SCC ยังไม่มีสัญญาณฟื้น! โบรกฯ หั่นกำไรลงหนัก ผลงานแย่ทุกธุรกิจ แนะ “ขาย” ลดเป้าหมายเหลือแค่ 127 บาท
SCC ส่อแววแย่ต่อ! ล่าสุดนักวิเคราะห์หั่นเป้าหมายเหลือเพียง 127 บาท พร้อมแนะนำ “ขาย” ลดลงคาดการณ์กำไรปี 68-70 ลงอย่างหนัก หลังทุกธุรกิจยังอ่อนแอ
นักวิเคราะห์บริษัท หลักทรัพย์ ธนชาต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปรับลดคาดการณ์กำไรปี 68-70 ของ SCC ลง โดยปรับลดกำไรปี 68 ลง 36% ปี 68 ปรับลง 22% และปี 70 ปรับลง 25% เนื่องจากธุรกิจกระดาษและวัสดุก่อสร้างที่อ่อนแอ ในขณะที่ธุรกิจปิโตรเคมียังคงอ่อนแอ และแนะนำ “ขาย” SCC ราคาเป้าหมายลดลงเหลือ 127 บาท
โดยคงคำแนะนำ “ขาย” SCC 1. ปรับลดกำไรปี 68 ลง 36% ปี 68 ปรับลง 22% และปี 70 ปรับลง 25% สะท้อนธุรกิจกระดาษที่อ่อนแอผ่านบมจ. เอสซีจี แพคเกจจิ้ง ซึ่งถือหุ้นอยู่ 72% (SCGP, “ขาย”) และธุรกิจวัสดุก่อสร้างที่อ่อนแอ จึงปรับลดเป้าหมายปีฐาน 68 ลงจาก 175 บาท เป็น 127 บาท
2.ธุรกิจปิโตรเคมียังคงตกต่ำโดยมีระดับสเปรดที่ขาดทุน 3. แม้ว่าบริษัทฯ จะมีความคืบหน้าที่ดีในการลงทุนเพิ่มเติมใน Long Son Petrochemical (LSP) แต่ก็ยังคงมองกลางๆ ในเรื่องนี้ เนื่องจากอุตสาหกรรมและสเปรดอ่อนแอ และ 4. SCC ยังคงแพงที่ 20 เท่า 2025F PE
โดยคาดว่าปี 68 จะเป็นปีที่ยากลำบากที่สุดปีหนึ่งสำหรับ SCC เนื่องจากธุรกิจส่วนใหญ่อยู่ในช่วงขาลงในเวลาเดียวกัน ธุรกิจปิโตรเคมีอยู่ในช่วงขาลงแล้ว โดย HDPE-naphtha spread อ้างอิงเคลื่อนไหวอยู่แถวจุดต่ำสุดที่ 280-350 เหรียญสหรัฐ/ตัน ตั้งแต่ไตรมาส 4/65 สเปรดปัจจุบันอยู่ที่ 280 เหรียญสหรัฐ/ตัน
LSP จำเป็นต้องมีการลงทุนเพิ่มเติมเพื่อให้สามารถใช้อีเทนเป็นวัตถุดิบได้มากขึ้น และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ธุรกิจวัสดุก่อสร้างรวมทั้งซีเมนต์กำลังเผชิญกับยอดขายภายในประเทศที่อ่อนแอจากการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และโครงสร้างพื้นฐานที่อ่อนแอ SCGP เผชิญกับภาวะขาดทุนที่มากขึ้นจาก Fajar ในอินโดนีเซีย เนื่องจากการส่งออกไปยังจีนที่อ่อนแอ โปรดดูบทวิเคราะห์ SCGP – “ยังไม่ฟื้นตัว” วันที่ 15 มกราคม 68
LSP ต้องเผชิญกับความล่าช้าในการเปิดตัวหลายครั้ง เนื่องจากสเปรดผลิตภัณฑ์ที่อ่อนแอมากจากอุตสาหกรรมที่อ่อนแอ และความสามารถในการแข่งขันด้านต้นทุนของจีนที่เพิ่มขึ้น เพื่อลดฐานต้นทุน SCC ได้ลงทุนเพิ่มเติมใน LSP เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นของวัตถุดิบจากแนฟทา และ LPG ให้รวมถึงอีเทนซึ่งมีราคาถูกกว่า
ปัจจุบัน SCC มีแผนใช้จ่ายลงทุน 500 ล้านเหรียญสหรัฐ สำหรับโครงการอีเทน เทียบกับแผนเดิมที่ 700 ล้านเหรียญสหรัฐในปี 68-70 SCC ผ่านทาง SCG Chemicals ซึ่งเป็นบริษัทที่ SCC ถือหุ้นทั้งหมด ได้จัดหาวัตถุดิบอีเทน ผ่านข้อตกลงระยะเวลา 15 ปี กับ Enterprise Products Partners (EPD) ในสหรัฐอเมริกา เพื่อจัดหาอีเทนสูงสุด 1 ล้านตันต่อปี และมีข้อตกลงระยะเวลา 15 ปี กับ Mitsui O.S.K. Lines (MOL) ในจะเช่าเรือขนส่งอีเทนขนาดใหญ่ (VLEC) เพื่อขนส่งอีเทนจากสหรัฐอเมริกาไปยังเวียดนาม เราคาดว่า LSP จะเริ่มดำเนินการในช่วงต้นปี 69 เทียบกับ เป้าหมายของบริษัทในครึ่งหลังปี 68
ขณะที่สเปรดยังคงเคลื่อนไหวอยู่แถวจุดต่ำสุด โดย HDPE-naphtha spread อ้างอิงมาตรฐาน เริ่มต้นปีที่ระดับต่ำมากที่ 280 เหรียญสหรัฐ/ตัน ซึ่งต่ำกว่าระดับต้นทุนเงินสดของอุตสาหกรรมที่ 300-350 เหรียญสหรัฐ/ตัน หากอยู่ในระดับนี้ตลอดทั้งปี SCC มีความเสี่ยงที่จะทำกำไรได้จำกัด ด้วยการขาดทุนจากธุรกิจปิโตรเคมีจะกัดกร่อนกำไรจากธุรกิจอื่น