กระดานข่าว
EXIM BANKผลงานปี67 ปล่อยกู้กว่า5.8 หมื่นลบ. ประกาศผู้นำ Green Development Bank
30 มกราคม 2568
EXIM BANK แถลงผลการดำเนินงานปี 2567 ปล่อยสินเชื่อใหม่ 58,128 ล้านบาท ชูความสำเร็จการเป็นผู้นำ Green Development Bank พัฒนานวัตกรรมทางการเงินและระบบนิเวศทางธุรกิจ ขับเคลื่อนการพัฒนาอย่างยั่งยืน

ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานในปี 2567 ได้อนุมัติสินเชื่อใหม่ 58,128 ล้านบาท และมีสินเชื่อคงค้างและภาระผูกพัน 189,870 ล้านบาท สูงที่สุดตั้งแต่เปิดดำเนินการ เพิ่มขึ้น 6.71% เมื่อเทียบกับปีก่อน ในจำนวนนี้เป็นสินเชื่อคงค้างและภาระผูกพันเพื่อการลงทุน 135,695 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 71.47% ของยอดทั้งหมด
โดยเป็นสินเชื่อคงค้างและภาระผูกพันในโครงการระหว่างประเทศ 44,744 ล้านบาท เมื่อจำแนกเป็นรายตลาดที่สำคัญ EXIM BANK สนับสนุนธุรกิจไทยให้ขยายไปกลุ่มประเทศ CLMV (กัมพูชา สปป.ลาว เมียนมา และเวียดนาม) และตลาดใหม่ (New Frontiers) ที่มีศักยภาพอย่างต่อเนื่อง โดยมีสินเชื่อคงค้างและภาระผูกพันในกลุ่ม CLMV และ New Frontiers 39,317 ล้านบาท
จากความมุ่งมั่นในการขับเคลื่อนการพัฒนาอย่างยั่งยืน ส่งผลให้ ณ สิ้นปี 2567 EXIM BANK มียอดสินเชื่อคงค้างและภาระผูกพันเพื่อความยั่งยืน (ESG) 75,810 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 39.93% ของยอดสินเชื่อคงค้างทั้งหมด โดย EXIM BANK พัฒนาเครื่องมือทางการเงินสีเขียว (Green Finance) และนวัตกรรมทางการเงินสีเขียว (Greenovation) อย่างต่อเนื่อง เพื่อเสริมสร้างระบบนิเวศของภาคการค้าและการลงทุนทั้งในประเทศและระหว่างประเทศ ให้ตอบสนองกติกาการค้าโลกด้านสิ่งแวดล้อมอย่างครบวงจรตลอด Supply นอกจากนี้ ยังเปิดตัวบริการวาณิชธนกิจ เป็นที่ปรึกษาทางการเงินเพื่อสนับสนุนผู้นำด้านการลงทุนสีเขียว (Green Catalyst) ลงทุนด้านพลังงานสะอาด ผ่านการค้ำประกันตราสารหนี้ (Bond Guarantee)
ขณะเดียวกันในด้านสังคม EXIM BANK ช่วยเหลือผู้ประกอบการโดยเฉพาะกลุ่มเปราะบางด้วยผลิตภัณฑ์ทางการเงิน เช่น มาตรการให้ความช่วยเหลือลูกหนี้ SMEs ที่ประสงค์ปรับปรุงโครงสร้างหนี้เชิงป้องกัน (มาตรการ Pre-emptive) เพื่อให้ลูกหนี้ได้รับการสนับสนุนจากธนาคารอย่างตรงจุดและทันท่วงที นอกจากนี้ EXIM BANK ได้มีนโยบายมอบของขวัญปีใหม่ให้แก่ผู้ประกอบการ SMEs ด้วย 3 แพ็กเกจ เพื่อสร้าง “ชีวิตดี มีความสุข ดีต่อใจ” ซึ่งรวมถึงการช่วยเหลือลูกหนี้ SMEs ในกลุ่มเปราะบางที่มีหนี้วงเงินไม่เกิน 5 ล้านบาทให้สามารถ “ปิดหนี้ได้ไว ไปต่อได้เร็ว” ตามโครงการ “คุณสู้ เราช่วย” มาตรการ “จ่ายตรง คงทรัพย์” ด้วยภาระดอกเบี้ยที่ลดลง รวมถึงสนับสนุนเงินทุนเพื่อเสริมสภาพคล่องและจัดการความเสี่ยงได้อย่างครบวงจร
โดย ณ สิ้นปี 2567 EXIM BANK มีปริมาณธุรกิจสะสมบริการประกันเท่ากับ 193,536 ล้านบาท สูงเป็นประวัติการณ์ และเพิ่มขึ้น 7.79% จากปีก่อน
การขยายบทบาทมุ่งสนับสนุนผู้ประกอบการไทยทั้งด้านสินเชื่อและประกันของ EXIM BANK เพื่อเป็นเสาหลักในการสนับสนุนธุรกิจทุกขนาด ทุกอุตสาหกรรม ส่งผลให้ ณ สิ้นปี 2567 EXIM BANK มีจำนวนลูกค้า 5,303 ราย ในจำนวนนี้เป็นลูกค้า SMEs ประมาณ 80% นอกจากนี้ EXIM BANK สนับสนุนผู้ประกอบการอย่างครบวงจร ผ่านการบ่มเพาะให้ความรู้ จับคู่ธุรกิจ และให้คำปรึกษาทางการเงิน
ณ สิ้นปี 2567 EXIM BANK มีสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้จำนวน 6,344 ล้านบาท และมีค่าเผื่อผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น (Expected Credit Loss) จำนวน 17,253 ล้านบาท ซึ่งอยู่ในระดับที่แข็งแกร่ง คิดเป็นอัตราส่วนค่าเผื่อผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นต่อสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (Coverage Ratio) 271.97% ปี 2567 จึงเป็นปีแห่งความภาคภูมิใจของ EXIM BANK ที่มีกำไรสุทธิ 1,053 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 130.87%
“ท่ามกลางสถานการณ์โลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว EXIM BANK ยังคงเดินหน้าบทบาท Green Development Bank สานพลังกับพันธมิตรจากภาครัฐและเอกชนทั้งในประเทศและต่างประเทศ สนับสนุนผู้ประกอบการไทย รวมถึง SMEs ให้แข่งขันได้ในเวทีโลกอย่างยั่งยืน สร้างระบบนิเวศทางธุรกิจเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน และขับเคลื่อนประเทศไทยสู่สังคมคาร์บอนต่ำ โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง พร้อมช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs และกลุ่มเปราะบางให้ดำเนินธุรกิจต่อไปได้อย่างไม่สะดุด มีความสามารถในการบริหารจัดการสภาพคล่องและจัดการความเสี่ยงทางธุรกิจระหว่างได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตอบสนองความคาดหวังของมีส่วนได้ส่วนเสียทุกภาคส่วน” ดร.รักษ์ กล่าว

ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานในปี 2567 ได้อนุมัติสินเชื่อใหม่ 58,128 ล้านบาท และมีสินเชื่อคงค้างและภาระผูกพัน 189,870 ล้านบาท สูงที่สุดตั้งแต่เปิดดำเนินการ เพิ่มขึ้น 6.71% เมื่อเทียบกับปีก่อน ในจำนวนนี้เป็นสินเชื่อคงค้างและภาระผูกพันเพื่อการลงทุน 135,695 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 71.47% ของยอดทั้งหมด
โดยเป็นสินเชื่อคงค้างและภาระผูกพันในโครงการระหว่างประเทศ 44,744 ล้านบาท เมื่อจำแนกเป็นรายตลาดที่สำคัญ EXIM BANK สนับสนุนธุรกิจไทยให้ขยายไปกลุ่มประเทศ CLMV (กัมพูชา สปป.ลาว เมียนมา และเวียดนาม) และตลาดใหม่ (New Frontiers) ที่มีศักยภาพอย่างต่อเนื่อง โดยมีสินเชื่อคงค้างและภาระผูกพันในกลุ่ม CLMV และ New Frontiers 39,317 ล้านบาท
จากความมุ่งมั่นในการขับเคลื่อนการพัฒนาอย่างยั่งยืน ส่งผลให้ ณ สิ้นปี 2567 EXIM BANK มียอดสินเชื่อคงค้างและภาระผูกพันเพื่อความยั่งยืน (ESG) 75,810 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 39.93% ของยอดสินเชื่อคงค้างทั้งหมด โดย EXIM BANK พัฒนาเครื่องมือทางการเงินสีเขียว (Green Finance) และนวัตกรรมทางการเงินสีเขียว (Greenovation) อย่างต่อเนื่อง เพื่อเสริมสร้างระบบนิเวศของภาคการค้าและการลงทุนทั้งในประเทศและระหว่างประเทศ ให้ตอบสนองกติกาการค้าโลกด้านสิ่งแวดล้อมอย่างครบวงจรตลอด Supply นอกจากนี้ ยังเปิดตัวบริการวาณิชธนกิจ เป็นที่ปรึกษาทางการเงินเพื่อสนับสนุนผู้นำด้านการลงทุนสีเขียว (Green Catalyst) ลงทุนด้านพลังงานสะอาด ผ่านการค้ำประกันตราสารหนี้ (Bond Guarantee)
ขณะเดียวกันในด้านสังคม EXIM BANK ช่วยเหลือผู้ประกอบการโดยเฉพาะกลุ่มเปราะบางด้วยผลิตภัณฑ์ทางการเงิน เช่น มาตรการให้ความช่วยเหลือลูกหนี้ SMEs ที่ประสงค์ปรับปรุงโครงสร้างหนี้เชิงป้องกัน (มาตรการ Pre-emptive) เพื่อให้ลูกหนี้ได้รับการสนับสนุนจากธนาคารอย่างตรงจุดและทันท่วงที นอกจากนี้ EXIM BANK ได้มีนโยบายมอบของขวัญปีใหม่ให้แก่ผู้ประกอบการ SMEs ด้วย 3 แพ็กเกจ เพื่อสร้าง “ชีวิตดี มีความสุข ดีต่อใจ” ซึ่งรวมถึงการช่วยเหลือลูกหนี้ SMEs ในกลุ่มเปราะบางที่มีหนี้วงเงินไม่เกิน 5 ล้านบาทให้สามารถ “ปิดหนี้ได้ไว ไปต่อได้เร็ว” ตามโครงการ “คุณสู้ เราช่วย” มาตรการ “จ่ายตรง คงทรัพย์” ด้วยภาระดอกเบี้ยที่ลดลง รวมถึงสนับสนุนเงินทุนเพื่อเสริมสภาพคล่องและจัดการความเสี่ยงได้อย่างครบวงจร
โดย ณ สิ้นปี 2567 EXIM BANK มีปริมาณธุรกิจสะสมบริการประกันเท่ากับ 193,536 ล้านบาท สูงเป็นประวัติการณ์ และเพิ่มขึ้น 7.79% จากปีก่อน
การขยายบทบาทมุ่งสนับสนุนผู้ประกอบการไทยทั้งด้านสินเชื่อและประกันของ EXIM BANK เพื่อเป็นเสาหลักในการสนับสนุนธุรกิจทุกขนาด ทุกอุตสาหกรรม ส่งผลให้ ณ สิ้นปี 2567 EXIM BANK มีจำนวนลูกค้า 5,303 ราย ในจำนวนนี้เป็นลูกค้า SMEs ประมาณ 80% นอกจากนี้ EXIM BANK สนับสนุนผู้ประกอบการอย่างครบวงจร ผ่านการบ่มเพาะให้ความรู้ จับคู่ธุรกิจ และให้คำปรึกษาทางการเงิน
ณ สิ้นปี 2567 EXIM BANK มีสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้จำนวน 6,344 ล้านบาท และมีค่าเผื่อผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น (Expected Credit Loss) จำนวน 17,253 ล้านบาท ซึ่งอยู่ในระดับที่แข็งแกร่ง คิดเป็นอัตราส่วนค่าเผื่อผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นต่อสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (Coverage Ratio) 271.97% ปี 2567 จึงเป็นปีแห่งความภาคภูมิใจของ EXIM BANK ที่มีกำไรสุทธิ 1,053 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 130.87%
“ท่ามกลางสถานการณ์โลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว EXIM BANK ยังคงเดินหน้าบทบาท Green Development Bank สานพลังกับพันธมิตรจากภาครัฐและเอกชนทั้งในประเทศและต่างประเทศ สนับสนุนผู้ประกอบการไทย รวมถึง SMEs ให้แข่งขันได้ในเวทีโลกอย่างยั่งยืน สร้างระบบนิเวศทางธุรกิจเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน และขับเคลื่อนประเทศไทยสู่สังคมคาร์บอนต่ำ โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง พร้อมช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs และกลุ่มเปราะบางให้ดำเนินธุรกิจต่อไปได้อย่างไม่สะดุด มีความสามารถในการบริหารจัดการสภาพคล่องและจัดการความเสี่ยงทางธุรกิจระหว่างได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตอบสนองความคาดหวังของมีส่วนได้ส่วนเสียทุกภาคส่วน” ดร.รักษ์ กล่าว
ยอดนิยม
_%E0%B8%84%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%87%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%9A%E0%B8%B2%E0%B8%97%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%99%E0%B8%B5%E0%B9%89%20S2T.jpg)
ค่าเงินบาทวันนี้ 21 เม.ย. 2568

ราคาทองคำวันนี้ 21 เม.ย. 68 เปิดตลาดปรับขึ้นอีก 500 บาท รูปพรรณขายออก 53,750 บาท

อนันดาฯ โชว์ Backlog แกร่ง 11,371 ล้านบาท มั่นใจคอนโดเมืองไปต่อ!! หลังวิกฤตคลี่คลาย

ธนาคารกสิกรไทย แจ้งผลประกอบการไตรมาส 1 ปี 2568 กำไร 13,791 ล้านบาท
