Wealth Sharing

จะเกิดอะไรขึ้นกับ 3 หุ้นอิเล็กฯ เมื่อทรัมป์จุดชนวนสงครามการค้า


05 กุมภาพันธ์ 2568

ในช่วงสัปดาห์นี้ตามที่นักลงทุนหลายคนได้ติดตามข่าวสารเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวของประธานาธิบดีสหรัฐฯ อย่างโดนัลล์ ทรัมป์ ที่ล่าสุดได้เซ็นคำสั่งฝ่ายบริหารให้เก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากเม็กซิโกและแคนาดา 25% และจีน 10% โดยมีผลวันที่ 4 ก.พ. 2568 จนส่งผลกระทบต่อดัชนีตลาดหุ้นทั่วโลก

จะเกิดอะไรขึ้นกับ 3 หุ้นอิเล็กฯ_WS (เว็บ).jpg

อย่างไรก็ดี แม้ว่าจะมีการระงับการเก็บภาษีจากเม็กซิโกและแคนาดาออกไปอีก 30 วันหลังผู้นำทั้งสองประเทศ เพื่อบรรลุข้อตกลงกับรัฐบาลสหรัฐฯ แต่ก็ยังคงเป็นแรงกดดันต่อตลาดหุ้นทั่วโลก ไม่เว้นตลาดหุ้นไทยที่ต้องโดนหางเร่ตามไปด้วยเช่นกัน 

โดยนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด คาดว่า KCE จะได้รับผลกระทบมากที่สุดจากมาตรการภาษีของสหรัฐเพราะมีธุรกิจเกี่ยวข้องกับเม็กซิโกและยุโรป เนื่องจากลูกค้ารายใหญ่ของ KCE รวมถึงผู้ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์มีความอ่อนไหวต่อประเด็นนี้มากเนื่องจากมีสัดส่วนการผลิตรถยนต์อยู่ในประเทศเม็กซิโกค่อนข้างสูง โดยเราประเมินว่ารถยนต์ที่จำหน่ายในสหรัฐฯประมาณ 15-20% ในปี 2568 นำเข้ามาจากเม็กซิโก 

ส่วน HANA และ DELTA น่าจะได้รับผลกระทบโดยตรงน้อยกว่า โดย HANA มีรายได้จากธุรกิจในจีนคิดเป็น 17% ของรายได้รวมในปี 2568 แต่เชื่อว่าการที่สหรัฐปรับขึ้นภาษี สินค้านำเข้าจากจีนน่าจะส่งผลกระทบโดยตรงต่อ HANA เพียงเล็กน้อยเนื่องจากสินค้าส่วนใหญ่ที่ผลิตในจีน เป็นการผลิตเพื่อใช้ในประเทศเป็นหลักมากกว่าจะส่งออกไปยังตลาดสหรัฐ

ทั้งนี้ สหรัฐอาจปรับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากประเทศคู่ค้ารายอื่นอีกรวมถึงยุโรปและไทย โดยพบว่าในปี 2567 รายได้จากการจัดส่งสินค้าไปสหรัฐมีสัดส่วนประมาณ 30% และ 21% ของรายได้จากการดำเนินงานของ DELTA และ HANA  ตามลำดับ เราจึงคาดว่าผลกระทบต่อบริษัทไทยจะรุนแรงกว่า หากสหรัฐปรับขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากไทย

KCE แนะนำ “ถือ” ราคาเป้าหมาย 25 บาท จะได้รับผลกระทบมากที่สุดจากการปรับขึ้นภาษีนำเข้ารอบแรกของสหรัฐเนื่องจากลูกค้าส่วนใหญ่ของบริษัทอยู่ในกลุ่มผู้ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ ซึ่งอาจมีความอ่อนไหวต่อการปรับขึ้นภาษีเพราะมีฐานการผลิตส่วนใหญ่อยู่ในเม็กซิโก นอกจากนี้ หากสหรัฐปรับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจาก EU มองว่าอุตสาหกรรมยานยนต์จะยิ่งมีอุปสงค์อ่อนตัว

HANA แนะนำ “ถือ” ราคาเป้าหมาย 28.50 บาท จะไม่ได้รับผลกระทบมากนักจากการปรับขึ้นภาษีนำเข้ารอบแรกของสหรัฐ แต่ความเสี่ยงที่สหรัฐจะขยายขอบเขตของมาตรการภาษีอาจซ้ำเติมอุปสงค์ที่มีแนวโน้มเติบโตอ่อนตัวอยู่แล้วของกลุ่มเซมิคอนดักเตอร์และลดความเชื่อมั่นต่อห่วงโซ่อุปทาน ซึ่งจะทำให้อุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์แบบดั้งเดิมอยู่ในวงจรขาลงนานขึ้น

DELTA แนะนำ “ขาย” ราคาเป้าหมาย 108 บาท แม้ว่ายอดขายในปี 2568 จะมีแนวโน้มเติบโตสม่ำเสมอมากที่สุดในกลุ่มเพราะมีการทำธุรกิจเกี่ยวข้องกับห่วงโซ่อุปทาน AI แต่เชื่อว่าการที่สหรัฐเก็บภาษีนำเข้าชิปจากไต้หวันอาจกระทบการลงทุนใน AI ของ Hyperscaler สหรัฐฯและส่งผลให้รายได้ของ DELTA เติบโตลดลง

จะเกิดอะไรขึ้นกับ-3-หุ้นอิเล็กฯ.jpg