Gossip Station by..เจ๊จิ๋ม 17-02-25 (SCB-AOT-คิงพาวเวอร์=อีรุงตุงนัง!!!)
Gossip Station by..เจ๊จิ๋ม 17-02-25 (SCB-AOT-คิงพาวเวอร์=อีรุงตุงนัง!!!)
17-02-25 สวัสดีปีใหม่ 2568 “ปีงูไฟ" ค่ะพี่น้องชาวไทยที่รัก "เจ๊จิ๋ม" มารายงานตัว ณ ที่เก่าเวลาเดิม www.share2trade.com เปิดอ่านได้เลยมีเรื่องเด็ดๆ โดนๆ มาเม้าท์กันให้สนั่นวงการลงทุนของพวกเรากันเถอะ
***วันศุกร์ที่ผ่านมาดาวโจนส์ปิดที่ 44,546.08 จุด ลดลง 165.35 จุด หรือ -0.37%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 6,114.63 จุด ลดลง 0.44 จุด หรือ -0.01% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 20,026.77 จุด เพิ่มขึ้น 81.13 จุด หรือ -0.41%
***รายงานข่าวระบุว่า ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบในวันศุกร์ (14 ก.พ.) แต่การปรับตัวขึ้นของหุ้นอินวิเดีย (Nvidia) หนุนดัชนี Nasdaq ปิดบวก ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ลดลง หลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศแผนการเรียกเก็บภาษีตอบโต้ แต่ยังไม่ได้กำหนดภาษีใหม่เพิ่มเติม
***“โฮเวิร์ด ลุตนิค” ซึ่งได้รับการเสนอชื่อจากทรัมป์ให้เป็นรัฐมนตรีพาณิชย์กล่าวว่า รัฐบาลจะพิจารณาแต่ละประเทศเป็นรายกรณี และคาดว่าการศึกษาในประเด็นนี้จะเสร็จสิ้นภายในวันที่ 1 เม.ย.การเก็บภาษีนำเข้าเหล็กและอะลูมิเนียม, การเพิ่มขึ้นของดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ในเดือนม.ค.ที่สูงกว่าคาดการณ์ และความเห็นในเชิงคุมเข้มนโยบายของเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ล้วนเป็นปัจจัยที่ทำให้ตลาดผันผวนในสัปดาห์นี้
***ปล.ตลาดหุ้นสหรัฐฯ จะปิดทำการในวันจันทร์ (17 ก.พ.) เนื่องในวันประธานาธิบดี ส่วนตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์นี้..เป็นไปได้สูงว่าจะปรับตัวลดลงได้อีก บอกตรงๆ เจ๊ยังมองไม่เห็นปัจจัยบวกมาหนุนเลยอ่ะ
***หัวจะปวด!!!กับความอีรุงตุนังของ SCB-AOT-คิงพาวเวอร์=อีรุงตุงนัง!!! เรื่องนี้คงเริ่มจาก AOT ที่ราคารูดแรง ศุกร์ที่ผ่านมาปิดที่ 47 บาท ลดลง 7.50 บาท ซื้อขายรวมมากเป็นอับดับหนึ่งของตลาดเลย!!! 8,718 ลบ. ( รอบหนึ่งปีที่ผ่านมาราคาหุ้น AOT ขึ้นไปสูงสุดที่ 67.50 บาท และ ไหลลงไปต่ำสุดที่ 46.50 บาท)
***ส่วน SCB มีมูลค่าการซื้อขายรองลงมามากเป็นอันดับที่สอง 3,265 ลบ. ทางด้านราคาหุ้นปิดที่ 120.50 บาทลดลง 4 บาท ( รอบหนึ่งปีที่ผ่านมาราคาหุ้น SCB ขึ้นไปสูงสุดที่ 127.50 บาท และ ไหลลงไปต่ำสุดที่ 100 บาท)
***ต้นเหตุของเรื่องเริ่มกันที่ม่ข่าวว่า “คิงพาเวอร์”ขนาดสภาพคล่องจึงมาเจรจาขอเลื่อนจ่ายค่าตอบแทนให้กับ AOT ซึ่งม้นหมายถึงรายได้จะลดลง..เรื่องราวเลยลุกลามไปถึง SCB ผู้เป็นเจ้าหนี้ และหวั่นวิตกกันว่าอาจส่งผลกระทบต่อการชำระหนี้ต่อธนาคาร ลุกลามกันเป็นลูกโซ่ต่อๆ กันไป
***กูรูหุ้นในวงการตั้งข้อสังเกตุว่า
1. AOT อาจต้องตั้งสำรองหนี้สงสัยจะสูญ
2. ถ้า King Power ไม่ไหวอาจต้องจัดประมูลใหม่ ซึ่งก็คาดว่า Minimum Guarantee อาจไม่สูงเท่าเดิม (ราว 25,000 ล้านบาทต่อปี)
ทั้งนี้ ในการทำสัญญา AOT จะมีการให้เอกชนวาง Bank Guarantee (ระยะเวลา 2 ปี) ดังนั้นเบื้องต้นกรณีการตั้งสำรองหนี้สงสัยจะสูญคงไม่น่ากังวลเท่าไร ที่น่ากังวลน่าจะอยู่ที่หากประมูลใหม่แล้ว Minimum Guarantee ต่ำกว่าเดิม ซึ่งเดิมก่อนที่จะเป็นสัญญาใหม่ Minimum Guarantee อยู่ที่ราว 11,187 ล้านบาทต่อปีแปลว่ารายได้ AOT อาจจะหายไปราว 14,000 ล้านบาท ถ้าประมูลใหม่แล้ว Minimum Guarantee ลดลงไปเหลือเท่าสัญญาเก่า
***หมายเหตุ : ความอีรุงตุงนังครั้งนี้ คือ ความเสี่ยงขึ้นอยู่กับว่าฐานะทางการเงิน King Power น่ากังวลมากน้อยเพียงใด มันมากเท่ากับที่ตลาดฯกังวลกันหรือไม่
***ส่วนสถานการณ์ของหุ้นทั้งสองตัววันนี้ ..ในมุมมองเจ๊จิ๋มคิดว่ารอดยาก เพราะอยู่ในจังหวะฝุ่นตลบ!!! ยังไม่ชัดแจ้ง ว่าจะเป็นแบบไหน บวกกับสภาพตลาดที่ห่อเหี่ยว อีกทั้งยังไม่มีปัจจัยบวกมาหนุนแบบนี้ เฮ้อ!!! ถอนหายใจหนักๆ ไปหลายที
***DELTA ประกาศผลงานปี 2567 แล้ว..ยังไปต่อได้!!! โดยมีกำไร 18,938 ลบ. กำไรต่อหุ้น 1.52 บาท เพิ่มจากปี 2566 ที่ทำกำไรไว้ 18,422 ลบ. และมีกำไรต่อหุ้น 1.48 บาท พร้อมกันนี้บอร์ดได้มีมติให้จ่ายเงินปันผลด้วย!!! ในอัตราหุ้นละ 0.46 บาท มีกำหนดขึ้น XD วันที่ 27 ก.พ. 2568 และจะจ่ายปันผลเป็นเงินสด วันที่ 28 เม.ย. 2568
***ปิดท้ายวันนี้กับความเคลื่อนไหวของ DEMCO มีรายงานว่าล่าสุดบอร์ดไฟเขียวแต่งตั้ง “สมพงษ์ ปรีเปรม” อดีตผู้ว่าการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) นั่งเก้าอี้กรรมการคนใหม่ ควบอีก 2 ตำแหน่งทั้งประธานกรรมการลงทุน และประธานกรรมการบริหาร มีผล 14 กุมภาพันธ์นี้ เรียกได้ว่าเป็นผู้มีคุณสมบัติครบครัน พรั่งพร้อมไปด้วยประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในแวดวงพลังงาน มาร่วมเสริมทัพ ช่วยผลักดันธุรกิจเติบโตอย่างมั่นคง ร่วมกับทีมผู้บริหาร นำโดยซีอีโอคนเก่ง “พงษ์ศักดิ์ ศิริคุปต์” งานนี้อย่ากระพริบตา จับตารอชม แผนธุรกิจใหม่ๆ ของ DEMCO ที่จะทำให้บริษัทฯ เติบโตอย่างโดดเด่นได้เลย!!