Talk of The Town

SSP ปักหมุดสู่การเติบโตครั้งใหม่ ทยอยจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบต่อเนื่อง 5 ปี


18 กุมภาพันธ์ 2568

น่าจับตา! สำหรับบริษัท เสริมสร้าง พาวเวอร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SSP ผู้ประกอบธุรกิจโดยการถือหุ้นในบริษัทอื่น (Holding Company) ที่ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน และธุรกิจที่เกี่ยวข้องอื่นๆ ทั้งในและต่างประเทศ ทั้งนี้มีบริษัท เสริมสร้าง พลังงาน จำกัด เป็นบริษัทแกน ดำเนินโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ตั้งอยู่ที่ จ.ลพบุรี

SSP ปักหมุดสู่การเติบโตครั้งใหม่_S2T (เว็บ).jpg

SSP ปักหมุดเข้าสู่โหมดการเติบโตรอบใหม่ เริ่มทยอย COD โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนต่างๆ ตั้งแต่ปี 2568 ต่อเนื่องยาวไปอีก 5 ปี ทั้งในประเทศและต่างประเทศกว่า 400 MW พร้อมวางเป้าแผนกำลังการผลิตแตะ 1 GW ภายในปี 2575 

ล่าสุดที่ประชุมคณะกรรมการของบริษัท เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2568 มีมติอนุมัติโครงการซื้อหุ้นคืนของบริษัท เพื่อบริหารทางการเงิน (Treasury Stock) ภายในวงเงินจำนวนไม่เกิน 200 ล้านบาท และจำนวนหุ้นที่จะซื้อคืนไม่เกิน 35,000,000 หุ้น โดยกำหนดระยะเวลาที่จะซื้อหุ้นคืนตั้งแต่วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2568 ถึงวันที่ 17 สิงหาคม 2568

สำหรับเหตุผลในการซื้อหุ้นคืน เพื่อเป็นการบริหารสภาพคล่องส่วนเกินของบริษัท ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ประกอบกับเพื่อเพิ่มอัตราผลตอบแทนให้แก่ส่วนของผู้ถือหุ้น (ROE) รวมทั้งเพิ่มกําไรสุทธิต่อหุ้น (EPS) และเพื่อสร้างความเชื่อมั่นต่อสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่งและความสามารถในการทำกําไรของบริษัท

ความเห็นนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ระบุว่า มีมุมมองเป็นบวกต่อประเด็นดังกล่าว มองว่าการซื้อหุ้นคืนจะช่วยจำกัด Downside ของราคาหุ้นในระยะสั้น-กลาง รวมไปถึงเพิ่ม ROE และ EPS ได้ในอนาคต คงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเหมาะสมที่ 6.80 บาท

ขณะที่บทวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ระบุว่า คาดกำไรปกติไตรมาส 4/67 ที่ 302 ล้านบาท เติบโต 112% จากไตรมาสก่อน และ 82% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ทำระดับสูงสุดใหม่รายไตรมาส 

แม้ถูกกดดันจากการที่โครงการแสงอาทิตย์ SPN (โครงการรูปแบบ Adder ขนาด 40MW) ยังอยู่ระหว่างการหยุดดำเนินงานบางส่วนเพื่อเปลี่ยนแผง Solar PV และการเข้าสู่ช่วงฤดูหนาวของญี่ปุ่น เพราะได้แรงหนุนจาก 

1. คาดรายได้ของโครงการลมในไทย (วินชัย, ขนาด 45MW) เพิ่มขึ้นตามปัจจัยฤดูกาลและการเปลี่ยนจากการรับรู้ส่วนแบ่งกำไรเป็นการรวมงบการเงินหลังเพิ่มสัดส่วนการลงทุนเป็น 100% ในช่วงไตรมาส 1/67 (ในช่วงไตรมาส 4/66 ถือหุ้น 25% และรับรู้ส่วนแบ่งกำไร 42 ล้านบาท) 

2.คาดรายได้ของโครงการลมในเวียดนามที่สูงขึ้นตามปัจจัยฤดูกาล และ 3. คาดค่าใช้จ่าย SG&A ที่ 92 ล้านบาท ลดลง 12% จากไตรมาสก่อน ลดลง 25% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน หากกำ ไรปกติไตรมาส 4/67 ออกมาใกล้เคียงคาดกำ ไรปกติปี 2024 จะอยู่ที่ 825 ล้านบาท ลดลง 4% จากปีก่อน ใกล้เคียงกับประมาณการของฝ่ายวิจัย

ขณะที่คาดกำไรปกติไตรมาส 1/68 ที่ราว 250 ล้านบาท ลดลงจากไตรมาสก่อนจากฐานที่สูงตามปัจจัยฤดูกาลของ โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในญี่ปุ่นและโครงการลมในเวียดนาม รวมถึงการรับรู้ผลกระทบจาก Adder ของโครงการแสงอาทิตย์ SPN ที่หมดลงในเดือน ม.ค. 

อย่างไรก็ตามคาดกำไรปกติจะสามารถทรงตัวได้จากช่วงเดียวกันของปีก่อน แม้รับรู้ผลกระทบจาก Adder ที่หมดลงเพราะสามารถชดเชยได้จากการรับรู้รายได้จากโครงการวินชัย ซึ่งอยู่ในช่วง High Season แบบเต็มไตรมาส 

หากมองไปช่วงไตรมาส 2/68 คาดกำไรปกติจะสามารถกลับมาเติบโตได้จากช่วงเดียวกันของปีก่อนอีกครั้ง เนื่องจากต้นทุนทางการเงินที่ลดลง หลังการปรับโครงสร้างหนี้ 

ขณะที่ปรับกำไรปี 2568-69 ลง 10% เป็น 874 ล้านบาท เติบโต 4% จากปี 2567 และ 914 ล้านบาท เติบโต 5% จากปี 2568 ตามลำดับ จากการปรับสมมติฐานค่าเงินเยน ลงเป็น 0.21 บาท/เยน เพื่อสะท้อนแนวโน้มค่าเงินเยนที่แข็งค่าช้ากว่าที่ประเมินไว้เดิม (ผลจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายของเฟดที่ช้ากว่าคาด) 

โดยมองว่ากำไรปกติปี 2568 จะยังสามารถเติบโตได้จากปีก่อน เนื่องจากการรับรู้รายได้จากการเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นในวินชัยแบบเต็มปี (ปี 2567 รับรู้ราว 10 เดือน) และปริมาณขายไฟฟ้าของโครงการ SPN ที่เพิ่มสูงขึ้นหลังเสร็จสิ้นการเปลี่ยนแผง Solar PV ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2568 รวมถึงการเริ่มรับรู้รายได้จากโครงการ Leo 2 ขนาด 16 MW ที่มีกำหนด COD ในช่วงต้นไตรมาส 4/68

SSP-ปักหมุดสู่การเติบโตครั้งใหม่.jpg

SSP