DELTA สาหัส! ราคาดิ่งฟลอร์ ผวางบไตรมาส 4/67 ต่ำกว่าคาด เคราะห์ซ้ำหวั่นโดนหั่นน้ำหนักลงทุน

หุ้นไทยสาหัส! ล่าสุดราคาหุ้นบริษัทเดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ DELTA เปิดการซื้อขายที่ระดับฟลอร์ หรืออ 79.25 บาท 

โดย DELTA มีแรงกดดันจาก ผลประกอบการปี 2567  มีกำไรสุทธิ 1.8 หมื่นล้านบาท เติบโตเพียง 2.8% จากปีก่อน โดยปี 2567 ขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนจำนวน 70 ล้านบาท เทียบกับกำไรจำนวน 675 ล้านบาทในปี 2566 เนื่องจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ อ่อนค่าลงอย่างมากเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักอื่นๆ ในช่วงครึ่งหลังของปี 2567 

ทั้งนี้เนื่องจากมีการคาคการณ์ว่า FED จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยหลายครั้งในปี 2568 อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ยังคงปฏิบัติตามนโยบายที่รอบคอบในการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนสุทธิของแต่ละสกุลเงินเพื่อลลดผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน

ขณะที่ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร (รวมถึงการวิจัยและพัฒนา) ในปี 2567 เพิ่มขึ้น 46.2% จากปีก่อน เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของค่าลิขสิทธิ์จึงเป็นไปในทิศทางเดียวกับการเพิ่มขึ้นของรายได้จากการขายพร้อมกับค่าธรรมเนียมการสนับสนุนทางเทคนิดที่เกี่ยวกับAI เพื่อรองรับความต้องการตลาดที่เพิ่มขึ้นในแอปพลิเคชันที่ขับเคลื่อนด้วย AI จากการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารตามที่กล่าวไว้ก่อนหน้านี้ ส่งผลให้กำไรสุทธิในปี 2567 อยู่ในระดับดังกล่าว

ความเห็นนักวิเคราะห์บริษัท หลักทรัพย์ ธนชาต จำกัด (มหาชน) ระบุว่า กำไรไตรมาส 4/67 ของ DELTA ออกมาน่าผิดหวังมาก แม้ยอดขายยังคงแข็งแกร่ง แต่ต้นทุนกลับสูงกว่าที่คาดไว้มาก โดยมีรายการต้นทุนใหม่บางรายการ เนื่องจากความไม่แน่นอนเกี่ยวกับแนวโน้มต้นทุน เราจึงปรับลดคำแนะนำ DELTA เป็น “ขาย” และปรับราคาเป้าหมายลงเหลือ 80 บาท

ความเห็นนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) ระบุว่า ในเบื้องต้น ผลกระทบต่างๆโดยเฉพาะด้านต้นทุน ที่กำลังจะเพิ่มขึ้นใน 2568 ถือว่าเป็นความเสี่ยงอย่างมาก โดยเฉพาะประเด็น GMT อาจจะทำให้กำไรปี 2568 ของ DELTA ทำได้เพียงทรงตัวหรือเติบโตได้เพียงเล็กน้อย ดังนั้นเรามองว่าตลาดอาจจะมีการปรับประมาณการกำไรของ DELTA สูงถึงระดับ 20% ได้ ทำให้ผลกระทบต่อราคาหุ้นยังมี Downside บน EPS และ P/E multiple อยู่มาก

หวั่นโดนหั่นน้ำหนักลงทุน

ด้านนางสาวรินใจ ชาครพิพัฒน์ รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานการตลาด ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) และกรรมการผู้จัดการ บริษัท ตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) (TFEX) เปิดเผยว่า คาดว่าภายในช่วงกลางปี 2568 นี้จะประกาศใช้เกณฑ์กำหนดให้หุ้นรายตัวใน SET50, SET100, SET50FF และ SET100FF มีน้ำหนักไม่เกิน 10% 

หลังจากที่ขณะนี้อยู่ระหว่างการเปิดรับฟังความคิดเห็นของผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ทั้งนี้หากไม่มีการคัดค้าน คาดว่าจะสามารถประกาศใช้หลักเกณฑ์ดังกล่าวได้ทันทีในรอบการคำนวณช่วงกลางปี 2568 ซึ่งตรงตามกฏก.ล.ต.ห้ามกองทุนรวมซื้อหุ้นเกิน 10% ของพอร์ต โดยเชื่อว่าหากเกณฑ์ดังกล่าวมีผลบังคับใช้จะช่วยลดความผันผวน และลดการพึ่งพาของหุ้นตัวใดตัวหนึ่งได้ และส่งผลให้ดัชนีเคลื่อนไหวตามปัจจัยพื้นฐานที่แท้จริง