บอร์ด BOI ไฟเขียว TikTok ลุยดาต้าเซ็นเตอร์ 1.26 แสนลบ. หุ้นรับเหมา-ธีม Infra Tech รับผลบวก

นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) ให้มุมมองถึงประเด็นที่ประชุมคณะกรรมการ BOI อนุมัติส่งเสริมการลงทุน 3 โครงการสำคัญ มูลค่าลงทุนรวม 1.7 แสนล้านบาท บ่งชี้พัฒนาการบวกต่อเศรษฐกิจไทยที่เม็ดเงินลงทุนรัฐฯและเอกชน กำลังสอดประสานและเร่งขึ้น

โดยโครงการ Data Hosting ของบริษัทในเครือ TikTok Pte. Ltd. โดยจะลงทุนติดตั้ง Server และอุปกรณ์ต่างๆใน Data Center มูลค่า 1.26 แสนล้านบาท ประเมินโครงการ Data Center ที่ Tiktok จะลงทุนอุปกรณ์ติดตั้ง ถือเป็นโครงการใหม่ที่เข้ามาเพิ่มเติม ประเมินบวกโอกาสหุ้นรับเหมางาน Data Center ในส่วน INSET ที่ปริมาณในระบบเพิ่มขึ้น และจิตวิทยาบวกหุ้นในธีม Infra Tech โรงไฟฟ้า GULF สื่อสาร ADVANC, INTUCH

ขณะที่กิจการ AI Cloud Service ของบริษัท สยาม เอไอ คอร์เปอเรชั่น จำกัด มูลค่า 3.25 พันล้านบาท จิตวิทยาบวกต่อ LTS และ โครงการลงทุนผลิตโพแทสเซียมคลอไรด์ ซึ่งใช้เป็นวัตถุดิบสำคัญในการผลิตปุ๋ย ของบริษัท เอเซีย แปซิฟิค โปแตช คอร์ปอเรชั่น จำกัด (ITD ถือหุ้นทางอ้อม 45%) มูลค่า 4.0 หมื่นล้านบาท จิตวิทยาบวกหุ้นเชื่อมโยงบริษัทดังกล่าว ITD แต่แนะนำเพียงเก็งกำไร ITD 

ด้านนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ให้มุมมองถึงประเด็นการลงทุน DataHosting ของ Tiktok และโครงการ AI Cloud service ของ Siam AI ทำให้โอกาสได้งาน Commissioning ของ LTS ต่อเนื่องหลังจากนี้มีมากขึ้น โดยโครงการของ Siam AI มองว่าตลาดเข้าใจได้ไม่ยากว่าเป็นโอกาสของ LTS 

ส่วนการลงทุนของ Tiktok เป็นโอกาสทางอ้อมต่อ LTS เนื่องจากเราคาดว่าการลงทุนต่างๆ ของ Tiktok ตามข่าวคือการลงทุนในระบบ Cloud และการใช้เครื่องประมวลผลขั้นสูง ซึ่งไม่ว่าจะใช้แบรนด์ GPU ใดหากมีการทำในประเทศไทย มีโอกาสสูงมากที่จะต้องเป็นการทำผ่าน Siam AI

โดยอาจจะต้องมีการเช่าใช้ระดับ Hyper scales กับ Siam AI เนื่องจากเป็นผู้ได้สิทธิ์จากเจ้าของสินค้า และ Data Center แห่งใหม่ในไทยที่เหมาะกับการให้บริการ AI ที่อยู่ระหว่างหรือกำลังจะก่อสร้าง ถูกจองโดย Siam AI ไปมากแล้ว นอกจากนี้ Siam AI เคยให้ข้อมูลถึงแผนการลงทุนที่ 1 แสนล้านบาทในช่วง 3 ปีข้างหน้า จึง

ดังนั้นงาน Commissioning ซึ่งเป็นงานด่านแรกของธุรกิจจะทยอยออกมาหลังจากนี้ และเป็นงานที่ Siam AI ยังไม่เคยให้ผู้ประกอบการรายใดนอกจาก LTS และยังรวมงานส่วนนี้ไว้เพียง 769 ล้านบาท ในปี 2568, 1 พันล้านบาท ในปี 2569 และ 1.3 พันล้านบาท ในปี 2570 เท่านั้น ซึ่งน้อยมากเมื่อเทียบกับมูลค่าโครงการ จึงมองว่าเป็นอัพไซด์ต่อประมาณการกำไรของ LTS