Fund / Insurance

ไทยวิวัฒน์ ตั้งเป้าปี 68 รายได้แตะ8.5พันลบ. ใต้แนวคิด "Beyond Insurance มากกว่าประกันภัย"


11 กุมภาพันธ์ 2568

ประกันภัยไทยวิวัฒน์ตั้งเป้าปี68 รายได้แตะ 8,500  ล้านบาท มุ่งมั่นเป็นองค์กรด้านนวัตกรรมแห่งความยั่งยืนเติบโตควบคู่ธุรกิจ ภายใต้แนวคิด "Beyond Insurance มากกว่าการประกันภัย" ชู Big Goal ให้คนไทยเข้าถึงการประกันภัยมากยิ่งขึ้น

Main Photo 002_11zon.jpg

นายจีรพันธ์ อัศวะธนกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ประกันภัยไทยวิวัฒน์ จำกัด (มหาชน) ผู้นำด้าน InsurTech ของไทย กล่าวว่า ประกันภัยไทยวิวัฒน์มุ่งมั่นขับเคลื่อนธุรกิจตามกรอบ ESG ที่คำนึงถึงการดูแลสิ่งแวดล้อม (Environmental) สังคมและชุมชน (Social) รวมถึง ธรรมาภิบาลที่ดี (Governance) โดยเน้นการพัฒนานวัตกรรมประกันภัยเพื่อความยั่งยืนเป็นหัวใจหลัก ภายใต้แนวคิด "Beyond Insurance มากกว่าการประกันภัย" ด้วยการนำเทคโนโลยีมาปรับใช้เพื่อสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์และบริการด้านการประกันภัยใหม่ๆ ให้สามารถตอบโจทย์ความต้องการและรองรับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตผู้บริโภคไปพร้อมกับการสร้างสรรค์สังคมที่ดีกว่า 

สำหรับแผนธุรกิจในปี 2568 ตั้งเป้าหมายใหญ่เพื่อผลักดันให้คนไทยเข้าถึงการประกันภัยมากยิ่งขึ้น จึงมุ่งมั่นพัฒนานวัตกรรมที่ช่วยให้คนไทยเข้าถึงประกันภัยได้ง่ายขึ้น จ่ายเบี้ยประกันที่เหมาะสมกับความเสี่ยงของแต่ละไลฟ์สไตล์ พร้อมสร้างความยั่งยืนให้กับสังคมควบคู่กันไป  ด้วยการยกระดับการพัฒนานวัตกรรมประกันภัย ทั้งกลุ่ม Motor และ Non – Motor ในรูปแบบของ Digital Product ที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของแต่ละท่าน และ Digital Service ที่เพิ่มศักยภาพในการให้บริการโดยไม่เพิ่มต้นทุน ควบคู่ไปกับขยายความร่วมมือกับพันธมิตรรายใหม่ๆ และเพิ่มช่องทางการเข้าถึงการประกันภัยที่สะดวกรวดเร็วมากยิ่งขึ้น โดยตั้งเป้าผลักดันเบี้ยรับรวมทะลุ  8,500 ล้านบาท 

ด้าน นายเทพพันธ์ อัศวะธนกุล รองกรรมการผู้อำนวยการ กล่าวต่อว่า  นอกเหนือจากการมุ่งพัฒนานวัตกรรม เพื่อใช้ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ผู้บริโภค สร้างความสะดวกในการที่จะทำให้คนไทยเข้าถึงการประกันภัยได้มากยิ่งขึ้น และการบริการที่ตอบสนองความต้องการของผู้เอาประกันอย่างไร้รอยต่อ บริษัทฯยังให้ความสำคัญกับการพัฒนาคุณภาพชีวิต ด้วยการดำเนินโครงการต่างๆเพื่อสังคมที่ยั่งยืนโดยเน้นส่งเสริมใน 3 ด้านดังนี้

ด้านสังคม– ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา บริษัทได้มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ด้านการประกันภัย พร้อมเพิ่มช่องทางการขายเพื่อให้คนไทยเข้าถึงการประกันภัยได้ง่ายและสะดวกขึ้น  ล่าสุดทางบริษัทได้พัฒนาเพิ่มฟีเจอร์ใหม่สำหรับการประกันรถเปิดปิด คือ“รถติด ไม่คิดเบี้ย” ตอบโจทย์คนเมืองใช้รถ โดยขณะรถติดก็ไม่จำเป็นต้องจ่ายค่าเบี้ยประกัน ซึ่งหลังจากมีการเปิดตัวได้ทำการคืนชั่วโมงความคุ้มครองให้กับลูกค้าแล้วกว่า 4 ล้านนาที และบริษัทยังได้ริเริ่มโครงการ Thaivivat Caring Forward คิดเผื่อเพื่อสังคม ซึ่งถือว่าเป็นครั้งแรกของการทำประกันภัยที่สามารถช่วยเหลือสังคมได้  ซึ่งจากการเปิดตัวเพียง 4 เดือน มีผู้เอาประกันภัยให้ความสนใจเป็นจำนวนมากถึง 10,000 กรมธรรม์ ทางบริษัทจึงมีการขยายระยะเวลาการลงทะเบียนถึง 31 ธันวาคม 2568  เพื่อให้ผู้เอาประกันภัยที่ยังไม่ได้ลงทะเบียนผ่าน Application Thaivivat ได้มีส่วนร่วมในการทำความดีคืนสู่สังคมได้มากขึ้น 

ด้านเยาวชนและการศึกษา –บริษัทฯร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการ หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สนับสนุนโครงการ “โรงเรียนร่วมพัฒนา”หรือ Partnership School  เพื่อยกระดับคุณภาพการศึกษาไทยให้ทัดเทียมกับนานาชาติ เปิดโอกาสให้เยาวชนไทยพัฒนาตนเอง และเตรียมความพร้อมเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนา 

ด้านสิ่งแวดล้อม  -  บริษัทฯได้นำแนวคิดที่จะนำ Greenovation และ Digital Transformation มาใช้เพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม โดยริเริ่มการดำเนินงานจากภายในองค์กรผ่านโครงการ Thaivivat Greenovation เปลี่ยนโลกด้วยนวัตกรรมเพื่อความยั่งยืน สร้างความตระหนักรู้ด้านสิ่งแวดล้อมภายในองค์กรให้กับพนักงาน เปลี่ยนของใช้มาเป็นของใช้ที่สามารถนำมารีไซเคิลต่อได้ อาทิ ของชำร่วย ยูนิฟอร์มพนักงาน รวมถึงน้ำดื่มของบริษัทและส่งเสริมการแยกขยะให้ถูกวิธีมาเป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันเรื่องความยั่งยืนภายในองค์กร

และล่าสุดในฐานะองค์กรนวัตกรรมแห่งความยั่งยืน ทางบริษัทได้จับมือกับพันธมิตรคนสำคัญ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน)  หรือ AIS  ร่วมลงนามความร่วมมือ (MOU) ในโครงการ ‘คนไทยไร้ E-Waste’ ตั้งจุดทิ้งขยะอิเล็กทรอนิกส์ พร้อมขยายผลกับสถานศึกษาหรือโรงเรียนที่ใกล้เคียงเพื่อผลักดันการทิ้งและการกำจัดขยะอิเล็กทรอนิกส์อย่างถูกวิธี พร้อมส่งเสริมการสร้างองค์ความรู้ให้คนไทยตระหนักถึงปัญหาขยะอิเล็กทรอนิกส์ล้นโลก จึงเดินทางร่วมเป็นหนึ่งใน Ecosystem ในการบริหารจัดการขยะอิเล็กทรอนิกส์รวมถึงสร้างกระบวนการจัดเก็บเพื่อให้ขยะอิเล็กทรอนิกส์เข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลแบบ Zero Landfill ตามมาตรฐานสากล โดยมี คุณสายชล ทรัพย์มากอุดม หัวหน้าหน่วยธุรกิจประชาสัมพันธ์และงานธุรกิจสัมพันธ์ AIS เป็นผู้ร่วมลงนาม  

พร้อมกันนี้ ยังได้จับมือเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับบริษัทชั้นนำของประเทศญี่ปุ่น ซึ่งดำเนินธุรกิจที่หลากหลายอุตสาหกรรมและมีสาขาทั่วโลก บริษัท อิโตชู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (ITOCHU Corporation) แห่งประเทศญี่ปุ่น  เพื่อร่วมผลักดันและพัฒนาสร้างสรรค์นวัตกรรมประกันภัย ขยายช่องทางการจัดจำหน่าย เพื่อให้โอกาสคนไทยได้เข้าถึงการประกันภัยได้มากขึ้นอันจะเป็นการสร้างสังคมแห่งความยั่งยืนในอนาคต พร้อมกันนั้นยังเป็นการตอบสนองนโยบายของภาครัฐที่ส่งเสริมให้มีการลงทุนจากต่างประเทศเข้ามาในประเทศให้มากขึ้น อันเป็นส่วนสำคัญในการเร่งการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ โดยมี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ของ บริษัท อิโตชู ประเทศไทย จำกัด (ITOCHU Thailand) คุณมิสึอากิ ทานากะ (Mr. Mitsuaki Tanaka) ร่วมเป็นเกียรติภายในงานในวันนี้