Talk of The Town

รวบ! 10 หุ้นต่างชาติเทหนัก โดนกระหน่ำขายมากสุดเดือน ม.ค.68


03 กุมภาพันธ์ 2568

ผ่านพ้นไปแล้วสำหรับเดือนแรกของปี 2568 หากเข้าไปสำรวจความเคลื่อนไหวดัชนีตลาดหุ้นไทย สิ้นสุดวันที่ 30 ม.ค.68 พบว่า ปิดการซื้อขายที่ระดับ 1,335.64 จุด ลดลง 64.57 จุด หรือลดลง 4.61% จากเดือนก่อนหน้า

รวบ! 10 หุ้น_S2T (เว็บ) copy.jpg

ขณะที่มูลค่าการซื้อขายตามกลุ่มนักลงทุน พบว่า นักลงทุนต่างประเทศ ขายสุทธิหุ้นไทยไปแล้วกว่า 8,169.62 ล้านบาท ส่วนทางนักลงทุนอีก 3 กลุ่ม ไม่ว่าจะเป็น สถาบันในประเทศ ซื้อสุทธิ 666.78 ล้านบาท ส่วนบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ ซื้อสุทธิ 1,203.04 ล้านบาท และนักลงทุนในประเทศ 6,299.81 ล้านบาท

แต่หากเข้าไปสำรวจหุ้นรายตัวที่นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิมากสุด 10 อันดับแรก พบว่า มีความน่าสนใจอย่างมาก หากอ้างอิงบทวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) ปิดเผยว่า ข้อมูล สิ้นสุดวันที่ 30 ม.ค.68 DELTA โดนนักลงทุนต่างชาติเทขายมากสุดที่ระดับ 5,954 ล้านบาท ตามด้วย KBANK ที่ระดับ 3,198 ล้านบาท และอันดับ 3 TOP ที่ระดับ1,387 ล้านบาท

ราคาหุ้น DELTA ในช่วงเวลาดังกล่าว ปรับตัวลดลงกว่า -15.74% ขณะที่ KBANK ยังเคลื่อนไหวในแดนบวก หรือเพิ่มขึ้นระดับ 3.86% และ TOP ในช่วงเวลาเดียวกัน ราคาหุ้นยังติดลบกว่า -7.96%

ปัจจัยพื้นฐาน DELTA นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) มองหุ้นมีความผันผวน หนุนจากกำไรในไตรมาส 4/67 ที่แข็งแกร่งและแรงหนุนจาก AI แต่ก็ถูกถ่วงโดยการเข้ามาของ Deep Seek ที่เข้ามาเขย่าตลาด AI และผลกระทบจาก GMT ในไตรมาส 1/68 ด้วย Sentiment ที่ผันผวนอย่างมาก แนะนำรอดูสถานการณ์ก่อน โดยคำแนะนำพื้นฐาน ขาย ราคาเป้าหมาย 110 บาท

ส่วน KBANK นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด คงมุมมองบวกสำหรับ KBANK โดยมองว่าคุณภาพสินทรัพย์ของบริษัทดีขึ้นเรื่อย ๆ จากการเร่งบริหารจัดการลูกหนี้กลุ่มเสี่ยงผ่านทาง JVAMC (KBANK เป็นธนาคารเดียวที่มี JVAMCร่วมกับ JMT และ BAM) จึงคงคำแนะนำ “ซื้อ” โดยคงมูลค่าพื้นฐานปี 2568 เดิมที่ 175 บาท

ส่วนเงินปันผลจากกำไรสุทธิครึ่งหลังปี 67 คาดจะจ่ายหุ้นละ 5.9 บาท คิดเป็น Div. Yield 3.7%

ขณะที่ TOP นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ล่าสุดบริษัทแจ้งว่าได้บังคับหลักประกันจากผู้รับเหมาโครงการพลังงานสะอาดจำนวน 12,339 ลบ. โดยรวมทางฝ่ายมองเป็นปัจจัยบวกจากการที่มีกระแสเงินสดเข้ามาช่วยลดต้นทุนก่อสร้างลง และสำหรับมุมมองการลงทุนมองว่าเทรดเก็งกำไรระยะสั้นได้จากประเด็นนี้และแนวโน้มงบไตรมาส 467 กลับมากำไร อย่างไรก็ตามยังไม่เน้นให้ถือยาวเนื่องจากค่าการกลั่นยังมีแนวโน้มที่อ่อนตัว