ไทม์ไลน์ควบรวม GULF-INTUCH กับชื่อบริษัทใหม่ “กัลฟ์ ดีเวลลอปเมนท์”
เกาะติดสถานการณ์ การควบรวมระหว่าง บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF และบริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ INTUCH
ขณะที่ ที่ประชุมคณะกรรมการทั้ง 2 บริษัท มีมติอนุมัติขอให้หยุดพักการซื้อขายหุ้นของบริษัทฯ เป็นระยะเวลา 9 วันทำการต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ โดยเริ่มตั้งแต่ วันที่ 21 มีนาคม 2568 ถึงวันที่ 2 เมษายน 2568 เพื่อการเตรียมการเกี่ยวกับการจัดสรรหุ้นของ NewCo ให้แก่ผู้ ถือหุ้นของบริษัทฯ รวมถึงการดำเนินการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการนำหลักทรัพย์ของ NewCo เข้าเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ
ทั้งนี้อนุมัติการจัดประชุมผู้ถือหุ้นร่วมระหว่างผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ และผู้ถือหุ้นของ INTUCH เพื่อพิจารณาเรื่องที่ เกี่ยวข้องกับธุรกรรมการควบบริษัทตามบทบัญญัติของมาตรา 148 แห่งพระราชบัญญัติบริษัทมหาชนจ ากัด พ.ศ. 2535 (รวมทั้งที่มีการแก้ไขเพิ่มเติม) ในวันที่ 25 มีนาคม 2568 เวลา 15.30 น.
โดยในวาระการประชุมผู้ถือหุ้นร่วม ระหวางผู้ถือหุ้นของ GULF และ INTUCH ซึ่งประเด็นที่น่าสนใจ คือ วาระที่ 1 พิจารณาอนุมัติชื่อของ New Co โดยคณะกรรมการบริษัทฯ เห็นสมควรเสนอให้ที่ประชุมผู้ถือหุ้นร่วมพิจารณาอนุมัติชื่อของ บริษัทใหม่ที่เกิดจากธุรกรรมการควบบริษัท (NewCo) ตามรายละเอียดที่เสนอ ได้แก่ บริษัท กัลฟ์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน)
ทั้งนี้กำหนดให้วันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2568 เป็นวันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิเข้าร่วมการประชุมผู้ถือหุ้นร่วม (Record Date) และกำหนดให้วันที่ 25 มีนาคม 2568 เป็นวันปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหุ้นเพื่อรวบรวมรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มี สิทธิได้รับการจัดสรรหุ้นของ NewCo (Book Closing Date)
ล่าสุดนางสาวยุพาพิน วังวิวัฒน์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน GULF เปิดเผยว่า “ปัจจุบัน บริษัทฯ อยู่ในกระบวนการการควบรวมกิจการกับ INTUCH ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในช่วงต้นไตรมาสที่ 2 ของปีนี้
โดยบริษัทใหม่ (NewCo) จะมีผลกำไรที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจาก NewCo จะมีสัดส่วนการถือหุ้นเพิ่มขึ้นใน ADVANC เป็น 40.44% จากเดิมถือทางอ้อมในสัดส่วน 19.16% ส่งผลให้ได้รับส่วนแบ่งกำไรเพิ่มขึ้นประมาณ 3,500 ล้านบาทต่อปี
ในขณะเดียวกัน กระแสเงินสดจะเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 6,000 ล้านบาทต่อปี ซึ่งสามารถรองรับการขยายธุรกิจของกลุ่มบริษัทฯ ในอนาคต
ขณะที่ความเห็นนักวิเคราะห์นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด เปิดเผยว่า ปัจจุบัน INTUCH อยู่ในกระบวนการควบรวมกันกับ GULF ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ราว 47% ใน INTUCH เพื่อปรับโครงสร้างกลายเป็น บ.ใหม่ (NewCo) หลังจากเสร็จขั้นตอนการรับซื้อหุ้นแบบ Conditional Voluntary Tender Offer (VTO) จากผู้ถือหุ้นของ ADVANC และ THCOM แล้วเสร็จ
ล่าสุดทั้ง INTUCH และ GULF ได้ประกาศจ่ายปันผลพิเศษ (INTUCH 6.54 บาท และ GULF 1.01 บาท) จากนั้นจะดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป คือ หยุดพักการซื้อขายหุ้น INTUCH และ GULF เพื่อเตรียมจัดสรรหุ้น NewCo รวมทั้งดำเนินการควบรวมบริษัทกัน โดยมีกรอบเวลาในการหยุดพักการซื้อขายหุ้นฯ และควบรวมเป็น บ. ใหม่ในช่วงปลายไตรมาส 1/68 - ต้นไตรมาส 2/68
ซื้อ INTUCH แปลงเป็นหุ้น บ.ใหม่ มีต้นทุนสูงกว่าการซื้อ GULF เพื่อไปแปลง
ทั้งนี้ภายหลังการควบรวมกับ GULF แล้ว INTUCH จะต้องถูกยกเลิกบริษัทไป อย่างไรก็ตามหากประเมินราคาเหมาะสมของ INTUCH ในระหว่างที่รอการควบรวม โดยอิงมูลค่าของบ.ใหม่ ที่จะเกิดขึ้น และการอิงอัตราการแลกหุ้นจากหุ้น INTUCH ไปเป็น บ. ใหม่ คือ 1 หุ้น INTUCH : 1.69335 หุ้น บ.ใหม่ โดยการอิงราคา บ. ใหม่ ที่ 68.25 บาท* (คำนวณจากธุรกิจพลังงานเดิมของ GULF และอิงราคาเป้าหมายใหม่สำหรับปี 2568 ของ ADVANC ที่ 316 บาท โดยยังไม่รวมธุรกิจใหม่ๆ) จะได้ราคาเหมาะสมของ INTUCH ในระหว่างรอการควบรวมที่ 115.50 บาท
ดังนั้นหากต้องการจะลงทุนใน บ.ใหม่ โดยที่ยังไม่มีหุ้น INTUCH หรือ GULF มองว่าการซื้อ INTUCH เพื่อนำไปแปลงเป็น บ.ใหม่ จะมีต้นทุนใกล้เคียงกับการซื้อ GULF เพื่อนำไปแปลง (อิงราคาปิด ณ 10 ก.พ. 68 และรวมประโยชน์จากปันผลพิเศษของทั้ง INTUCH และ GULF แล้ว)
โดยเนื่องจากต้นทุนในการแปลงหุ้นเป็น บ. ใหม่ ที่สูงกว่าการซื้อ GULF เพื่อไปแปลง ทำให้ปรับคำแนะนำการลงทุนสำหรับ INTUCH ลงจากเดิม “Outperform” เป็น “Neutral” รอรับปันผลพิเศษที่ราว 6.54 บาท/หุ้น หรือคิดเป็นผลตอบแทนในด้านปันผลรวมกันราว 6.6% ซึ่งถือว่าจูงใจ