Talk of The Town

JMART ปี 67 พลิกกำไร 1.14 พันลบ. หลังโกยส่วนแบ่ง “สุกี้ ตี๋น้อย” 350 ลบ. พ้นวิกฤตไม่รับรู้ผลขาดทุน SINGER


13 กุมภาพันธ์ 2568
JMART ประกาศงบปี 2567 พลิกมีกำไรสุทธิ 1,140.8 ล้านบาท หลังผลงานบริษัทเข้าสู่สภาวะปกติ แถมไม่มีส่วนแบ่งขาดทุนจาก SINGER พร้อมบุ๊กส่วนแบ่งกำไรจาก “สุกี้ ตี๋น้อย” สูงถึง 350.7 ล้านบาท จากผลกำไรสุทธิรวมกว่า 1,169 ล้านบาท

JMART ปี 67_S2T (เว็บ) copy_0.jpg

บริษัท เจมาร์ท กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ JMART รายงานว่า ปี 2567 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิเท่ากับ 1,140.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,587.8 ล้านบาท หรือ เพิ่มขึ้น 355.2% เมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อนหน้าที่ขาดทุนสุทธิ 447 ล้านบาท เนื่องจาก ปีปัจจุบันผลประกอบการของบริษัทฯ และบริษัทย่อยมีกำไรตามปกติ และไม่มีส่วนแบ่งขาดทุนจากเงินลงทุนใน บริษัท ซิง เกอร์ ประเทศไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SINGER เหมือนในปีที่ผ่านมา

กลุ่มบริษัทเจมาร์ท ยังคงดำเนินธุรกิจภายใต้การดำเนินงานร่วมกันของกลุ่มบริษัทย่อยและร่วม โดยมี 4 สายธุรกิจหลัก ที่เน้นการประกอบธุรกิจในธุรกิจค้าปลีก และการเงิน ด้วยเทคโนโลยี ภายใต้ปณิธานของการดำเนินงานในแนวคิด “The Power of Synergy” ซึ่งเป็นกลยุทธ์หลักที่สำคัญที่จะสร้างระบบนิเวศน์ในการดำเนินงาน (Ecosystem) เพื่อสร้างผลตอบแทนให้กับผู้ถือหุ้น

ธุรกิจจัดจำหน่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่และอุปกรณ์เสริม ในปี 2567 ที่ผ่านมา มีจานวนสาขาที่เปิดทั่วประเทศ 309 สาขา มียอดขายลดลง 1% จากปีที่ผ่านมา โดยมียอดขายอยู่ที่ระดับ 8,605 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิเท่ากับ 90 ล้านบาท เนื่องจาก สภาวะของการแข่งขัน และสภาวะเศรษฐกิจโดยรวมที่กำลังซื้อยังมีการชะลอตัว

ธุรกิจบริหารหนี้ด้อยคุณภาพ ยังคงเป็นธุรกิจที่มีผลประกอบการที่น่าพอใจอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2567 ที่ผ่านมามีกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นเท่ากับ 1,615.2 ล้านบาท ลดลง 19.7% จากปีก่อน เป็นผลจากการที่บริษัทมีการตั้งสำรอง Expected Credit Loss ที่เพิ่มขึ้นจากการจัดเก็บหนี้ที่น้อยกว่าประมาณการณ์ โดยเฉพาะในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2567

ธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ มีผลการดำเนินงานในปี 2567 มีผลกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นเท่ากับ 165.6 ล้านบาท ลดลง 14 % จากปีก่อนหน้า เนื่องจาก รายการปรับมูลค่ายุติธรรมที่ลดลง

ธุรกิจประกันภัย ปี 2567 มีรายได้ 227.2 ล้านบาท ลดลง 28.2% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากบริษัทฯ ได้พิจารณาการรับประกันภัย โดยพิจารณาถึงความเสี่ยงของประกันภัยเพื่อควบคุม Loss Ratio

ส่วนบริษัท บี เอ็น เอ็น เรสเตอรองท์ กรุ๊ป กำกัด (สุกี้ ตี๋น้อย หรือ Suki Teenoi)  บริษัทรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากการถือหุ้น 30% โดยปี 2567 ที่ผ่านมาบริษัทได้รับส่วนแบ่งกำไรจากการถือหุ้นเท่ากับ 350.7 ล้านบาท จากผลกำไรสุทธิรวม 1,169 ล้านบาท (ไม่รวมการปันส่วนราคาซื้อ (PPA)) และได้ดำเนินกิจกรรมการทางการตลาดร่วมกับกลุ่มบริษัทเจมาร์ท เช่น การนำคะแนนสะสมแลกเป็นค่าบุฟเฟต์ตามที่กำหนด เป็นต้น 

นอกจากนี้ ยังมีแผนร่วมมือกันในการเปิดร้าน Teenoi BBQ ในศูนย์การค้าของ JAS Asset ซึ่งได้เปิดไปแล้ว 1 สาขาที่ Jas Green Village คู้บอน เมื่อวันที่ 28 มกราคม 2568 ที่ผ่านมา