Smart Investment

"กองทุนวายุภักษ์หนึ่ง" โผล่ถือ TIDLOR ต้นปีคว้าเข้าพอร์ต 18.11 ล้านหุ้น ดักหน้าประกาศกำไรปี 67 ออลไทม์ไฮ


15 กุมภาพันธ์ 2568

ตลาดหุ้นไทยในต้นปี 2568 ในช่วงครึ่งแรกของเดือนก.พ. แม้จะยังไม่ค่อยดีนัก ผลตอบแทนยังคงติดลบ และเป็นช่วงของเทศกาลการทยอยผลการดำเนินงานในงวดไตรมาส4/2567 และงวดปี 2567 แต่ก็ยังมีบริษัทจดทะเบียนที่มีกำไรเติบโตได้อย่างน่าสนใจ

กองทุนวายุภักษ์หนึ่ง โผล่ถือ TIDLOR_S2T (เว็บ) copy.jpg

บริษัท เงินติดล้อ จำกัด (มหาชน) TIDLOR เป็นหนึ่งในบริษัทที่ประกาศผลกำไรในงวดปี 2567 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดใหม่อยู่ที่จำนวน 4,230.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.6%  จากผลการดำเนินงานในปี2566 ที่ 3,790.4 ล้านบาท ซึ่งการเพิ่มขึ้นส่วนใหญ่เป็นผลจากการเติบโตของรายได้จากขยายตัวของทั้งธุรกิจสินเชื่อ และธุรกิจนายหน้าประกันภัย และ การเพิ่มขึ้นของส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิ

สำหรับรายได้รวม 22,160.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16.8%  โดยรายได้หลักมาจากรายได้ดอกเบี้ยรับจากเงินให้กู้ยืม และ ลูกหนี้ตามสัญญาเช่าซื้อที่เพิ่มขึ้น 18.2%  และ รายได้ค่าธรรมเนียมและบริการที่เพิ่มขึ้น 10.5%  ในขณะที่มีค่าใช้จ่ายรวมจำนวน16,877.6 ล้านบาท โดยเป็นผลมาจากการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร ซึ่งสอดคล้องกับการขยายตัวของฐานลูกค้า และธุรกิจ

ทั้งนี้จากการสำรวจข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย พบว่าจากโครงสร้างผู้ถือหุ้นของ TIDLOR ซึ่งปิดสมุดทะเบียนรายชื่อผู้ถือหุ้นในเดือนม.ค. 2568 มีกองทุนรวมวายุภักษ์หนึ่งได้เข้ามาถือหุ้น จำนวน 18,119,366 หุ้นคิดเป็น 0.62% จากเดิมไม่เคยปรากฎรายชื่อผู้ถือหุ้นมาก่อน ดังนั้นแสดงว่าได้เข้าทยอยซื้อหุ้นก่อนหน้านี้ 

สำหรับโครงสร้างผู้ถือหุ้นล่าสุด ณ วันที่ 6 ม.ค. 2568 ประกอบด้วย ธนาคาร กรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)  ถือหุ้น 874,078,998 หุ้นคิดเป็น 30.002% SIAM ASIA CREDIT ACCESS PTE. LTD. 472,914,456หุ้นคิดเป็น16.23%บริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด 217,173,860หุ้นคิดเป็น7.45% 9 BASIL PTE. LTD. 101,680,769หุ้นคิดเป็น3.49% SOUTH EAST ASIA UK (TYPE C) NOMINEES LIMITED 54,345,452 หุ้นคิดเป็น1.87%

กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ทิสโก้มาสเตอร์ร่วมทุน ซึ่งจดทะเบียนแล้ว 53,575,230หุ้นคิดเป็น 1.84% กองทุนรวม วายุภักษ์หนึ่ง18,119,366หุ้นคิดเป็น0.62%กองทุนเปิด ทิสโก้สแตรทิจิก ฟันด์ 15,650,000หุ้นคิดเป็น 0.54% STATE STREET EUROPE LIMITED14,264,434หุ้นคิดเป็น0.49% กองทุนเปิด กรุงศรีหุ้นระยะยาวปันผล LTF 12,956,444 หุ้นคิดเป็น0.44%

บล.บัวหลวง ระบุว่าแนะนำซื้อ  TIDLOR ราคาเป้าหมายใหม่ที่ 20.00 บาท เนื่องจาก TIDLOR รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 4/67 ที่ 1.0 พันล้านบาท เป็นไปตามที่เราและตลาดคาด โดยเพิ่มขึ้น 16% จากปีก่อน และ 5% จากไตรมาสก่อน มีปัจจัยสนับสนุนจากสินเชื่อเติบโตและ Credit cost ลดลง ด้านคุณภาพสินทรัพย์แข็งแกร่งขึ้น 

เราคาดกำไรสุทธิไตรมาส 1/68 จะเพิ่มขึ้นจากปีก่อน และไตรมาสก่อน จากสินเชื่อเติบโต และค่าใช้จ่าย OPEX ลดลง เราปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 68 ขึ้น 2% คาดกำไรสุทธิปี 68 จะเพิ่มขึ้น 12% จากปีก่อน เรายังแนะนำซื้อ ราคาเป้าหมายใหม่ที่ 20 บาท

ขณะที่บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส แนะนำซื้อ TIDLOR  ราคาพื้นฐาน 21 บาท เนื่องจากกำไรสุทธิปี 67 ทำสถิติสูงสุดใหม่ หนุนโดยรายได้ที่เพิ่มขึ้น โดยกำไรสุทธิไตรมาส 4/67 เป็นไปตามคาด โดยเติบโตแข็งแกร่ง 15.9% จากปีก่อน +5.4% จากไตรมาสก่อน เป็น 1.04 พันล้านบาท 

ส่วนกำไรสุทธิปี 67 อยู่ที่ 4.2 พันล้านบาทสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยขยายตัว 11.6% จากปีก่อน จากรายได้เพิ่มขึ้น ทั้งจากปล่อยสินเชื่อและขายประกัน แม้ค่าใช้จ่ายดำเนินงานและ Credit cost จะสูงขึ้นก็ตาม

สำหรับปัจจัยหนุนการเติบโตจากปีก่อน ในไตรมาส 4/67 คือ รายได้ดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น (จากการขยายตัวของสินเชื่อและ NIM) รายได้ค่าธรรมเนียมสูงขึ้น (จากการเติบโตของยอดขายเบี้ยประกัน) และ Credit cost ลดลง ส่วนการเพิ่มจากไตรมาสก่อน มาจากรายได้ค่าธรรมเนียมที่เพิ่มขึ้นและ Credit cost ลดลง

ขณะที่สินเชื่อไตรมาส 4/67 ขยายตัว 6.6% จากปีก่อน และ +1.2% จากไตรมาสก่อน สู่ระดับ 103.9 พันล้านบาท ณ สิ้นปี 24 การเติบโตของสินเชื่อที่ชะลอตัวสอดคล้องกับกลยุทธ์ระมัดระวังการปล่อยสินเชื่อของบริษัท ทั้งนี้ สินเชื่อจำนำทะเบียนรถเพิ่มขึ้น +8.9% y/y และ +1.9% q/q ขณะที่สินเชื่อเช่าซื้อ (HP) ลดลง -12.5% จากปีก่อน และ -5.6% จากไตรมาสก่อน

NPL ratio ลดลงเป็น 1.81% ณ สิ้นไตรมาส 4/67 (เทียบกับ 1.88% ณ 3Q24) ขณะที่ Credit cost ลดเป็น 2.72% ใน 4Q24 (เทียบกับ 3.91% ในไตรมาส 3/67) ซึ่งเป็นผลมาจากคุณภาพสินเชื่อที่ดีขึ้นและการตัดหนี้สูญที่ลดลง ด้าน Coverage Ratio เพิ่มเป็น 243% ณ สิ้นปี 24 (เทียบกับ 231% ณ สิ้น ไตรมาส 3/67) ขณะที่ Credit cost ปี 67 เพิ่มเป็น 3.40% (เทียบกับ 3.34% ในปี 66) คงคำแนะนำซื้อ ให้ราคาพื้นฐาน 21 บาท

สำหรับพอร์ตลงทุนของกองทุนวายุภักษ์หนึ่ง ซึ่งไม่นับรวมที่บริหารโดยบลจ.ต่างๆ พบว่า ปัจจุบันมีการถือครองหุ้นประกอบด้วย ADVANC 17,800,000 หุ้น คิดเป็น 0.60% AOT 180,583,600หุ้น คิดเป็น1.26% BBL 10,000,000 หุ้นคิดเป็น0.52% BCP 188,200,000หุ้น คิดเป็น13.67% BSRC 25,000,000 หุ้นคิดเป็น 0.72%GLOBAL26,000,000 หุ้นคิดเป็น0.52% HANA 30,215,300 หุ้นคิดเป็น 3.41% HMPRO 72,000,000 หุ้นคิดเป็น0.55% KBANK 12,600,000 หุ้นคิดเป็น0.53%

LH 100,002,000หุ้นคิดเป็น0.84% SCB 549,600,000หุ้นคิดเป็น16.32% SCC 6,200,000 หุ้นคิดเป็น0.52% SCGP 22,200,000 หุ้นคิดเป็น0.52% TFFIF 93,635,600หุ้นคิดเป็น 2.05% TIDLOR 18,119,366 หุ้นคิดเป็น 0.62% TTB 6,673,600,000 หุ้นคิดเป็น 6.85%  

กองทุนวายุภักษ์หนึ่ง โผล่ถือ TIDLOR_S2T (เพจ) copy.jpg