รายงานพิเศษ : TGE ต่อยอดธุรกิจพลังงานสะอาด บุกตลาด“พลังงานลม-แสงอาทิตย์” ลุยสร้างโรงไฟฟ้าขยะชุมชนเฟส 1

พลังงานสะอาดเป็นสิ่งจำเป็นมากขึ้นของภาคธุรกิจ ในยุคที่โลกเข้าสู่ภาวะโลกเดือด  ซึ่งหากธุรกิจไม่ปรับตัวจะทำให้ต้นทุนด้านพลังงานปรับเพิ่มขึ้น จากมาตรการภาษีที่ผู้นำเข้าจัดเก็บ จึงเป็นโอกาสในการขยายตลาดไปยังพลังงงานลมและแสงอาทิตย์ของ บมจ.ท่าฉาง กรีน เอ็นเนอร์ยี่ (รายงานพิเศษ : TGE)

การขยายธุรกิจไปยังพลังงานสะอาดประเภทอื่น ทั้งพลังงานลมและพลังงานแสงอาทิตย์ เป็นโอกาสในการสร้างรายได้ที่เติบโตอย่างยั่งยืนของ บมจ.ท่าฉาง กรีน เอ็นเนอร์ยี่ (TGE)  ซึ่ง “สืบตระกูล บินเทพ” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ระบุถึงแผนการดำเนินงานในปี 68 ว่า บริษัทฯมองโอกาสในการขยายธุรกิจไปยังโรงไฟฟ้าพลังงานรูปแบบอื่นๆ ผ่านการเข้าซื้อกิจการ (M&A)

โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างเจรจากับพันธมิตรหลายราย เพื่อทำ M&A โรงไฟฟ้าพลังงานลมในประเทศเวียดนาม กำลังการผลิตติดตั้งราว 40 เมกะวัตต์ และโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศไทย กำลังการผลิตติดตั้งราว 40 เมกะวัตต์  คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในปีนี้อย่างน้อย 1 ดีล 

สำหรับการรับรู้รายได้ในปีนี้ยังคงมาจากโครงการโรงไฟฟ้าขยะชุมชนที่มีอยู่เดิม 5 โครงการ กำลังการผลิตติดตั้งรวม 30 เมกะวัตต์ และหากสามารถปิดดีลซื้อโรงไฟฟ้าใหม่ได้ก็จะรับรู้รายได้เข้ามาทันที คาดว่าจะเพิ่มกำลังการผลิตติดตั้งเข้ามารวมเป็นเกือบ 100 เมกะวัตต์ โดย TGE ยังคงเป้าหมายกำลังการผลิตติดตั้งเพิ่มเป็น 200 เมกะวัตต์ภายในปี 2572

นอกจากนี้บริษัทยังเตรียมดำเนินการก่อสร้างโรงไฟฟ้าขยะชุมชนเฟส 1 จำนวน 4 โครงการ กำลังการผลิตติดตั้งรวม 30 เมกะวัตต์ ได้แก่ โรงไฟฟ้าขยะชุมชน จังหวัดสระแก้ว กำลังการผลิตติดตั้ง 8 เมกะวัตต์, จังหวัดชุมพร กำลังการผลิตติดตั้ง 6 เมกะวัตต์ , จังหวัดราชบุรี กำลังการผลิตติดตั้ง 8 เมกะวัตต์ และจังหวัดชัยนาท กำลังการผลิตติดตั้ง 8 เมกะวัตต์ คาดว่าจะดำเนินการเสร็จพร้อมจ่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) ได้ในช่วงปลายปี 69 เป็นต้นไป

ส่วนโรงไฟฟ้าขยะชุมชนเฟส 2 ได้แก่ โครงการฯ ในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร กำลังการผลิตติดตั้ง 9.9 เมกะวัตต์ จะเริ่มก่อสร้างได้ประมาณไตรมาส 2 และ 3 ของปีนี้ คาดว่าจะจ่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) ในช่วงกลางปี 70 จะสนับสนุนให้รายได้ของ TGE เติบโตแตะ 3,000 ล้านบาท ภายในปี 71 ได้ตามเป้าหมาย

นอกจากนี้ บริษัทฯยังอยู่ระหว่างรอเซ็นสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) โรงไฟฟ้าขยะชุมชน จังหวัดอุบลราชธานี กำลังการผลิตติดตั้ง 9.9 เมกะวัตต์ รวมถึงรอประกาศผลการประมูลโรงไฟฟ้าขยะชุมชนอีกแห่งในจังหวัดสระแก้ว กำลังการผลิตติดตั้ง 9.9 เมกะวัตต์

“ปีนี้บริษัทจะยกระดับการขายคาร์บอนเครดิตไปในทวีปยุโรป ปัจจุบันอยู่ระหว่างรอใบอนุญาต หรือการรับรองจาก VERRA คาดว่าจะทราบผลในปี 69 จากที่ผ่านมาบริษัทขึ้นทะเบียนคาร์บอนเครดิต ซึ่งได้รับการรับรองจาก T-VER ขององค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (อบก.) จำนวน 2 แสนตันคาร์บอน และมี I-REC หรือ การรับรองเครดิตการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน จากการไฟฟ้า ราว 6 หมื่นตัน ซึ่งมีรายได้จากการขายคาร์บอนเครดิตเป็นหลัก 10 ล้านบาท” นายสืบตระกูลกล่าว