เข้าสู่เดือนที่ 2 ของปี 2568 เชื่อว่ายังคงมีนักลงทุนหลายๆกำลังมองหาโอกาสการลงทุน เพื่อรับมือกับภาวะตลาดที่ยังค่อนข้างผันผวน แต่สำหรับนักลงทุนสาย DCA ก็เป็นช่วงที่จะทยอยปรับพอร์ตลงทุน ดังนั้นในวันนี้ทางสำนักข่าว Share2Trade จึงได้ทำการหยิบยกมุมมองการลงทุนมาแบ่งปันกัน
โดยคำแนะนำการลงทุนต่อจากนี้ อยู่ภายใต้มุมมองและคำแนะนำจากนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ที่ได้คัดเลือก 5 หุ้น ประกอบไปด้วย BJC, GULF, MINT,TIDLOR และ TTB ซึ่งมีความน่าสนใจและเหมาะสมแก่การทำ DCA ประจำเดือนกุมภาพันธ์
ทั้งนี้ เกณฑ์การคัดเลือกจะเป็นหุ้น 5 บริษัท พื้นฐานดีมีสภาพคล่อง จัดพอร์ตผสมผสานทั้งหุ้นปันผลและหุ้นเติบโต กระจายน้ำหนักการลงทุนเท่ากันในแต่ละหุ้น กระจายความเสี่ยงในหลากหลายอุตสาหกรรม โดยจะให้คำแนะนำทุก 1 เดือน ยกเว้น มีเหตุการณ์สำคัญกระทบต่อพื้นฐานบริษัท เหมาะกับนักลงทุนระยะยาวที่ต้องการออมในหุ้น
Top 5 DCA ประเดือนกุมภาพันธ์
BJC คาดกำไรปกติไตรมาส 4/67 เติบโตเด่นจากไตรมาสก่อนหน้า จากไฮซีซั่น, ผลบวกจากการกระตุ้นเศรษฐกิจ และอัตรากำไรขั้นต้นที่ดีขึ้น ขณะเดียวกัน คาดกำไรปกติปี 2568 เติบโตจากช่วงเดียวกัน จากแนวโน้มการบริโภคในประเทศที่ฟื้นตัวดีขึ้น และการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่องของรัฐบาล
GULF คาดกำไรปกติไตรมาส 4/67 เติบโตจากไตรมาสก่อนหน้าและช่วงเดียวกัน หนุนจากการรับรู้รายได้เต็มไตรมาสของโรงไฟฟ้า GPD หน่วยที่ 4 และส่วนแบ่งกำไร INTUCH ที่เพิ่มขึ้น ตามแนวโน้มกำไรของ ADVANC ที่ฟื้นตัว ขณะที่การควบรวมกับ INTUCH ในช่วง ไตรมาส 1/68 - 2/68 จะเป็น Sentiment เชิงบวกต่อ GULF และ INTUCH
MINT คาดกำไรปกติไตรมาส 4/67 เติบโตจากไตรมาสก่อนหน้าและช่วงเดียวกัน หนุนจากไฮซีซั่นของธุรกิจโรงแรมและร้านอาหารในไทย หากไตรมาส 4/67 ตามคาด กำไรปกติทั้งปี 2567 จะใกล้เคียงคาดการณ์ที่ 8.1 พันล้านบาท เติบโต 13% คาดเงินปันผล งวดครึ่งปีหลังปี 67 ที่ 0.39 บาทต่อหุ้น ยีลด์ 1.6%
TIDLOR คาดผลประกอบการไตรมาส 4/67 เติบโตจากไตรมาสก่อนหน้า และ ช่วงเดียวกัน หนุนจากการตั้งสำรองที่ทยอยผ่อนคลายลง และบริษัทควบคุมการปล่อยสินเชื่อใหม่ในกลุ่มเช่าซื้อรถบรรทุกมือสองและจำนำทะเบียนรถยนต์มากขึ้น ราคาหุ้นปัจจุบันซื้อขายบน PBV ปี 2025 เพียง 1.2 เท่า
TTB คาดว่าราคาหุ้นมีแนวโน้มตอบรับเชิงบวก หลังบริษัทประกาศโครงการซื้อหุ้นคืนปี 2568-2570 มูลค่ารวม 21,000 ล้านบาท โดยจะเริ่มในปี 2568 วงเงินไม่เกิน 7,000 ลบ. คิดเป็น 3.6% ของทุนจดทะเบียน กำหนดช่วงดำเนินการ 3 ก.พ. – 1 ส.ค. 2568
ทั้งนี้ จากการจำลองสถานการณ์ DCA ด้วยจำนวนเงิน 2,000 บาทต่อหุ้นต่อเดือน เป็นระยะเวลา 5 ปี (ณ วันที่ 31 ม.ค. 2563 ถึง 31 ม.ค. 2568) พบว่า TTB ให้ผลตอบแทนโดดเด่นที่สุด ซึ่งนักลงทุนจะมีกำไรจากส่วนต่างราคาหุ้นอยู่ที่ 62,234 บาท และได้รับเงินปันผล 21,989 บาท รองลงมา GULF ให้กำไรจากส่วนต่างราคาหุ้นอยู่ที่ 43,657 บาท และเงินปันผล 4,195 บาท
ส่วนที่เหลือให้ผลขาดทุนแก่นักลงทุน ประกอบไปด้วย MINT ให้ผลขาดทุนจากส่วนต่างราคาหุ้นอยู่ที่ 17,134 บาท และเงินปันผล 3,662 บาท TIDLOR ให้ผลขาดทุนจากส่วนต่างราคาหุ้นอยู่ที่ 24,022 บาท และเงินปันผล 2,989 บาท สุดท้าย BJC ให้ผลขาดทุนจากส่วนต่างราคาหุ้นอยู่ที่ 34,705 บาท และเงินปันผล 6,105 บาท