คัด 2 กองทุนต่างประเทศเด่น รับนโยบายทรัมป์กดต้นทุนภาคธุรกิจ

ในช่วงนี้หากจะพูดการลงทุนในตลาดทุนต่างประเทศ ก็คงปฏิเสธไม่ได้จะต้องใช้ความเคลื่อนไหวของโดนัลด์ ทรัมป์ เข้ามาประกอบการตัดสินใจ เนื่องจากนโยบายต่างๆที่ประกาศออกมานั้น ได้ส่งผลการค้าโลกและยังมีผลกระทบต่อทิศทางธุรกิจในช่วง 3-4 ปีต่อจากนี้ 

โดยสำหรับนักลงทุนสายหุ้นต่างประเทศก็ต้องหาโอกาสการลงทุนก็ถือว่ามีความยากลำบากพอสมควร ฉะนั้นในวันนี้ทางสำนักข่าว Share2Trade จึงได้ทำการหยิบยกมุมมองจากนักวิเคราะห์ที่น่าสนใจต่อการลงทุนในกองทุนรวมมาแบ่งปันให้แก่ผู้อ่านและนักลงทุนกันในครั้งนี้

นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ ธนชาต จำกัด (มหาชน) ให้มุมมองว่าขุนคลังสหรัฐ Scott Bessent ให้มุมมองที่น่าสนใจ โดยทรัมป์ไม่ได้เรียกร้องให้เฟดปรับลดดอกเบี้ย ขณะที่รัฐบาลชุดนี้มุ่งให้ความสำคัญกับอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล 10 ปี ซึ่งมีต่อต้นทุนการกู้ยืม 

รวมถึงการเพิ่มปริมาณพลังงานในตลาดจะช่วยลดเงินเฟ้อ โดยเฉพาะสำหรับชนชั้นแรงงานหากสามารถทำให้ราคาน้ำมันเบนซินและน้ำมันทำความร้อนลดลงได้ นอกจากผู้บริโภคจะประหยัดเงินแล้ว ความมั่นใจในอนาคตของพวกเขา ก็จะฟื้นตัวตามไปด้วย

หากสามารถกดราคาพลังงานลง-ขยายมาตรการลดภาษี-ลดกฎระเบียบเศรษฐกิจ อัตราดอกเบี้ยและค่าเงินดอลลาร์จะปรับตัวได้เองโดยธรรมชาติ ซึ่งเศรษฐกิจในยุครัฐบาล Biden เติบโตจากการใช้จ่ายภาครัฐ แต่รัฐบาลทรัมป์ต้องการให้การเติบโตขับเคลื่อนโดยภาคเอกชน ผ่านการลงทุนในสินทรัพย์ทุนและการฟื้นตัวของภาคการผลิตในประเทศ 

พร้อมกับย้ำว่าทีมของทรัมป์ต้องการทำให้การลดภาษี มีผลแบบถาวรจะมุ่งแนวทางเศรษฐกิจแบบ 3-3-3 ลดการขาดดุลการคลังลงเหลือ 3% ของ GDP (จากที่เคยอยู่เหนือ 6% ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันขึ้นอีก 3 ล้านบาร์เรลต่อวัน รักษาการเติบโตทางเศรษฐกิจไว้ที่ 3%

ทั้งนี้ท่าทีดังกล่าวเป็นการบอกใบ้ถึงทิศทางนโยบายสหรัฐอย่างชัดเจน เป็นการพยายามกดต้นทุนกู้ยืมของภาคธุรกิจและรัฐบาล โดยเน้นที่การลดเงินเฟ้อและลดการขาดดุลการคลังควบคู่ไปกับการออกมาตรการสนับสนุนการขยายตัวของเศรษฐกิจ

ส่วนนโยบายการคลังแบบสมดุลดังกล่าว เป็นการกดดัน “ทางอ้อม” ให้ Fed ใช้นโยบายการเงินแบบผ่อนคลายยิ่งขึ้นเอื้อต่อการปรับขึ้นของหุ้น ช่วยลดความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจสหรัฐ โดยเฉพาะในยุคสมัยของการเจรจาต่อรองกับคู่ค้าต่างๆการที่จะทำตามแนวทางดังกล่าว รัฐบาลสหรัฐจะต้องมุ่งเพิ่ม supply ทางด้านพลังงานเรื่องนี้เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้มีมุมมองระมัดระวังต่อหุ้นกลุ่มพลังงานโลก

ดังนั้น กองทุนแนะนำ ASP-USSMALL-A แนะนำ “ซื้อ” เนื่องจากเป็นกองทุนหุ้นเล็กในสหรัฐ มองเศรษฐกิจสหรัฐโดยรวมปีนี้มีการฟื้นตัวอย่างทั่วถึงยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นบวกต่อหุ้นขนาดเล็กที่มีรายได้หลักจากภายในประเทศ 

พร้อมกับแนะนำ “ทยอยซื้อ” ES-HEALTHCARE ซึ่งลงทุนในกลุ่ม Healthcare ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีมูลค่าหุ้นอยู่ในระดับที่น่าสนใจ และภาพการเติบโตในปีนี้ ก็ดูโดดเด่นเหนือหุ้นโลกโดยรวม