PTTGC งบปี 67 อ่วม! พลิกขาดทุนหนัก กว่า 2.98 หมื่นลบ. แบกด้อยค่า PTTAC- Vencorex
สาหัส! PTTGC งบปี 67 พลิกขาดทุน 2.98 หมื่นล้านบาท สาเหตุหลักจากการตั้งด้อยค่าปิดกิจการ PTTAC กว่า 1.17 หมื่นลบ. รวมถึงขาดทุนด้อยค่าสินทรัพย์ และประมาณการหนี้สินใน Vencorex อีกกว่า 1.02 หมื่นล้านบาท
บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ PTTGC รายงานผลประกอบการปี 2567 โดยมีรายได้จากการขายรวม 604,045 ล้านบาท ปรับตัวลดลงร้อยละ 2 โดยมีสาเหตุ สำคัญมาจากรายได้ของกลุ่มผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีขั้นต้นที่ปรับตัวลดลงจากราคาผลิตภัณฑ์ของกลุ่มผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมสำเร็จรูปและกลุ่มผลิตภัณฑ์อะโรเมติกส์ที่ลดลง แม้ว่าปริมาณการขายผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มผลิตภัณฑ์ ปิโตรเคมีขั้นกลางเนื่องจากในปี 2566 มีการหยุดซ่อมบำรุงตามแผนของโรงโมโนเอทิลีนไกลคอลในช่วงครึ่งปีแรก และโรงงานฟีนอลหน่วยที่ 2
โดยในภาพรวมในปี 2567 บริษัทฯ มี Adjusted EBITDA อยู่ที่ 31,766 ล้านบาท ปรับตัวลดลงร้อยละ 17 จากปีก่อนหน้า เนื่องจากผลประกอบการของกลุ่มผลิตภัณฑ์โรงกลั่นที่อ่อนตัวลงตาม GRM โดยส่วนต่างราคาน้ำมันดีเซลกับน้ำมันดิบ ปรับลดลงเป็นหลัก และผลประกอบการของกลุ่มผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมียังคงมีปัจจัยกดดันจากสภาวะเศรษฐกิจที่ยังชะลอตัวทำให้อุปสงค์ยังคงชะลอตัวและอุปทานของภาคปิโตรเคมีที่เข้ามาในระหว่างปี
นอกจากนี้บริษัทฯ รับรู้รายการที่ไม่ได้เกิดขึ้นจาก การดำเนินงานปกติ ได้แก่ ผลขาดทุนจากสต๊อกน้ำมัน (Stock loss) และรายการขาดทุนจากการปรับมูลค่าสินค้าคงเหลือให้ เท่ากับมูลค่าสุทธิที่จะได้รับ (NRV) รวม 2,457 ล้านบาท กำไรทางบัญชีจากอัตราแลกเปลี่ยนและกำไรจากตราสารอนุพันธ์ทาง การเงินรวม 383 ล้านบาท
บริษัทฯมีผลขาดทุนจากเงินลงทุนที่รับรู้ในปีนี้จำนวน 1,462 ล้านบาท ขาดทุนเพิ่มขึ้นจากปีก่อน หน้าเนื่องจากผลประกอบการของธุรกิจปิโตรเคมีที่อ่อนตัวลงในปีนี้โดยเฉพาะธุรกิจโพลิไวนิลคลอไรด์ (PVC) ที่ปรับลดลงตาม ส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ PVC เป็นหลัก
ในปี 2567 บริษัทฯ ได้ดำเนินแนวทางตามยุทธศาสตร์การบริหารจัดการ Portfolio ของธุรกิจให้เข้มแข็ง (Portfolio Transformation) เพื่อลดความเสี่ยงและสร้างความสามารถทางการแข่งขันในระยะยาว จึงดำเนินการปรับโครงสร้างธุรกิจ 2 บริษัท ได้แก่ 1) กลุ่มบริษัท Vencorex ผู้ผลิต HDI และ HDI Derivatives ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่บริษัทฯถือหุ้นร้อยละ 100 และ 2) PTTAC ซึ่งเป็นบริษัทร่วมค้าที่บริษัทฯ ถือหุ้นร้อยละ 50ในกลุ่มธุรกิจอะคริโลไนไตรล์และเมทิลเมทาคริเลต
โดยเมื่อวันที่ 6 กันยายน 2567 Vencorex France และ Vencorex TDI ได้ยื่นคำร้องต่อศาลแพ่ง เมืองลียง ประเทศฝรั่งเศส เพื่อขอเข้าสู่กระบวนการปรับปรุงโครงสร้างทางธุรกิจในชั้นศาล ตามกฎหมายของประเทศ ฝรั่งเศส และเมื่อวันที่ 10 กันยายน 2567 ศาลแพ่งได้มีคำสั่งรับคำร้องดังกล่าวเข้าสู่กระบวนการเบื้องต้น คาดว่าจะใช้เวลาพิจารณาทั้งสิ้นประมาณ 3-4เดือน ต่อมาเมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 2567 ศาลมีคำสั่งขยาย เวลาของกระบวนการดังกล่าวไปจนถึงเดือนมีนาคม 2568
อย่างไรก็ตามกลุ่มบริษัทได้รับรู้ประมาณการ หนี้สินสำหรับกระบวนการปรับปรุงโครงสร้างธุรกิจทั้งหมดไว้อย่างครบถ้วนแล้วในปี 2567 โดยบริษัทฯรับรู้ผลขาดทุนจากการด้อยค่าของสินทรัพย์ในกลุ่มบริษัท Vencorex และประมาณการหนี้สินของค่าใช้จ่าย อื่นๆสำหรับกระบวนการปรับปรุงโครงสร้างธุรกิจรวม 10,028 ล้านบาท
ปัจจุบัน Vencorex มีความคืบหน้าเพิ่มเติม โดยสินทรัพย์ ทั้งในประเทศฝรั่งเศส ประเทศไทย และประเทศ สหรัฐอเมริกา นั้นอยู่ระหว่างกระบวนการสรรหาผู้ซื้อ ซึ่งคาดว่าจะทยอยแล้วเสร็จในช่วงครึ่งแรกของปี 2568