Gossip Station by..เจ๊จิ๋ม 29-01-25 (DEEPSEEK เขย่าหุ้นกลุ่ม TECH สะเทือน!!!)
Gossip Station by..เจ๊จิ๋ม 29-01-25 (DEEPSEEK เขย่าหุ้นกลุ่ม TECH สะเทือน!!!)
29-01-25 สวัสดีปีใหม่ 2568 “ปีงูไฟ" ค่ะพี่น้องชาวไทยที่รัก "เจ๊จิ๋ม" มารายงานตัว ณ ที่เก่าเวลาเดิม www.share2trade.com เปิดอ่านได้เลยมีเรื่องเด็ดๆ โดนๆ มาเม้าท์กันให้สนั่นวงการลงทุนของพวกเรากันเถอะ
***เกิดขึ้นแล้ววว!!!! จีนเขย่าโลกดัน “DEEPSEEK” AI ต้นทุนต่ำ(ใช้เงินลงทุนต่ำเพียง 6 ล้าน US$ และใช้ชิป H800s ซึ่งเป็นชิปประสิทธิภาพต่ำของ Nvidia)ท้าชนสหรัฐ นักพัฒนาจีนใช้ทรัพยากรในการพัฒนาที่ต่ำกว่ามากทั้งในมุมของเม็ดเงิน และเวลาเมื่อเทียบกับ AI ของค่ายยักษ์ใหญ่อย่างเช่น CHATGPT สร้างแรงกดดันต่อราคาหุ้น TECH ขนาดใหญ่ในสหรัฐอย่างมีนัยสำคัญ
*** DEEPSEEK เป็นธุรกิจสตาร์ตอัพของจีน ก่อตั้งปี 2566 หากเปรียบเทียบข้อแตกต่างระหว่าง DEEPSEEK กับ CHATGPT คือ การลงทุนที่น้อยกว่าเพียง 5.6 ล้านเหรียญฯ ,ทำงานบนชิป (NVIDIA H800S) ที่มีขีดความสามารถต่ำกว่า แต่ AI มีประสิทธิภาพไม่ด้อยไปกว่าแชตบอตระดับโลกอย่าง CHATGPT ในบางหัวข้อค่าถาม เช่น ทางคณิตศาสตร์ อีกทั้งมีราคาขายต่อประสิทธิภาพที่ถูกกว่ามากกกกกกกก!!!!!
***ประเด็นนี้ ทำให้เกิดการตั้งค่าถามถึง ความจำเป็นต่อการใช้ทรัพยากรจำนวนมาหาศาลในอุตสาหกรรม AI ของสหรัฐฯ และส่งผลให้มาร์เก็ตแคปหุ้น SEMICONDUCTOR วูบหาย 1 ล้านล้านเหรียญฯ อาทิ NVIDIA -BROADCOM -ASML - AMD เป็นต้น
***ส่วนหุ้นไทย..รับผลกระทบไปแล้วทั้ง DELTA-CCET ซึ่งเรื่องนี้กูรูหุ้นประเมินว่าจะเป็นกระแสกดดันทั้งตัวหุ้นและ SET INDEX ต่อไปอีกระยะหนึ่ง ซึ่งจะทำให้ภาพรวมของตลาดหุ้นผันผวน
อย่างไรก็ตาม กูรูหุ้นประเมินว่าไม่น่าจะกระทบกับตลาดฯและหุ้นไทยมากนักเนื่องจากหุ้นในกลุ่ม TEGH ที่เกี่ยวข้องกับหุ้นผลิตชิพต่างๆ มี ไม่มาก อาทิ DELTA และ CCET ส่วนหุ้นตัวอื่นในกลุ่มที่ทำธุรกิจวางระบบเทคโนโลยีสารสนเทศไทย อาทิ BE8 , BBIK, PIS, INSET, AIT
***เอาละซิ!!! มีอีกเรื่องที่ต้องกังวลเพิ่มกันล่ะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบหุ้นโรงพยาบาลโดยเฉพาะ BH ,BCH,BDMS กับ PR9 มีสาเหตุมาจากเรื่องที่รัฐบาลคูเวตยุติสวัสดิการที่ให้คนไข้คูเวตออกมารับการรักษาในโรงพยาบาลของไทยเป็นการ ชั่วคราวตั้งแต่ ไตรมาส 4 ปีที่แล้ว และมีแผนลดลดจานวนโรงพยาบาลไทยที่อยู่ในรัฐสวัสดิการจาก 17แห่งเหลือ 4-5 แห่ง (ปัจจุบันยังไม่ได้สรุปว่ามีโรงพยาบาลอะไรบ้าง)
***อาการน่าเป็นห่วงเพราะว่าตอนนี้ยังไม่มีข้อสรุปว่าคนไข้จะกลับหรือไม่???? เพราะตอนนี้ไม่มีความคืบหน้าใดๆ รัฐบาลคูเวตยังไม่มีข้อสรุปและคนไขคูเวตก้อยังไม่กลับมา ถือเป็นความเสี่ยงต่อความสามารถในการทำกำไรต่อไปในอนาคต ...อยากรู้ว่ากระทบมากน้อยแค่ไหน รายได้หายไปเยอะมั้ย ลองไปแกะดูข้อมูลงบไตรมาส 3/67 ก้อจะได้คำตอบแล้วตัดสินใจได้ว่า “น่าเป็นห่วง” มากหรือน้อยขนาดไหน???
***ฟังเรื่อง “DEEPSEEK” กับเรื่อง “รัฐบาลคูเวตยุติสวัสดิการ”แล้วห่อเหี่ยวหัวใจ..มาฟังเรื่องดีๆ ให้ใจฟูกันบ้างเริ่มที่หุ้น EA ผู้บริหารแจ้งข่าวมาว่า “แผนการพลิกฟื้นธุรกิจได้รับการสนับสนุนอีกครั้งอย่างท่วมท้น จากความสำเร็จของการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนในช่วงวันที่ 17-23 มกราคม 2568 โดยมีการจองซื้อเกินกว่าเป้าหมาย สามารถระดมทุนได้ทั้งสิ้น 7,426 ล้านบาท”
***อีกหนึ่งตัวเลขสำคัญของ EA ที่เจ๊อยากให้ทุกคนรู้คือ “กระแสเงินสดจากการดำเนินงาน” ในเก้าเดือนแรกของปี 2567 อยู่ที่ 5,610 ล้านบาท ซึ่งปรับตัวดีขึ้นจากติดลบ 1,726 ล้านบาทในช่วงเดียวกันของปีก่อน และสูงกว่าปีก่อนหน้านี้เกือบสามเท่า
***”ฉัตรพล ศรีประทุม”ซีอีโอของ EA บอกว่า "เงินทุนที่ได้มาใหม่นี้จากผู้ถือหุ้น แสดงถึงความเชื่อมั่นของผู้ถือหุ้นที่เชื่อว่าการปรับโครงสร้างธุรกิจที่เราได้ดำเนินการตั้งแต่ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีก่อน ช่วยให้ธุรกิจมีเสถียรภาพ และวางรากฐานที่มั่นคงสำหรับการเติบโตในอนาคต เงินทุนเหล่านี้จะถูกใช้เพื่อลดหนี้ เพิ่มความน่าเชื่อถือทางการเงิน และลงทุนในโครงการต่าง ๆ ต่อเนื่อง เพื่อให้สามารถเดินหน้าได้อย่างรวดเร็วสู่ก้าวต่อไปของแผนในการฟื้นตัว"
***EA เปิดเผยว่า ส่วนหนึ่งของแผนการปรับโครงสร้างธุรกิจในภาพรวม คือ EA กำลังมุ่งเน้นไปที่ธุรกิจที่สร้างผลกำไรสูง ได้แก่ การผลิตไบโอเชื้อเพลิง การผลิตไฟฟ้าจากพลังงานลมและพลังงานแสงอาทิตย์ และการดำเนินธุรกิจสถานีชาร์จยานยนต์ไฟฟ้าแห่งเดียวในประเทศไทยที่มีกระแสเงินสดเป็นบวก ธุรกิจเหล่านี้รวมกันสร้างรายได้ประมาณ 60% ของรายได้รวมของ EA ในขณะเดียวกัน EA ได้หยุดหรือลดขนาด 2 ธุรกิจที่ขาดทุน ในระหว่างเตรียมการปรับโครงสร้าง ได้แก่ ธุรกิจการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ และธุรกิจการผลิตแบตเตอรี่ โดยจะมีการหาพันธมิตรสำหรับแต่ละธุรกิจที่เป็นรายใหญ่ระดับนานาชาติที่จะช่วยให้ธุรกิจมีความสามารถในการแข่งขันในระดับโลก และช่วยขยายตลาดไปต่างประเทศได้
***อีกเรื่องดีๆ ที่ต้องบอกต่อค่ะแฟนคลับที่รักของเจ๊!!! SUPER เตรียมเสนอขายหุ้นกู้ ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน มูลค่ารวม 1,150 ลบ.แบ่งเป็น 2 ชุด ประกอบด้วย
-หุ้นกู้ชุดที่ 1 มูลค่า 500 ล้านบาท อายุ 1 ปี อัตราดอกเบี้ย 5.50% ต่อปี ครบกำหนดไถ่ถอนปี พ.ศ. 2569
-ชุดที่ 2 วงเงินเสนอขาย 650 ล้านบาท อายุ 2 ปี อัตราดอกเบี้ย 6.00% ต่อปี ครบกำหนดไถ่ถอนปี พ.ศ. 2570
จ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือน ตลอดอายุหุ้นกู้ ให้แก่ ผู้ลงทุนทั่วไปและนักลงทุนสถาบัน โดยคาดว่าจะเสนอขายระหว่างวันที่ 3 - 5 กุมภาพันธ์ 2568 ผ่านสถาบันการเงินชั้นนำ 10 แห่ง ที่ได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้
***ทั้งนี้ SUPER ได้รับการจัดอันดับเรตติ้ง (14 พ.ย. 67) องค์กรอยู่ที่ BBB ขณะที่หุ้นกู้อันดับความน่าเชื่อถือ BBB- แนวโน้มคงที่จากบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ซึ่งอันดับเครดิตหุ้นกู้ที่ต่ำกว่าอันดับเครดิตองค์กรอยู่ 1 ขั้น สะท้อนถึงการมีหนี้ที่มีลำดับในการได้รับชำระคืนก่อน (Priority Debt) ในระดับสูง
***สำหรับนักลงทุนที่สนใจอยากจองซื้อหุ้นกู้เพื่อรับผลตอบแทนดีๆ จาก SUPER ติดต่อได้ที่ บล.ผู้จัดจำหน่าย 10แห่ง ประกอบด้วย บล.เคจีไอ (ประเทศไทย), บล.เอเซีย พลัส ,บล.ทรีนี้ตี้,บล.บลูเบลล์, บล. ดาโอ (ประเทศไทย),บล.โกลเบล็ก,บล. ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย),บล. ฟิลลิป (ประเทศไทย),บล.พาย และบล.บียอนด์ โดยมี ธนาคารกรุงเทพ เป็นผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้
***เรื่องสุดท้ายของวันนี้..ก้อเป็นเรื่องที่ดีมากกกกกก ไม่แพ้เรื่องดีๆ ของคนอื่นเลย NAM ปักหมุดรายได้ 68 โตแร๊งงงงงง 50% พุ่งแตะ 1,700 ล้านบาทหลังเข้าถือหุ้น "อินโนเวทีฟ อิมเมจจิ้ง ซิสเต็มส์" ประกอบธุรกิจตัวแทนจำหน่ายเครื่องมือทางการแพทย์ขั้นสูงในสัดส่วน 60% มูลค่าการลงทุน 150 ล้านบาท พร้อมเก็บเกี่ยวผลงานจาก 4บริษัท
***”วิโรจน์ ชัยเทอดเกียรติ” บิ๊กบอสหนุ่มไฟแรงของ NAM เปิดเผยถึงแผนกลยุทธ์ว่า จะเน้นการขยายกิจการไปยังกลุ่มธุรกิจที่เกี่ยวข้องเพื่อต่อยอดการเติบโตไปข้างหน้าอย่างมั่นคง พร้อมทั้งเก็บเกี่ยวผลลัพธ์จากการขยายธุรกิจในปีที่ผ่านมาจาก 3 บริษัทย่อยทั้งในประเทศและต่างประเทศ
***นอกจากนี้ นโยบายด้านสาธารณสุขยังเป็นปัจจัยสนับสนุนเชิงบากอาทิ 30 บาทรักษาทุกที่ทั่วทั้งประเทศ 77 จังหวัด แผนเพิ่มศักยภาพการให้บริการด้วยเครื่องมือที่ดีขึ้น เช่น เครื่องเอ็กซเรย์คอมพิวเตอร์สู่โรงพยาบาลขนาดเล็ก และแผนส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ (Medical Touism) ซึ่งจะช่วยกระตุ้นความต้องการผลิตภัณฑ์เครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ในกลุ่มของ NAM มากขึ้น
***อีกไฮไลท์ที่น่าสนใจคือ NAM มีแผนศึกษาการลงทุนเพิ่มเติมทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อสร้าง Medical Logistics และ Distribution Hub ในต่างประเทศ เพื่อขยายการรับรู้เกี่ยวกับแบรนด์ NAM มุ่งสู่เป้าหมายการเป็นGlobal Brand and Global Manufacturing ภายใน 5 ปีข้างหน้า ว๊าวววววว!!! ปรบมือรัวๆๆๆๆ ค่า ***ส่วนเรื่องการลงทุนใน “อินโนเวทีฟ อิมเมจจิ้ง ซิสเต็มส์” หรือ “IIS” เป็นไปตามกลยุทธ์หลักของบริษัทฯ ที่ต้องการขยายธุรกิจผ่านการลงทุนในบริษัทที่มีศักยภาพ ซึ่งจะเข้ามาสนับสนุนการเติบโตของกลุ่มบริษัทฯ