รายงานพิเศษ : PCE เปิดแผนกลยุทธ์ปี 2568 สร้างโอกาสการเติบโตให้ธุรกิจ เน้นใช้ “เทคโนโลยี -เพิ่มมูลค่าสินค้า”
บมจ.เพชรศรีวิชัย เอ็นเตอร์ไพรส์ (PCE) ผู้นำอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์มแบบครบวงจร เปิดกลยุทธ์ปี68 เน้นใช้เทคโนโลยี เพิ่มขยายกำลังการผลิต เพิ่มมูลค่าสินค้าในธุรกิจการสกัดและการกลั่นน้ำมันปาล์ม และจัดการสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนขยายเป็น Bio Complex
สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดผลสำรวจแนวโน้มอุตสาหกรรมในปี 2568 ที่ได้มาจากการสำรวจความคิดเห็นของผู้ประกอบการ พบว่า 21 อุตสาหกรรมมีการเติบโตที่ทรงตัวใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา ซึ่งรวมถึงอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์ม โดยมีปัจจัยบวกจาก
1.กำลังซื้อดีขึ้นจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ
2.การจัดสรรงบลงทุนปี 2568 เพิ่มขึ้น
3.แนวโน้มการลงทุนขยายตัวในอุตสาหกรรมเป้าหมายและการส่งเสริม Local Content
4.แนวโน้มการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีมาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต
5.การลงทุนใช้พลังงานหมุนเวียนเพิ่มขึ้น
การขยายตัวของอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์มส่งผลดีต่อรายได้ที่ยั่งยืนของ PCE เปิดแผนปี 68 ปักธงรายได้ทะยานแตะ 3 หมื่นลบ. ลุยขยายกำลังผลิต-เพิ่มมูลค่าน้ำมันปาล์ม ชูเทคโนโลยีขั้นสูงเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต หนุนเติบโตยั่งยืน บมจ.เพชรศรีวิชัย เอ็นเตอร์ไพรส์ ผู้นำอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์มแบบครบวงจร
โดยนายพรพิพัฒน์ ประสิทธิ์ศุภผล รองกรรมการผู้จัดการสายงานปฏิบัติการ PCE ระบุ ภาพรวมธุรกิจปี 2568 บริษัทฯ วางแผนใช้เทคโนโลยีเพื่อขยายกำลังการผลิต ควบคู่กับการเพิ่มมูลค่าสินค้าในธุรกิจการสกัดและการกลั่นน้ำมันปาล์ม ตลอดจนการจัดการสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนขยายเป็น Bio Complex เช่น ลดของเสียและการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และการบริหารจัดการน้ำเสีย รวมถึงการปฏิบัติตามมาตรฐานสากล เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน
การให้ความสำคัญด้านการบริหารความเสี่ยงจากความผันผวนของตลาดน้ำมันปาล์มและอื่นๆ ด้วยการเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ แตกไลน์ผลิตภัณฑ์ปาล์มที่บริษัทฯมีอยู่ เช่น น้ำมันเมล็ดในปาล์ม (CPKO) และน้ำมันเมล็ดในปาล์มกึ่งบริสุทธิ์ (RBDPKO) โดยจะเพิ่มสัดส่วนยอดการจัดจำหน่ายเป็น 40,000 ตันจากเดิม 15,000 ตัน และยังวางแผนส่งออกกะลาปาล์มให้มากกว่า 100,000 ตันต่อปี
ทั้งนี้ บริษัทฯวางแผนขยายกำลังการผลิตน้ำมันปาล์มดิบ (CPO) จาก 90 ตัน/ชม. เป็น 135 ตัน/ชม. ขยายกำลังการผลิตด้วยการกลั่นน้ำมันปาล์มโอเลอีน (RBDOL) จาก 300 ตัน/วัน เป็น 700 ตัน/วัน ตลอดจนเน้นผลิตและจำหน่ายน้ำมันเมล็ดในปาล์ม (CPKO) และมีแผนลงทุนด้านโรงกลั่นน้ำมันปาล์ม เพื่อให้การสกัดน้ำมันปาล์มมีประสิทธิภาพสูงสุด รวมถึงการเพิ่มช่องทางจัดจำหน่ายสินค้าและบริการทางออนไลน์ให้มากยิ่งขึ้น เพื่อตอบสนองอัตราการอุปโภคบริโภคน้ำมันปาล์มที่เพิ่มมากขึ้นกว่าปีก่อน 3% (ข้อมูลจากกรมการค้าภายในกระทรวงพาณิชย์) คาดว่าจะสนับสนุนรายได้ปี 2568 ให้เติบโตขึ้นสู่ระดับ 30,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15-20% จากปีก่อน
ทั้งนี้ กลุ่มบริษัทฯ ยังคงยึดนโยบายขยายขอบเขตธุรกิจ เพื่อเพิ่มศักยภาพการแข่งขัน และสร้างผลตอบแทนระยะยาวผ่านการนำเทคโนโลยีขั้นสูงมาใช้ และพัฒนากระบวนการผลิตให้มีประสิทธิภาพ การบริหารจัดการควบคุมความเสี่ยงในธุรกิจสกัดและกลั่นน้ำมันปาล์ม ธุรกิจขนส่ง และธุรกิจเทรดดิ้งเป็นพิเศษ ด้วยการพิจารณาถึงปัจจัยความเสี่ยงที่ซับซ้อนจากราคาพลังงาน กฎระเบียบ สิ่งแวดล้อม และการเคลื่อนไหวน้ำมันปาล์มในตลาดโลก เพื่อสร้างผลตอบแทนที่เป็นรูปธรรมควบคู่กับความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชน
“ปี 2568 มีแนวโน้มว่าการส่งออกน้ำมันปาล์มไปจีน และอินเดียยังคงเป็นไปในทิศทางที่ดี เราจะขยายกำลังการผลิต เน้นเพิ่มมูลค่าสินค้า เพิ่มช่องทางจัดจำหน่าย เพื่อรองรับความต้องการของตลาดที่มีมากขึ้น ให้ความสำคัญกับการพัฒนากลยุทธ์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ลดต้นทุน และสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน ด้วยการนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาปรับใช้ และที่สำคัญ PCE ยังคงมุ่งมั่นดำเนินธุรกิจภายใต้หลักธรรมาภิบาลและความรับผิดชอบต่อสังคม ให้ความสำคัญด้าน “ นายพรพิพัฒน์ กล่าว