“ทรัมป์” เขย่าตลาดหุ้นทั่วโลก! เดินหน้าขึ้นภาษีนำเข้า ก่อชนวนสงครามการค้า
นายณัฐชาต เมฆมาสิน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด เปิดเผยถึงทิศทางตลาดหุ้นไทยเดือนกุมภาพันธ์ว่า ภาพตลาดหุ้นไทยในเดือนกุมภาพันธ์ คาดว่า SET Index มีโอกาสปรับตัวลงในช่วงแรก หลังในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ปธน.ทรัมป์ของสหรัฐฯลงนามเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากทั้ง แคนาดา เม็กซิโก ในอัตรา 25% และจีน ในอัตรา 10% ตามที่เคยประกาศไว้ก่อนหน้านี้ ปัจจัยดังกล่าวทำให้ไม่กี่ชั่วโมงให้หลัง ได้พัฒนากลายมาเป็นสงครามการค้าย่อมๆ จากการตอบโต้ของประเทศเหล่านี้ ทั้งการเตรียมเก็บภาษีนำเข้าจากสหรัฐฯของทั้งแคนาดา (25%) และเม็กซิโก รวมถึงจีนที่เตรียมจะยื่นคำร้องต่อ WTO ด้วยเช่นกัน ทั้งนี้ ปัจจัยดังกล่าวได้ส่งผลกระทบทางอ้อมไปยังราคาน้ำมันดิบให้ปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากทั้งแคนาดาและเม็กซิโก ต่างก็เป็นแหล่งนำเข้าทางด้านเชื้อเพลิงที่สำคัญของสหรัฐฯ
อย่างไรก็ดี มองการปรับตัวลงของดัชนี SET ในช่วงแรกของเดือนน่าจะได้รับการประคับประคองบ้างจากกลุ่ม Oil & Gas ที่ได้ Sentiment เชิงบวกจากราคาน้ำมันดิบที่สูงขึ้น รวมถึงกลุ่ม Domestic play ที่คาดว่าจะเห็นการรีบาวด์ขึ้นบ้าง หลังราคาลงไปแรงจากผู้นำกลุ่มเช่น CPALL ในช่วงปลายเดือนก่อน ไม่นับรวมกับ Valuation ของดัชนีที่อยู่ต่ำเป็นทุนเดิม ด้วยเหตุนี้ จึงเชื่อว่ามีโอกาสที่หุ้นไทยจะปรับตัวแข็งแกร่งกว่าหุ้นต่างประเทศ โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับประเทศที่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากสงครามการค้าที่เกิดขึ้น
ประเมินแนวรับสำคัญของ SET Index เดือนนี้จะอยู่ที่จุดต่ำสุดที่เคยทำไว้แถวบริเวณ 1270-1280 จุด ซึ่งในเชิง Valuation ถือว่าน่าสนใจมาก เนื่องจากเป็นระดับเทียบเท่า PBV 1.22x เท่านั้น ถูกที่สุดเป็นอันดับ 3 นับตั้งแต่วิกฤติซับไพรม์ ในเชิงกลยุทธ์ แนะนำซื้อหุ้นที่บริเวณแนวรับดังกล่าวนี้ โดยเน้นไปที่กลุ่ม Domestic play ที่ค่อนข้างปลอดภัยจากประเด็นสงครามการค้าที่เกิดขึ้นนี้
สำหรับปัจจัยเสี่ยงอื่นที่อาจต้องติดตามต่อในเดือนนี้ ได้แก่ 1.ความเสี่ยงที่สงครามการค้าจะลากยาวจนก่อให้เกิดความกลัวเกี่ยวกับการกลับมาของเงินเฟ้ออีกครั้ง ซึ่งหากเกิดขึ้นจริง อาจทำให้โอกาสในการปรับลดดอกเบี้ยของธปท.ในเดือนนี้ลดลง 2.การประกาศผลประกอบการบจ.ไตรมาส 4 ซึ่งหากออกมาแย่กว่าคาด อาจนำมาสู่การปรับลดประมาณการในตลาดอีกครั้ง 3.แรงขายสุทธิของนักลงทุนสถาบันในประเทศที่อาจเกิดขึ้น หากเริ่มมีความชัดเจนว่าตลท.จะมีการปรับปรุงการคำนวณดัชนีหุ้นไทยรูปแบบใหม่ไปเป็นวิธี Free-float adjusted market cap weighted และ 4.ความเสี่ยงที่ MSCI อาจปรับลดน้ำหนักหุ้นไทย จนนำมาสู่แรงขายของนักลงทุนต่างชาติในระยะสั้น
สำหรับกลุ่มหุ้นที่น่าสนใจในเดือนนี้ มองไปยัง 3 ธีมการลงทุนสำคัญได้แก่ 1.หุ้นกลุ่มค้าปลีกที่ราคาปรับลงมาแรง และได้ประโยชน์จากมาตรการ Easy E-Receipt รวมถึงการเติบโตของนักท่องเที่ยวต่างชาติ เช่น CPALL 2.หุ้นขนาดใหญ่ที่ Valuation ลงมาอยู่ในโซน Trough เมื่อเทียบเคียงกับในอดีต เช่น BDMS, LH, MINT, OR และ 3.กลุ่มธนาคารที่จะได้ประโยชน์ หากดัชนี Free float adjusted market cap weighted index ได้รับความนิยมในตลาดสูงขึ้น ได้แก่ SCB, KBANK, BBL
ยอดนิยม
_%E0%B8%84%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%87%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%9A%E0%B8%B2%E0%B8%97%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%99%E0%B8%B5%E0%B9%89%20S2T.jpg)
ค่าเงินบาทวันนี้ 16 เม.ย. 2568

กรุงศรี มอเตอร์ไซค์ เร่งเครื่องแรงครองแชมป์สินเชื่อสองล้อ ดันยอดสินเชื่อโต 10% พร้อมเดินหน้าสร้างโอกาสให้ทุกคนมีรถขับ
![SGC เดินหน้าขับเคลื่อนแผนธุรกิจปี 68 ชูธุรกิจ Locked Phone ทะยานโต พร้อมเสนอขายหุ้นกู้มีประกันชุดใหม่ อัตราดอกเบี้ย [7.00% - 7.25%] ต่อปี คาดเสนอขายระหว่างวันที่ 6-8 พ.ค.นี้](https://www.share2trade.com/storage/Web%20Board/2025/160425/SGC_%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%AD%E0%B9%82%E0%B8%93%E0%B8%97%E0%B8%B1%E0%B8%A2%20%E0%B8%A8%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B9%80%E0%B8%95%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B9%80%E0%B8%9E%E0%B9%87%E0%B8%8A%E0%B8%A3_1.jpg)
SGC เดินหน้าขับเคลื่อนแผนธุรกิจปี 68 ชูธุรกิจ Locked Phone ทะยานโต พร้อมเสนอขายหุ้นกู้มีประกันชุดใหม่ อัตราดอกเบี้ย [7.00% - 7.25%] ต่อปี คาดเสนอขายระหว่างวันที่ 6-8 พ.ค.นี้
.jpg)