Fund / Insurance
คปภ.ร่วมประชุมนายทะเบียนประกันภัยเอเชีย พัฒนาระบบให้เป็นสากลสร้าวความเข้มแข็ง
17 กุมภาพันธ์ 2568
คปภ. ร่วมเวทีประชุมนายทะเบียนประกันภัยเอเชีย ครั้งที่ 19 และการประชุมระดับสูงหน่วยงานกำกับดูแลธุรกิจประกันภัยในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ครั้งที่ 7 ณ ประเทศเนปาล

นายชูฉัตร ประมูลผล เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (เลขาธิการ คปภ.) มอบหมายให้ นางสาววสุมดี วสีนนท์ รองเลขาธิการ ด้านกำกับคนกลางและประกันภัยภูมิภาค เป็นผู้แทนเข้าร่วมการประชุมนายทะเบียนประกันภัยเอเชีย ครั้งที่ 19 (AFIR 19th Annual Meeting and Conference หรือ AMC) และการประชุมผู้บริหารระดับสูงหน่วยงานกำกับดูแลธุรกิจประกันภัยในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ครั้งที่ 7 (7th Asia-Pacific High-Level Meeting on Insurance Supervision หรือ HLM) ประจำปี 2567 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 20 - 22 มกราคม 2568 ณ กรุงกาฐมาณฑุ ประเทศเนปาล ภายใต้แนวคิด “Safeguarding Tomorrow : Unifying Efforts to Bridge the Protection Gap and Climate Risk”
โดยการประชุม AMC ครั้งที่ 19 มุ่งเน้นประเด็นสำคัญ ได้แก่ การปฏิรูปการดำเนินงานของหน่วยงานกำกับดูแล การกำกับความมั่นคงตามระดับความเสี่ยงเพื่ออนาคต บทบาทของหน่วยงานกำกับดูแลในการลดช่องว่างความคุ้มครองประกันภัย และการพัฒนา AI และนวัตกรรมทางการเงินในภาคการประกันภัย ส่วนการประชุม HLM ครั้งที่ 7 ได้หารือเกี่ยวกับความพร้อมรับมือการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ แนวทางของเนปาลในการลดช่องว่างความคุ้มครอง กลยุทธ์ของ NAIC ในการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ รวมถึงแนวทางลดช่องว่างความคุ้มครองจากภัยธรรมชาติและเสริมสร้างความสามารถในการฟื้นตัวของภูมิภาคเอเชีย
ในโอกาสนี้ สำนักงาน คปภ. ได้นำเสนอโครงการประกันภัยพืชผล (Crop Insurance Scheme) ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน (PPP) ที่ประสบความสำเร็จในการขยายการเข้าถึงความคุ้มครองด้านประกันภัยแก่เกษตรกรไทย และลดช่องว่างความคุ้มครองจากมหันตภัยทางธรรมชาติ ซึ่งได้รับความสนใจจากผู้ร่วมประชุมเป็นอย่างมาก
“ปัจจุบัน ธุรกิจประกันภัยทั่วโลกกำลังเผชิญกับความเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญที่นำมาซึ่งความเสี่ยงรูปแบบใหม่ ๆ สำนักงาน คปภ. ในฐานะหน่วยงานกำกับดูแลธุรกิจประกันภัย จึงต้องบูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานกำกับดูแลในภูมิภาคต่าง ๆ เพื่อพัฒนาระบบการกำกับดูแลให้สอดคล้องกับมาตรฐานสากล และสร้างระบบประกันภัยที่แข็งแกร่ง รองรับความเสี่ยงที่เปลี่ยนแปลงไปในอนาคต พร้อมนำกลยุทธ์ที่ทันต่อเหตุการณ์มาใช้ในการกำกับ ดูแล และส่งเสริมให้ธุรกิจประกันภัยมีความเข้มแข็งและยั่งยืน การประชุมครั้งนี้จึงเป็นโอกาสสำคัญในการพัฒนาความร่วมมือระหว่างหน่วยงานกำกับดูแลธุรกิจประกันภัยในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก โดยเฉพาะในประเด็นการระบุและลดช่องว่างความคุ้มครองด้านการประกันภัย ซึ่งเป็นประเด็นที่ทั่วโลกให้ความสำคัญ” รองเลขาธิการ ด้านกำกับคนกลางและประกันภัยภูมิภาค กล่าว

นายชูฉัตร ประมูลผล เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (เลขาธิการ คปภ.) มอบหมายให้ นางสาววสุมดี วสีนนท์ รองเลขาธิการ ด้านกำกับคนกลางและประกันภัยภูมิภาค เป็นผู้แทนเข้าร่วมการประชุมนายทะเบียนประกันภัยเอเชีย ครั้งที่ 19 (AFIR 19th Annual Meeting and Conference หรือ AMC) และการประชุมผู้บริหารระดับสูงหน่วยงานกำกับดูแลธุรกิจประกันภัยในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ครั้งที่ 7 (7th Asia-Pacific High-Level Meeting on Insurance Supervision หรือ HLM) ประจำปี 2567 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 20 - 22 มกราคม 2568 ณ กรุงกาฐมาณฑุ ประเทศเนปาล ภายใต้แนวคิด “Safeguarding Tomorrow : Unifying Efforts to Bridge the Protection Gap and Climate Risk”
โดยการประชุม AMC ครั้งที่ 19 มุ่งเน้นประเด็นสำคัญ ได้แก่ การปฏิรูปการดำเนินงานของหน่วยงานกำกับดูแล การกำกับความมั่นคงตามระดับความเสี่ยงเพื่ออนาคต บทบาทของหน่วยงานกำกับดูแลในการลดช่องว่างความคุ้มครองประกันภัย และการพัฒนา AI และนวัตกรรมทางการเงินในภาคการประกันภัย ส่วนการประชุม HLM ครั้งที่ 7 ได้หารือเกี่ยวกับความพร้อมรับมือการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ แนวทางของเนปาลในการลดช่องว่างความคุ้มครอง กลยุทธ์ของ NAIC ในการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ รวมถึงแนวทางลดช่องว่างความคุ้มครองจากภัยธรรมชาติและเสริมสร้างความสามารถในการฟื้นตัวของภูมิภาคเอเชีย
ในโอกาสนี้ สำนักงาน คปภ. ได้นำเสนอโครงการประกันภัยพืชผล (Crop Insurance Scheme) ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน (PPP) ที่ประสบความสำเร็จในการขยายการเข้าถึงความคุ้มครองด้านประกันภัยแก่เกษตรกรไทย และลดช่องว่างความคุ้มครองจากมหันตภัยทางธรรมชาติ ซึ่งได้รับความสนใจจากผู้ร่วมประชุมเป็นอย่างมาก
“ปัจจุบัน ธุรกิจประกันภัยทั่วโลกกำลังเผชิญกับความเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญที่นำมาซึ่งความเสี่ยงรูปแบบใหม่ ๆ สำนักงาน คปภ. ในฐานะหน่วยงานกำกับดูแลธุรกิจประกันภัย จึงต้องบูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานกำกับดูแลในภูมิภาคต่าง ๆ เพื่อพัฒนาระบบการกำกับดูแลให้สอดคล้องกับมาตรฐานสากล และสร้างระบบประกันภัยที่แข็งแกร่ง รองรับความเสี่ยงที่เปลี่ยนแปลงไปในอนาคต พร้อมนำกลยุทธ์ที่ทันต่อเหตุการณ์มาใช้ในการกำกับ ดูแล และส่งเสริมให้ธุรกิจประกันภัยมีความเข้มแข็งและยั่งยืน การประชุมครั้งนี้จึงเป็นโอกาสสำคัญในการพัฒนาความร่วมมือระหว่างหน่วยงานกำกับดูแลธุรกิจประกันภัยในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก โดยเฉพาะในประเด็นการระบุและลดช่องว่างความคุ้มครองด้านการประกันภัย ซึ่งเป็นประเด็นที่ทั่วโลกให้ความสำคัญ” รองเลขาธิการ ด้านกำกับคนกลางและประกันภัยภูมิภาค กล่าว