Fund / Insurance
MTL พร้อมใช้ Copayment กับกรมธรรม์ใหม่ เชื่อปี68 ประกันสุขภาพยังโตต่อเนื่อง
30 มกราคม 2568
MTL เตรียมใช้เกณฑ์ Copayment กับกรมธรรม์ใหม่ ตั้งแต่ 20 มี.ค.68 เป็นต้นไป มั่นใจ ปี 68 เทรนด์ประกันสุขภาพยังเติบโตต่อเนื่อง หลังคนดูแลสุขภาพมากขึ้น และค่ารักษาพยาบาลที่ปรับเพิ่ม ส่วนปี 67 เบี้ยรับทะลุ 7.1 หมื่นล้านบาท โต 1.6% จากปีก่อน
นายสาระ ล่ำซำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. เมืองไทยประกันชีวิต (MTL) กล่าวว่า บริษัทจะใช้เกณฑ์การให้มีค่าใช้จ่ายร่วม (Copayment) กับกรมธรรม์ที่ออกใหม่ ตั้งแต่วันที่ 20 มี.ค.68 เป็นต้นไป ซึ่งการบังคับใช้เกณฑ์ดังกล่าวจะมีผลเฉพาะลูกค้าใหม่ และกรมธรรม์ใหม่เท่านั้น ขณะที่ลูกค้าเดิม และการต่ออายุกรมธรรม์เก่าจะไม่ได้รับกระทบ
ซึ่งกฎเกณฑ์ใหม่นี้ จะส่งผลดีต่อผู้ถือกรมธรรม์ทั้งระบบ เนื่องจากจะทำให้การปรับราคาเบี้ยประกันภัยมีความเหมาะสมมากขึ้น ส่วนรายละเอียดให้ติดตามการชี้แจงของสมาคมประกันชีวิตไทยในวันที่ 6 ก.พ. 68 นี้
ส่วนผลการดำเนินงานของ MTL ในปี 2567 ที่ผ่านมา นายสาระ ระบุว่า บริษัทมีเบี้ยประกันภัยรับรวมกว่า 71,800 ล้านบาท เติบโต 1.6% จากปีก่อน เบี้ยประกันภัยรับใหม่เติบโต 13% ซึ่งเป็นการเติบโตในกลุ่มสินค้าหลัก เช่น Shield Life (ประกันชีวิตแบบตลอดชีพ ประกันชีวิตแบบภายในระยะเวลาและประกันชีวิตแบบยูนิเวอร์แซลไลฟ์) เติบโต 42% และแบบประกันคุ้มครอง โรคร้ายแรง (รายเดี่ยว) เติบโต 24% เป็นต้น ด้านคะแนน NPS (Net Promoter Score) สูงขึ้นจาก 58 คะแนน เป็น 75 คะแนน ขณะที่ภาพรวมปี 68 คาดจะรักษาระดับเบี้ยรับรวมใกล้เคียงจากปี 67
สำหรับแนวโน้มประกันสุขภาพในปี 68 ยังมีโอกาสเติบโตต่อเนื่องจากปีที่แล้ว แม้เศรษฐกิจอาจชะลอตัว เนื่องจากปัจจุบันประชาชนสนใจทำประกันสุขภาพมากขึ้น ผลจากค่ารักษาพยาบาลที่มีราคาแพง
ขณะที่ธุรกิจในภูมิภาค CLMV ยังมีผลการดำเนินงานที่โดดเด่นอย่างต่อเนื่อง สอดคล้องกับนโยบายของบริษัทที่มุ่งเน้นการเติบโตระดับภูมิภาค ซึ่งปัจจุบันมีการขยายการลงทุนใน 3 ประเทศ ประกอบด้วย กัมพูชา ซึ่งมีผลิตภัณฑ์ประกันวินาศภัย และประกันชีวิตที่มีส่วนแบ่งการตลาดเป็นอันดับ 2 ขณะที่สปป.ลาว ได้มีการร่วมทุนกับผู้ประกอบธุรกิจธนาคาร ST Bank ในลาว มีส่วนแบ่งการตลาดของประกันชีวิตเป็นอันดับ 1 ในประเทศ และในเวียดนาม ซึ่งเป็นการร่วมทุนกับบริษัท MB Ageas Life ในเวียดนาม และมีส่วนแบ่งการตลาดเป็นอันดับ 2 ของ อุตสาหกรรมธุรกิจประกันภัยโดยธนาคารพาณิชย์
ทั้งนี้บริษัทฯ มีอัตราส่วนความเพียงพอของเงินกองทุน ณ สิ้นปี 2567 มากกว่า 350% ซึ่งสูงกว่าระดับเงินกองทุนที่ต้องดำรงตามเกณฑ์ที่หน่วยงานกำกับดูแลกำหนดที่ 140% บริษัทฯ ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ และความแข็งแกร่งทางการเงินจาก S&P Global Ratings ที่ระดับ BBB+ (Stable Outlook) และ Fitch Ratings ที่ระดับ A- และ AAA(tha) (Stable Outlook)
นายสาระ ระบุด้วยว่า ปีนี้MTL ยังคงตอกย้ำตัวตนในการเป็นแบรนด์แห่งการสร้างความสุขและรอยยิ้มที่ยั่งยืนอย่างต่อเนื่อง พร้อมยกระดับการส่งมอบความสุขผ่านกลยุทธ์ "Boost Your Happiness by Our People" บูสท์ความสุขของคุณด้วยคนของเมืองไทยประกันชีวิต ด้วยการเดินหน้าพัฒนาองค์กรในทุกภาคส่วน โดยมีเป้าหมายร่วมกันคือการส่งมอบความสุขให้กับลูกค้าทุกท่านด้วยความเป็นมืออาชีพ (Professionalism & Expertise) ความโปร่งใสและความสะดวกสบาย (Transparency & Convenience) และความไว้วางใจ (Commitment & Trust) ผ่านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ในทุกช่วงชีวิต ประสบการณ์การบริการแบบไร้รอยต่อ (Seamless Experience) และคำมั่นสัญญาตลอดชีวิต (Lifelong Commitment) ผสานกันอย่างลงตัวเพื่อตอบโจทย์ในทุกความเป็นคุณ
"ปี68นี้ เราตั้งเป้าหมายว่าจะเป็นปีที่ สีบานเย็นจะบานสะพรั่งทั่วประเทศ โดยเมืองไทยประกันชีวิตจะยกระดับความสุขให้กับทุกคน ทั้งลูกค้า พาร์ทเนอร์ พนักงานและฝ่ายขายของเรา และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่าย ผ่านผลิตภัณฑ์ บริการ และช่องทางการขายต่างๆ สีบานเย็นจะรวมพลังกันอย่างแข็งแกร่ง เพื่อส่งมอบความสุขและรอยยิ้มให้ลูกค้าคนสำคัญของเราทุกคน" นายสาระกล่าว
นายสาระ ล่ำซำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. เมืองไทยประกันชีวิต (MTL) กล่าวว่า บริษัทจะใช้เกณฑ์การให้มีค่าใช้จ่ายร่วม (Copayment) กับกรมธรรม์ที่ออกใหม่ ตั้งแต่วันที่ 20 มี.ค.68 เป็นต้นไป ซึ่งการบังคับใช้เกณฑ์ดังกล่าวจะมีผลเฉพาะลูกค้าใหม่ และกรมธรรม์ใหม่เท่านั้น ขณะที่ลูกค้าเดิม และการต่ออายุกรมธรรม์เก่าจะไม่ได้รับกระทบ
ซึ่งกฎเกณฑ์ใหม่นี้ จะส่งผลดีต่อผู้ถือกรมธรรม์ทั้งระบบ เนื่องจากจะทำให้การปรับราคาเบี้ยประกันภัยมีความเหมาะสมมากขึ้น ส่วนรายละเอียดให้ติดตามการชี้แจงของสมาคมประกันชีวิตไทยในวันที่ 6 ก.พ. 68 นี้
ส่วนผลการดำเนินงานของ MTL ในปี 2567 ที่ผ่านมา นายสาระ ระบุว่า บริษัทมีเบี้ยประกันภัยรับรวมกว่า 71,800 ล้านบาท เติบโต 1.6% จากปีก่อน เบี้ยประกันภัยรับใหม่เติบโต 13% ซึ่งเป็นการเติบโตในกลุ่มสินค้าหลัก เช่น Shield Life (ประกันชีวิตแบบตลอดชีพ ประกันชีวิตแบบภายในระยะเวลาและประกันชีวิตแบบยูนิเวอร์แซลไลฟ์) เติบโต 42% และแบบประกันคุ้มครอง โรคร้ายแรง (รายเดี่ยว) เติบโต 24% เป็นต้น ด้านคะแนน NPS (Net Promoter Score) สูงขึ้นจาก 58 คะแนน เป็น 75 คะแนน ขณะที่ภาพรวมปี 68 คาดจะรักษาระดับเบี้ยรับรวมใกล้เคียงจากปี 67
สำหรับแนวโน้มประกันสุขภาพในปี 68 ยังมีโอกาสเติบโตต่อเนื่องจากปีที่แล้ว แม้เศรษฐกิจอาจชะลอตัว เนื่องจากปัจจุบันประชาชนสนใจทำประกันสุขภาพมากขึ้น ผลจากค่ารักษาพยาบาลที่มีราคาแพง
ขณะที่ธุรกิจในภูมิภาค CLMV ยังมีผลการดำเนินงานที่โดดเด่นอย่างต่อเนื่อง สอดคล้องกับนโยบายของบริษัทที่มุ่งเน้นการเติบโตระดับภูมิภาค ซึ่งปัจจุบันมีการขยายการลงทุนใน 3 ประเทศ ประกอบด้วย กัมพูชา ซึ่งมีผลิตภัณฑ์ประกันวินาศภัย และประกันชีวิตที่มีส่วนแบ่งการตลาดเป็นอันดับ 2 ขณะที่สปป.ลาว ได้มีการร่วมทุนกับผู้ประกอบธุรกิจธนาคาร ST Bank ในลาว มีส่วนแบ่งการตลาดของประกันชีวิตเป็นอันดับ 1 ในประเทศ และในเวียดนาม ซึ่งเป็นการร่วมทุนกับบริษัท MB Ageas Life ในเวียดนาม และมีส่วนแบ่งการตลาดเป็นอันดับ 2 ของ อุตสาหกรรมธุรกิจประกันภัยโดยธนาคารพาณิชย์
ทั้งนี้บริษัทฯ มีอัตราส่วนความเพียงพอของเงินกองทุน ณ สิ้นปี 2567 มากกว่า 350% ซึ่งสูงกว่าระดับเงินกองทุนที่ต้องดำรงตามเกณฑ์ที่หน่วยงานกำกับดูแลกำหนดที่ 140% บริษัทฯ ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ และความแข็งแกร่งทางการเงินจาก S&P Global Ratings ที่ระดับ BBB+ (Stable Outlook) และ Fitch Ratings ที่ระดับ A- และ AAA(tha) (Stable Outlook)
นายสาระ ระบุด้วยว่า ปีนี้MTL ยังคงตอกย้ำตัวตนในการเป็นแบรนด์แห่งการสร้างความสุขและรอยยิ้มที่ยั่งยืนอย่างต่อเนื่อง พร้อมยกระดับการส่งมอบความสุขผ่านกลยุทธ์ "Boost Your Happiness by Our People" บูสท์ความสุขของคุณด้วยคนของเมืองไทยประกันชีวิต ด้วยการเดินหน้าพัฒนาองค์กรในทุกภาคส่วน โดยมีเป้าหมายร่วมกันคือการส่งมอบความสุขให้กับลูกค้าทุกท่านด้วยความเป็นมืออาชีพ (Professionalism & Expertise) ความโปร่งใสและความสะดวกสบาย (Transparency & Convenience) และความไว้วางใจ (Commitment & Trust) ผ่านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ในทุกช่วงชีวิต ประสบการณ์การบริการแบบไร้รอยต่อ (Seamless Experience) และคำมั่นสัญญาตลอดชีวิต (Lifelong Commitment) ผสานกันอย่างลงตัวเพื่อตอบโจทย์ในทุกความเป็นคุณ
"ปี68นี้ เราตั้งเป้าหมายว่าจะเป็นปีที่ สีบานเย็นจะบานสะพรั่งทั่วประเทศ โดยเมืองไทยประกันชีวิตจะยกระดับความสุขให้กับทุกคน ทั้งลูกค้า พาร์ทเนอร์ พนักงานและฝ่ายขายของเรา และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่าย ผ่านผลิตภัณฑ์ บริการ และช่องทางการขายต่างๆ สีบานเย็นจะรวมพลังกันอย่างแข็งแกร่ง เพื่อส่งมอบความสุขและรอยยิ้มให้ลูกค้าคนสำคัญของเราทุกคน" นายสาระกล่าว