนี้ได้รับ 358 ล้านเหรียญฯ หรือราว 1.2 หมื่นล้านบาท) โดยจำนวนเงินส่วนที่เหลือเป็นปัจจัยต้องติดตามต่อไป

ทั้งนี้คาดว่า TOP จะนำเม็ดเงินดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของเงินทุนผลักดันการดำเนินการก่อสร้างโครงการ  CFP ให้แล้วเสร็จ

ขณะที่มองว่าตลาดจะตอบรับเชิงบวกต่อข่าวครั้งนี้ 1.การได้รับชำระเงินครั้งนี้จะช่วยบรรเทาผลกระทบจากการเพิ่มเงินลงทุนในโครงการ CFP โดยจำนวนเงิน 1.2 หมื่นล้านบาทครั้งนี้คิดเป็นมูลค่า 5.5 บาท/หุ้น 

2.จำนวนเงินตามคำชี้แจงอย่างเป็นทางการครั้งนี้สูงกว่ากระแสข่าวช่วงปลายสัปดาห์ก่อน หน้าว่า Samsung E&A (1 ใน 3 กิจการร่วมค้า UJV ซึ่งเป็น EPC ผู้รับเหมาหลักโครงการ CPF) มีมติจ่ายเงินให้แก่ธนาคารที่ออกหนังสือค้าประกันแล้ว 2.0 พันล้านบาท และมียอดที่ต้องจ่ายทั้งหมด 3.4 พันล้านบาท คิดเป็นมูลค่า 1.5 บาท/หุ้น 3. มองว่าการได้รับเงินครั้งนี้เป็นปัจจัยที่ Consensus ไม่ได้รวมไว้ในประมาณการ 

ส่วนปัจจัยต้องติดตาม คือ ผลการประชุมผู้ถือหุ้น EGM ในวันที่ 21 ก.พ. พิจารณาอนุมัติเพิ่มเงินลงทุนใน โครงการ CFP (ออกเสียงอนุมัติมากกว่า 50%) เพื่อให้การก่อสร้างเดินหน้าต่อจนแล้วเสร็จ 

อย่างไรก็ตาม ราคาหุ้น 2 เดือนที่ผ่านมา ติดลบ 33% ปัจจุบันซื้อขายบน PBV ต่ำเพียง 0.3 เท่า (Discount มากกว่า -2.0SD) ถือว่าสะท้อนข่าวลบจากงบลงทุนเพิ่มเติมของ CFP ในช่วงที่ผ่านมาไปแล้ว ขณะที่ข่าวการได้รับเงินตามสิทธิในหนังสือค้ำประกันครั้งนี้ เป็นปัจจัยใหม่ที่ยังไม่ได้สะท้อนไปในราคาหุ้น ดังนั้นมองว่าสามารถเก็งกำไรลุ้นการฟื้นตัว คาดราคาจะหุ้นตอบรับเชิงบวกจากข่าวนี้ คงคำแนะนำ TRADING ราคาเหมาะสม 35.00 บาท