จับประเด็นหุ้นเด่น
รายงานพิเศษ : ธุรกิจบริการดิจิทัลปี 66 มูลค่าแตะ 5.6 แสนลบ. ผลักดันผลงาน INET พุ่งทำสถิติใหม่
09 มีนาคม 2566
โควิด19 กระตุ้นการเติบโตของเศรษฐกิจดิจิทัลและธุรกิจให้บริการดิจิทัลทั่วโลกและในประเทศไทยเติบโตก้าวกระโดด ส่งผลดีต่อธุรกิจบริษัท อินเทอร์เน็ตประเทศไทย (INET) ที่ให้บริการด้านไอซีทีครบวงจร ซึ่งปี 66 ผู้บริหารมั่นใจผลดำเนินงานทำสถิติสูงสุดใหม่
ttb analytics ระบุ มูลค่าตลาดธุรกิจบริการดิจิทัลในภาพรวมปี 2565 อยู่ที่ประมาณ 4.5 แสนล้านบาท และคาดปี 2566 ธุรกิจบริการดิจิทัลยังมีแนวโน้มเติบโต 24% มูลค่าอยู่ที่ 5.6 แสนล้านบาท ผลจากการที่เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มพัฒนาเข้าสู่เศรษฐกิจดิจิทัลมากขึ้น ซึ่งเทคโนโลยีด้านดิจิทัลส่งผลกระทบด้านบวกต่อภาคธุรกิจและพฤติกรรมผู้บริโภค ทำให้มีการพัฒนาต่อยอดบริการดิจิทัลใหม่ ๆ เพื่อตอบสนองอุปสงค์ที่เป็นลักษณะเฉพาะส่วนบุคคลมากขึ้น สอดคล้องกับทิศทางธุรกิจบริการดิจิทัลทั่วโลกที่มีการเติบโตเฉลี่ยกว่า 34% ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา
การเติบโตของตลาดดิจิทัล ส่งผลดีต่อ บริษัท อินเทอร์เน็ตประเทศไทย (INET) ที่เป็นผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐานด้านไอซีทีแบบครบวงจร โดยแบ่งกลุ่มธุรกิจออกเป็น 3 ลักษณะ ดังนี้ 1. บริการ Cloud Solutions 2. บริการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต (Internet Access ) และ 3. บริการ Co-Location
ซึ่งปี 2566 กรรมการผู้จัดการ INET “มรกต กุลธรรมโยธิน” ระบุ แผนการดำเนินธุรกิจในปี 66 บริษัทมุ่งเน้นการลงทุนใน Platform เพื่อต่อยอดการขยายการใช้งานของ Cloud service โดยมีวิสัยทัศน์เป็นบริษัทที่เป็นผู้นำด้านการส่งเสริมและบ่มเพาะนวัตกรรมภายในประเทศ ให้เกิดความสามารถในการแข่งขันและยั่งยืน
นอกจากนี้ ยังมุ่งเน้นการสร้าง High Technology Real Estate/Infrastructure ที่จำเป็นต่อการขับเคลื่อนประเทศ เข้าสู่ยุค 4.0 เพื่อลดการพึ่งพาต่างประเทศ รวมถึงการลงทุนและสนับสนุนนวัตกรรมผ่านผู้พัฒนาในประเทศ โดยคงสัดส่วนความเป็นเจ้าของของผู้พัฒนาให้ไม่น้อยกว่า 30% เพื่อให้เกิดความยั่งยืนและเชื่อมโยงงานวิจัยและพัฒนาเข้าสู่ภาคธุรกิจในปัจจุบันและอนาคต
"ในปี 65 ที่ผ่านมา INET ได้มีการปรับเปลี่ยนจากผู้ให้บริการ Cloud Service Provider เป็น Trusted Platform Service Provider โดยดำเนินตามแผนยุทธศาสตร์ของบริษัทสู่การเป็นยุค Digital Transformation เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงขององค์กรต่างๆ ภายหลังที่สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 คลี่คลาย ภาคธุรกิจได้เริ่มกลับมาดำเนินกิจการและลงทุนเพิ่มมากขึ้น เพื่อปรับตัวเข้าสู่ยุคดิจิทัล (Digital Transformation) ผ่านการลงทุนด้านเทคโนโลยีคลาวด์ (Cloud) การรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ (Cyber Security) เทคโนโลยีและการประยุกต์ใช้แพลตฟอร์มดิจิทัล (Platform) เพื่อปรับปรุงการทำงานในองค์กรให้มีประสิทธิภาพในการทำงาน โดยปัจจัยดังกล่าวจะส่งผลให้มีการใช้งาน Cloud มากขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับการเติบโตของตลาด Cloud ทั่วโลก
นอกจากนี้ ในการบุกตลาด Local Platform ยังช่วยสร้างความสามารถในการแข่งขันกับคู่แข่งในตลาด Cloud ทั้งคู่แข่งในประเทศและต่างประเทศ จึงมั่นใจว่า ปัจจัยเหล่านี้ จะเป็นส่วนสำคัญในการสนับสนุนให้ผลงานในปีนี้เติบโตได้ที่ระดับ 15% จากปีก่อน สร้างสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง" นางมรกต กล่าว
สำหรับผลการดำเนินงานในปี 65 บริษัทมีกำไรสุทธิ 201.76 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 24% เทียบกับปีก่อนมีกำไรสุทธิ 162.96 ล้านบาท สร้างสถิติสูงสุดใหม่นับตั้งแต่จัดตั้งบริษัทฯ และมีรายได้จากการขายและให้บริการ 2,044.81 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10% เทียบกับปีก่อน มีรายได้ 1,865.85 ล้านบาท ปัจจัยที่สนับสนุนให้มีรายได้และกำไรเพิ่มขึ้น เนื่องจากบริษัทฯ สามารถรับรู้รายได้จากการขายและให้บริการ Cloud Service และ Digital Platform Service รวมทั้งต้นทุนที่ลดลง
"ผลประกอบการในปี 65 ที่เติบโตอย่างมีนัยสำคัญ และสร้างสถิติสูงสุดใหม่ เนื่องจาก INET มีความสามารถในการให้บริการลูกค้าอย่างมีคุณภาพ โดยมุ่งเน้นการให้บริการในกลุ่ม Cloud Service และ Digital Platform Service โดยลดการให้บริการในส่วนของบริการ Internet Access ที่มีต้นทุนสูง รวมถึงเป็นการลงทุนกับกลุ่มบริษัทในเครือ เพื่อพัฒนา Innovation R&D Platform ทดแทนการใช้บริการจากผู้ให้บริการรายอื่น และมีการเติบโตของส่วนแบ่งกำไรจากการลงทุนในบริษัทร่วมทุนที่เพิ่มขึ้น"
ttb analytics ระบุ มูลค่าตลาดธุรกิจบริการดิจิทัลในภาพรวมปี 2565 อยู่ที่ประมาณ 4.5 แสนล้านบาท และคาดปี 2566 ธุรกิจบริการดิจิทัลยังมีแนวโน้มเติบโต 24% มูลค่าอยู่ที่ 5.6 แสนล้านบาท ผลจากการที่เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มพัฒนาเข้าสู่เศรษฐกิจดิจิทัลมากขึ้น ซึ่งเทคโนโลยีด้านดิจิทัลส่งผลกระทบด้านบวกต่อภาคธุรกิจและพฤติกรรมผู้บริโภค ทำให้มีการพัฒนาต่อยอดบริการดิจิทัลใหม่ ๆ เพื่อตอบสนองอุปสงค์ที่เป็นลักษณะเฉพาะส่วนบุคคลมากขึ้น สอดคล้องกับทิศทางธุรกิจบริการดิจิทัลทั่วโลกที่มีการเติบโตเฉลี่ยกว่า 34% ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา
การเติบโตของตลาดดิจิทัล ส่งผลดีต่อ บริษัท อินเทอร์เน็ตประเทศไทย (INET) ที่เป็นผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐานด้านไอซีทีแบบครบวงจร โดยแบ่งกลุ่มธุรกิจออกเป็น 3 ลักษณะ ดังนี้ 1. บริการ Cloud Solutions 2. บริการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต (Internet Access ) และ 3. บริการ Co-Location
ซึ่งปี 2566 กรรมการผู้จัดการ INET “มรกต กุลธรรมโยธิน” ระบุ แผนการดำเนินธุรกิจในปี 66 บริษัทมุ่งเน้นการลงทุนใน Platform เพื่อต่อยอดการขยายการใช้งานของ Cloud service โดยมีวิสัยทัศน์เป็นบริษัทที่เป็นผู้นำด้านการส่งเสริมและบ่มเพาะนวัตกรรมภายในประเทศ ให้เกิดความสามารถในการแข่งขันและยั่งยืน
นอกจากนี้ ยังมุ่งเน้นการสร้าง High Technology Real Estate/Infrastructure ที่จำเป็นต่อการขับเคลื่อนประเทศ เข้าสู่ยุค 4.0 เพื่อลดการพึ่งพาต่างประเทศ รวมถึงการลงทุนและสนับสนุนนวัตกรรมผ่านผู้พัฒนาในประเทศ โดยคงสัดส่วนความเป็นเจ้าของของผู้พัฒนาให้ไม่น้อยกว่า 30% เพื่อให้เกิดความยั่งยืนและเชื่อมโยงงานวิจัยและพัฒนาเข้าสู่ภาคธุรกิจในปัจจุบันและอนาคต
"ในปี 65 ที่ผ่านมา INET ได้มีการปรับเปลี่ยนจากผู้ให้บริการ Cloud Service Provider เป็น Trusted Platform Service Provider โดยดำเนินตามแผนยุทธศาสตร์ของบริษัทสู่การเป็นยุค Digital Transformation เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงขององค์กรต่างๆ ภายหลังที่สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 คลี่คลาย ภาคธุรกิจได้เริ่มกลับมาดำเนินกิจการและลงทุนเพิ่มมากขึ้น เพื่อปรับตัวเข้าสู่ยุคดิจิทัล (Digital Transformation) ผ่านการลงทุนด้านเทคโนโลยีคลาวด์ (Cloud) การรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ (Cyber Security) เทคโนโลยีและการประยุกต์ใช้แพลตฟอร์มดิจิทัล (Platform) เพื่อปรับปรุงการทำงานในองค์กรให้มีประสิทธิภาพในการทำงาน โดยปัจจัยดังกล่าวจะส่งผลให้มีการใช้งาน Cloud มากขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับการเติบโตของตลาด Cloud ทั่วโลก
นอกจากนี้ ในการบุกตลาด Local Platform ยังช่วยสร้างความสามารถในการแข่งขันกับคู่แข่งในตลาด Cloud ทั้งคู่แข่งในประเทศและต่างประเทศ จึงมั่นใจว่า ปัจจัยเหล่านี้ จะเป็นส่วนสำคัญในการสนับสนุนให้ผลงานในปีนี้เติบโตได้ที่ระดับ 15% จากปีก่อน สร้างสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง" นางมรกต กล่าว
สำหรับผลการดำเนินงานในปี 65 บริษัทมีกำไรสุทธิ 201.76 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 24% เทียบกับปีก่อนมีกำไรสุทธิ 162.96 ล้านบาท สร้างสถิติสูงสุดใหม่นับตั้งแต่จัดตั้งบริษัทฯ และมีรายได้จากการขายและให้บริการ 2,044.81 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10% เทียบกับปีก่อน มีรายได้ 1,865.85 ล้านบาท ปัจจัยที่สนับสนุนให้มีรายได้และกำไรเพิ่มขึ้น เนื่องจากบริษัทฯ สามารถรับรู้รายได้จากการขายและให้บริการ Cloud Service และ Digital Platform Service รวมทั้งต้นทุนที่ลดลง
"ผลประกอบการในปี 65 ที่เติบโตอย่างมีนัยสำคัญ และสร้างสถิติสูงสุดใหม่ เนื่องจาก INET มีความสามารถในการให้บริการลูกค้าอย่างมีคุณภาพ โดยมุ่งเน้นการให้บริการในกลุ่ม Cloud Service และ Digital Platform Service โดยลดการให้บริการในส่วนของบริการ Internet Access ที่มีต้นทุนสูง รวมถึงเป็นการลงทุนกับกลุ่มบริษัทในเครือ เพื่อพัฒนา Innovation R&D Platform ทดแทนการใช้บริการจากผู้ให้บริการรายอื่น และมีการเติบโตของส่วนแบ่งกำไรจากการลงทุนในบริษัทร่วมทุนที่เพิ่มขึ้น"